สรุปมติที่ประชุม กทช. 35/2550

มติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (นอกสถานที่)
ครั้งที่ 35/2550
วันพุธที่ 12 กันยายน 2550  เวลา  09.30  น.
วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2550 เวลา 09.30 น.
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน  2550 เวลา 09.30 น.
ณโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี
 
ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

1.  พลเอกชูชาติ   พรหมพระสิทธิ์   ประธานกรรมการ
2.  นายเหรียญชัย  เรียววิไลสุข  กรรมการ
3.  นายสุชาติ   สุชาติเวชภูมิ  กรรมการ
4.  ศาสตราจารย์เศรษฐพร คูศรีพิทักษ์  กรรมการ
5.  รองศาสตราจารย์สุธรรม อยู่ในธรรม  กรรมการ
6.  นายสุรนันท์   วงศ์วิทยกำจร  เลขาธิการ

ระเบียบวาระที่  1   :  เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
     ขอให้การประชุม กทช.นอกสถานที่ในครั้งนี้ ดำเนินไปด้วยความราบรื่น สัมฤทธิ์ผลและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามวัตถุประสงค์ที่ กทช.และ สำนักงาน กทช.ได้กำหนดไว้  
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ระเบียบวาระที่  2  :  รับรองรายงานการประชุม
  -ไม่มี –
ระเบียบวาระที่ 3  :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 34/2550 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2550
 -ไม่มี – 
ระเบียบวาระที่  4  :  เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่ 4.1  :  โครงสร้างสำนักงานกทช. : รทช.ฐากรฯ, บค.  (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
             
1.  รับทราบสถานภาพ และผลการดำเนินงานของสำนักงาน กทช. ในช่วงเวลาที่ผ่านมาในการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างองค์กร โครงสร้างพนักงาน และโครงสร้างอัตรากำลังของสำนักงานฯเพื่อรองรับภารกิจการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ให้สามารถเดินหน้าไปได้ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
2.1 จัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการวิเคราะห์ จัดทำข้อเสนอแนะรูปแบบ และแนวทางการปรับโครงสร้างสำนักงาน กทช. โดยมี กทช.เศรษฐพรฯ  และ กทช.สุชาติฯ ช่วยกำกับดูแลเพื่อชี้แนะและให้คำปรึกษา โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานฯ ในส่วนงานด้านกฎหมาย โดยมี กทช.สุธรรมฯ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย (พลเอก ชูชาติ สุขสงวน) เข้าร่วมพิจารณาให้คำปรึกษาในส่วนนี้ด้วย แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. เพื่อพิจารณาต่อไป
2.2 รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามข้อ 2.1 โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยังไม่มีความชัดเจน ควรเน้นการปรับปรุงเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะสั้นไปก่อน ในประเด็นที่สำคัญๆ อาทิ ปี 2551 ควรเน้นในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) โดยกำหนดเป็นทีมงานแต่ละด้านรับผิดชอบ  การปรับ Function เพื่อเตรียมรับกฎหมายใหม่ ตลอดจนการริเริ่มจัดประชุมพบปะกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น อบต. เพื่อประชาสัมพันธ์ และชี้แจงทำความเข้าใจให้ได้รับทราบถึงบทบาทหน้าที่ของ กทช. ให้เป็นที่รู้จักได้กว้างขวางขึ้น เป็นต้น
ระเบียบวาระที่ 4.2  : รายงานการดำเนินการเกี่ยวกับตัวชี้วัด (KPI) : รทช.ฐากรฯ, บค.  (วันพุธที่ 12กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
             
1. รับทราบการรายงานผลการดำเนินการจัดทำตัวชี้วัด (KPI) ของพนักงาน ตามที่ สำนักงาน กทช.เสนอ
2. มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการเพื่อจัดทำ KPI ของสำนักงานฯและพนักงานให้เหมาะสมชัดเจน และง่ายต่อการปฏิบัติ ในประเด็นที่สำคัญๆ อาทิ
2.1 ให้ยึดถือการวัดผลตามภารกิจที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ การปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยธุรการให้แก่ กทช. และการเป็นตัวแทน กทช.ติดต่อกับหน่วยงาน/บุคคลภายนอก โดยการกำหนดตัวชี้วัดเพื่อวัดความพึงพอใจของ กทช.จากการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ของสำนักงานฯ และพนักงาน รวมทั้งการวัดความพึงพอใจของหน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่มาติดต่อ เพื่อรับบริการจากการปฏิบัติงานของสำนักงานฯ และพนักงาน อาทิ ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ หน่วยงานของรัฐ และสื่อมวลชน เป็นต้น 
2.2 ในการกำหนดตัวชี้วัด (KPI) จะต้องสามารถสะท้อนความสำเร็จ และผลการปฏิบัติงานขององค์กร และพนักงานได้อย่างชัดเจน
2.3 จัดทำ Re-grouping ตัวชี้วัด (KPI) ตามที่เสนอมาใหม่ให้เหมาะสมและพิจารณากำหนดมิติของการวัดทั้งในเชิงคุณภาพ ปริมาณ และ Speed ด้วย
     ทั้งนี้ ให้สำนักงานฯ พบหารือ กทช. แต่ละท่านอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอรับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมประกอบการจัดทำ KPI ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนนำเสนอที่ประชุมพิจารณาต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.3 :  ร่างระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนอื่น (เงินรางวัลประจำปี) สำหรับเลขาธิการ พนักงาน และลูกจ้าง พ.ศ. .... :คณะกรรมการปรับปรุงระเบียบฯ (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
  ในหลักการไม่ขัดข้องที่จะให้มีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนอื่น (เงินรางวัลประจำปี) สำหรับเลขาธิการ พนักงาน และลูกจ้างสำนักงาน กทช. อย่างไรก็ดี เพื่อความรอบคอบ และอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสม และพอสมควรแก่เหตุ  จึงมอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบ กทช. ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนอื่น (เงินรางวัลประจำปี) สำหรับเลขาธิการ พนักงาน และลูกจ้าง พ.ศ. ....ตามที่เสนอมาใหม่ แล้วนำเสนอ กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยมีประเด็นที่สำคัญๆ อาทิ
1. ความถูกต้องและเหมาะสมในข้อ 2 ที่กำหนดให้การเบิกจ่ายค่าตอบแทนอื่น มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2549 รวมทั้งผู้ที่ปฏิบัติงานมาระยะหนึ่งและออกจากงานไปเมื่อปี 2549 จะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนอื่นด้วยหรือไม่
2. เพิ่มเติมในข้อ 6 ให้ครอบคลุมถึงการจ่ายค่าตอบแทนอื่นให้แก่ ”พนักงานช่วยปฎิบัติงาน กทช.” ด้วย
3. ยึดหลักการ Performance Base ในการพิจารณาผู้ที่จะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนอื่น โดยสามารถได้รับในจำนวนที่แตกต่างกันได้ (vary) ตามผลการปฏิบัติงาน และต้องกำหนดวิธีการหลักเกณฑ์ที่เป็นสูตรคิดคำนวณได้อย่างชัดเจน แทนการใช้ดุลยพินิจ รวมทั้งต้องคำนึงถึงวินัย (Discipline) ด้านการเงินการคลังเป็นสำคัญในการพิจารณากำหนดข้อปฏิบัติต่างๆ
4. ในส่วนของอรัมภบท ควรต้องระบุเพิ่มเติมถึงหลักการเหตุผล และที่มาให้ชัดเจน รวมทั้งให้ปรับปรุงข้อความใหม่ในข้อ 8 โดยระบุถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาผลการปฏิบัติงานเพิ่มเติมให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตลอดจนในระยะแรกควรกำหนดเกณฑ์ขั้นสูงสำหรับการจ่ายเงินค่าตอบแทนอื่นในอัตรา 1-2 เท่าของเงินเดือนไปก่อน ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ตามความเหมาะสม เป็นต้น
     ทั้งนี้ ในการปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบดังกล่าว ให้หารือ กทช.เพื่อขอคำแนะนำประกอบการดำเนินการด้วย
ระเบียบวาระที่ 4.4  : ขออนุมัตินำเงินรายได้ช่วง 1 พฤศจิกายน 2547 – 15 กุมภาพันธ์  2548 ส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน : รทช.ฐากร, คง. (วันพฤหัสบดีที่ 13  กันยายน 2550)
มติที่ประชุม
             
1.  อนุมัติให้สำนักงาน กทช.นำเงินรายได้ที่จัดเก็บช่วง 1 พฤศจิกายน 2547 – 15 กุมภาพันธ์ 2548 ที่ไม่สามารถถอนคืนจากกระทรวงการคลังจำนวน 2,046,701.29 บาท ส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน โดยตัดบัญชี ประจำปีงบประมาณ 2550 ตามที่เสนอ
2. สำหรับการนำเงินรายได้สถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ.ช่วง 1 พฤศจิกายน  2547 – 15 กุมภาพันธ์ 2548 ส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินจำนวน  1,689,000 บาท ตามข้อเสนอของสำนักงาน กทช.นั้น เพื่อให้การพิจารณา ของ กทช. ในส่วนนี้เป็นไปด้วยความรอบคอบมากยิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้ สำนักงานฯ ไปรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานของระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและอ้างอิงไว้เสนอมาให้ชัดเจน และสมบูรณ์ แล้วนำเสนอ กทช. เพื่อประกอบการพิจารณาวาระนี้ก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งรับ ข้อสังเกตของที่ประชุมในประเด็นการนำเงินรายได้ 1 ปณ.มาใช้ให้เกิด ประโยชน์ไปพิจารณาศึกษาแนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ต่อไปด้วยโดยอาจจำเป็นต้องออกระเบียบรองรับ
ระเบียบวาระที่ 4.5  : รายงานการใช้จ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีประจำปี 2549  : รทช.ฐากร , คง. กก. (วันพฤหัสบดีที่ 13 และ วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2550)
มติที่ประชุม
             
1. รับทราบรายงานสถานะการใช้จ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2549  เงินงบประมาณ รวม 648.78 ล้านบาท จำนวน 130 รายการ โดยสามารถเบิกจ่ายเงินได้  ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 รวม 178.23 ล้านบาท คงเหลือ 470.54  ล้านบาท ซึ่งในจำนวนเงินคงเหลือดังกล่าว จะสามารถเบิกจ่ายเพื่อ ดำเนินการต่อได้จนถึงสิ้นปี 2550 จำนวน 207.60 ล้านบาท และเป็นเงิน ที่คาดว่าจะนำส่งคืนรัฐจำนวน 262.94 ล้านบาท ตามรายละเอียดที่ สำนักงาน กทช.เสนอ ซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มเติมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การจัดกลุ่ม รายการใช้จ่ายใหม่ รวมทั้งการชี้แจงเหตุผลประกอบโดยเฉพาะรายการที่นำ เงินส่งคืนรัฐ ให้ชัดเจนขึ้นแล้วตามข้อแนะนำของ กทช.
2. เห็นชอบให้สำนักงาน กทช. ไปดำเนินการต่อไปในการเบิกจ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2549 ตามรายงานที่เสนอในข้อ 1 รวมทั้งรับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปจัดทำข้อมูลที่ยังขาดและตกหล่นให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้ว จัดส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ให้ กทช.ทราบต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.6  : รายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2550  : รทช. ฐากร , คง,    กก. (วันพฤหัสบดีที่ 13 และ วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2550)
มติที่ประชุม
             
1. รับทราบรายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2550 ตามที่สำนักงาน กทช. รายงาน
2. อนุมัติการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 ตามข้อเสนอของ สำนักงาน กทช. ทั้งในส่วนของแผนการดำเนินงาน  แผนการเบิก จ่ายเงินที่มีการผูกพันงบประมาณข้ามปีและการกันเงินเบิกจ่ายเหลื่อมปี   แล้วมอบหมายให้สำนักงานฯ ไปดำเนินการต่อไป    
3. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมสำหรับโครงการใหม่ 6 โครงการ วงเงิน 96.5 ล้านบาท โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2550 ได้แก่
3.1 โครงการจัดประชุม GSR งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550 จำนวน 50 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
3.2 โครงการการศึกษาบทเรียนการเปิดเสรีโทรคมนาคม  งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550 จำนวน 15 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
3.3 โครงการจัดหาระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารเลขหมายฯ งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550 จำนวน 5 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
3.4 โครงการเช่าอาคารสำหรับสถาบัน IC งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550จำนวน 2.5 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
3.5 ค่าปรับปรุงอาคารที่เช่าสำหรับสถาบัน IC งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550 จำนวน 4 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
3.6 โครงการความร่วมมือ ไทย-ลาว-สวีเดน งบประมาณเพิ่มเติมปี 2550 จำนวน 20 ล้านบาท (ทั้งโครงการ)
4. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 2550 วงเงิน 25.05 ล้านบาท สำหรับเงินอุดหนุนสถาบัน TRIDI
ระเบียบวาระที่ 4.7  : การจัดทำงบประมาณประจำปี 2551 : รทช. ฐากร , คง, กก. (วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน2550)
มติที่ประชุม
  เนื่องจากในการประชุมพิจารณาวาระที่ 4.6 ที่ประชุมได้ให้หลักการ และแนวทางในการบริหารจัดการงบประมาณประจำปี 2550 ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะหลักการตั้งงบประมาณ และการผูกพันงบประมาณข้ามปี ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำงบประมาณประจำปี 2551 สอดคล้องและเป็นไปตามหลักการดังกล่าวด้วย จึงเห็นชอบให้สำนักงาน กทช.ไปดำเนินการปรับปรุงเอกสารข้อมูลตัวเลขการจัดทำงบประมาณประจำปี 2551 ในรายละเอียดใหม่ แล้วเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว
ระเบียบวาระที่ 4.8  : การทบทวนและปรับปรุงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3    : รทช.จิราพร , ศฐ.
มติที่ประชุม
  เห็นชอบและมอบหมายให้สำนักงาน กทช. นำ Policy Statement ที่ กทช. ได้ร่วมกันพิจารณากำหนดขึ้นไปเป็นนโยบายในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน กทช. และใช้เป็นแนวทางในการศึกษา และวิเคราะห์จัดทำรายละเอียดข้อเสนอทางเลือกการทบทวน และปรับปรุงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้แล้วเสร็จ และนำเสนอ กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยเร็วต่อไป สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้หลักการและเหตุผล โดยยึดตามบทบัญญัติของกฎหมายเพื่อมิให้เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการ การพิจารณาสถานการณ์และแนวโน้มการขยายตัวของภาคธุรกิจโทรคมนาคม และการเจริญเติบโตในภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) และภาระในการกำกับดูแลด้านต่างๆ  ตลอดจนการพิจารณาความพร้อมและขีดความสามารถในการกำกับดูแลของสำนักงาน กทช.  รวมถึงการยึดหลักสากลในระยะยาวซึ่งการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องกำกับดูแลให้น้อยที่สุด โดยให้เป็นหน้าที่ของกลไกตลาดแนวคิดและทิศทาง โดยกำหนดวินัยทางการเงิน (Financial Discipline) เพื่อใช้เป็นเงื่อนไข และหลักปฏิบัติพื้นฐานของสำนักงาน กทช. ได้แก่
1. แนวทางการกำหนดงบประมาณรายจ่ายของสำนักงาน กทช. แบ่งเป็น 1) ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่จำเป็นต่องานกำกับดูแล (Essential Need) โดยไม่แปรผันตามอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม และ2) ค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามสภาพเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ทั้งนี้ โดยใช้ Adjusted Growth (GDP +) เป็นตัวแปรในการคิดเพื่อนำมากำหนดอัตราค่าธรรมเนียม
2. หลักการเก็บค่าธรรมเนียมหรือรายรับต่างๆของสำนักงาน กทช.ที่เหมาะสม โดยในปี 2551 จะยึดรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นหลักตามปัจจุบัน สำหรับในปีถัดไป จะนำเอาหลักการเก็บค่าธรรมเนียมจากการใช้ทรัพยากรมาทดแทน โดยหากมีเงินเหลือตามผลการดำเนินงานจริงที่เกิดขึ้นให้นำส่งรัฐ (Residual Payment) และพิจารณาปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมในปีถัดไป เพื่อมิให้เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ โดยใช้หลักการงบประมาณสมดุลมาใช้
ระเบียบวาระที่ 4.9  : รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม : คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2548-2550  :  ผชช.ดิเรก , พต.
มติที่ประชุม
             
1. เห็นชอบรายงานการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2548-2550 ตามที่คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เสนอ
2. อนุมัติให้แจกเอกสารรายงานการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1  พ.ศ. 2548-2550 แก่คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฉบับที่ 2 เพื่อใช้งานรวมทั้งแจกจ่ายให้แก่บุคคลทั่วไปตามความเหมาะสมต่อไปได้ตามที่เสนอ
3. อนุมัติให้ขยายเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมจากคำสั่งเดิมจนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2550 ได้ตามที่เสนอ ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบ กทช.ว่าด้วยวิธีการปฎิบัติงานของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการและเบี้ยประชุมกรรมการและอนุกรรมการ พ.ศ.2548 
4. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม  
ไปดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้
4.1 จัดทำแผนเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องที่ยังไม่แล้วเสร็จเสนอ กทช.พิจารณาโดยเร็ว
4.2 เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 1  พ.ศ. 2548-2550 ทั้งนี้ โดยขอให้ กทช. เสนอรายชื่อกรรมการ เพื่อให้สำนักงานฯ รับไปดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป 
ระเบียบวาระที่ 5 : เรื่องเพื่อทราบ
-ไม่มี- 
ระเบียบวาระที่ 6  : เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่ 6.1  : การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การวิจัยและเสริมสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการในด้านนโยบายการสื่อสาร : สชท. (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
  อนุมัติวงเงินงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การวิจัยและเสริมสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการในด้านนโยบายการสื่อสาร (Media Policy Center) ของคณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามที่ สชท.เสนอ โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ความร่วมมือที่ได้ลงนาม MOU ร่วมกันแล้วระหว่าง กทช.และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการ  
ให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด รวมทั้งขอให้เร่งดำเนินการในเรื่อง พ.ร.บ.  องค์กรด้านโทรคมนาคมและกระจายเสียงฉบับใหม่ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ตามมาตรา 47 เป็นลำดับแรกด้วย โดยให้แล้วเสร็จภายในต้นปี  พ.ศ. 2551
ระเบียบวาระที่ 6.2  : การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช.  ในการปฏิบัติตาม ระเบียบและประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ : กทช.สุธรรมฯ (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
           
1. อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของเลขาธิการ กทช. และสำนักงาน กทช. ตามระเบียบและประกาศ กทช.  (Compliance Audit)ที่สำคัญต่อการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมในกิจการโทรคมนาคม ตามที่ กทช.สุธรรมฯเสนอ อย่างไรก็ดี เพื่อมิให้เกิดความสับสนในการเรียกชื่อคณะกรรมการชุดนี้กับ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ที่มีอยู่ก่อนแล้ว จึงให้เปลี่ยนชื่อคณะกรรมการดังกล่าวเป็น “คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการกำกับดูแล” 
2. เห็นชอบการเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ โดยให้ พลเอก ชูชาติ  สุขสงวน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายประจำ กทช.เข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว 
3. เห็นชอบการปรับปรุงเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในประเด็น ให้มีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์ และให้ข้อแนะนำแก่ ลทช.และ  หรือสำนักงาน กทช. ในการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการใช้อำนาจของ ลทช. ตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการ  
โทรคมนาคมฯ
4. มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการด้วยต่อไปในเรื่องการจัดตั้งทีมงานประกอบด้วยพนักงานจากทุกสำนักที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการในการสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ระเบียบวาระที่ 6.3  : ร่างระเบียบ กทช.ว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคมและ  ทรัพยากรคลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550 : กทช.สุธรรมฯ (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
  เนื่องจาก ผู้เชี่ยวชาญ ( นายดิเรก  เจริญผล )  ไม่สามารถเข้าร่วมชี้แจงต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาในวาระนี้ได้    จึงมอบหมายให้ สำนักงาน กทช.นำเรื่อง ร่าง ระเบียบ กทช.  ว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม  และ ทรัพยากรคลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550 เสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาในโอกาสต่อไป
ระเบียบวาระที่ 6.4  : ความเห็นแย้งมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 24/2550 เรื่อง รายการส่งเสริมการขายบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท แคท คอร์ป ตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายของ บริษัท ฮัทชิสัน : กทช.สุธรรมฯ   (วันพุธที่ 12กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
  รับทราบการนำเรื่อง ความเห็นแย้งมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 24/2550 เรื่องรายการส่งเสริมการขายบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท แคท คอร์ปฯ ตามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ฮัทชิสัน เสนอเป็นวาระในการประชุม กทช.เรียบร้อยแล้ว โดยขอให้ กทช. ไปศึกษาพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบก่อน แล้วจึงนำเสนอที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเมื่อ กทช. เข้าประชุมครบทุกท่าน
ระเบียบวาระที่ 6.5  : บจ.ทรู มูฟขอรับการจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมสำหรับบริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มเติม : กลุ่มภารกิจด้านบริหารเลขหมายฯ (วันพุธที่ 12 กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
             
1. เนื่องจาก กทช.เศรษฐพรฯ และกทช.สุธรรมฯ  ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาวาระนี้ กอรปกับ กทช.ประสิทธิ์ อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศไม่สามารถเข้าประชุมในครั้งนี้ได้ จึงทำให้มี กทช.เหลืออยู่ 3 ท่านที่จะพิจารณาในวาระนี้ แต่โดยที่  การพิจารณาเรื่องใดๆของ กทช.ในการประชุมทุกครั้ง จะยึดหลักปฏิบัติให้มีจำนวน กทช. เกินกึ่งหนึ่ง หรือเป็นเสียงข้างมาก (Qualified Majority) ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไปร่วมกันพิจารณาจึงจะถือเป็นมติการประชุมที่มีผลสมบูรณ์ได้ กอรปกับ ผลจากการพิจารณาคำขอรับการจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มเติมของ บจ. ทรู มูฟ นั้น นอกจากจะเป็นมติที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของ บจ. ทรู มูฟ ในฐานะผู้ขอรับจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมแล้ว ยังมีความเกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่นๆ ที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันด้วย ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สำนักงาน กทช. นำวาระเรื่องนี้เสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยยึดหลัก  Qualified Majority หรือให้มีจำนวน กทช. ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไปร่วมกันพิจารณาต่อไป
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้ง บจ. ทรู มูฟ ในชั้นต้นเพื่อ  
รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนนำเสนอ กทช.พิจารณาแล้ว
ระเบียบวาระที่ 6.6  : รายงานการประชุม APG 2007-5 และท่าทีเบื้องต้นของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PACP): วท. (วันพุธที่ 12กันยายน  2550)
มติที่ประชุม
             
1.  รับทราบรายงานผลการประชุม APG 2007-5 ที่จัดขึ้น ณ สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 16-21 กรกฎาคม 2550 โดยองค์การโทรคมนาคมแห่งเอเซีย และแปซิฟิก (APT) เพื่อทบทวนและจัดทำท่าทีเบื้องต้นของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Preliminary APT Common Proposals : PACP) ต่อที่ประชุม WRC-07 ที่จะจัดขึ้นโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน 2550 ก่อนแจ้งเวียนประเทศสมาชิกเพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบในหลักการตามข้อคิดเห็นของสำนักงาน กทช. ต่อผลการประชุมและท่าทีเบื้องต้นของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Preliminary APT Common Proposals : PACP) โดยมอบหมายให้สำนักงานฯ ไปดำเนินการรวบรวมข้อมูล และข้อเท็จจริง โดยละเอียดในประเด็นต่างๆ ที่แต่ละประเทศมีข้อคิดเห็นขัดแย้ง เพื่อนำมาหักล้างข้อขัดแย้งดังกล่าวให้ได้มากที่สุด รวมทั้งศึกษาพิจารณาวิธีการในการโน้มน้าวให้ประเทศนั้นๆ มีความเห็นคล้อยตามข้อคิดเห็นดังกล่าวด้วย แต่ทั้งนี้ ในการกำหนดท่าทีต้องสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในฐานะที่ กทช. ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
3. มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ โดยความสนับสนุนของสำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินการจัดทำ เอกสารการประมวลแนวคิด หลักการ และความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมด้านต่างๆของ กทช. และ ผชช.ด้านกฎหมาย ที่ได้อภิปรายและให้ข้อเสนอแนะไว้ในการประชุม กทช. ที่ผ่านมา โดยจัดพิมพ์เป็นเล่มเพื่อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า และเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการชุดใหม่ในอนาคตได้เป็นอย่างดี (Regulatory Practice in Thailand) ทั้งนี้ อาจพิจารณาเริ่มทยอยดำเนินการ โดยให้สามารถออกเล่มแรกได้ภายในสิ้นปี 2550 นี้

สร้างโดย  -   (24/3/2559 10:42:10)

Download

Page views: 32