สรุปมติที่ประชุม กทช. 15/2553

มติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ครั้งที่ 15/2553
วันพุธที่  9  มิถุนายน  2553   เวลา  09.30  น.
ณ  ห้องประชุม ชั้น 12  อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
 
ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

1.  ศาสตราจารย์ประสิทธิ์             ประพิณมงคลการ              ประธาน กทช.
2.  นายสุชาติ                            สุชาติเวชภูมิ                     กรรมการ
3.  รองศาสตราจารย์สุธรรม          อยู่ในธรรม                       กรรมการ
4.  นายสุรนันท์                          วงศ์วิทยกำจร                   กรรมการ
5.  พันเอกนที                           ศุกลรัตน์                          กรรมการ
6.  นายบัณฑูร                          สุภัควณิช                         กรรมการ
7.  นายฐากร                            ตัณฑสิทธิ์                        รทช. รักษาการในตำแหน่ง ลทช.

ระเบียบวาระที่   1  :   เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1.  ในการเข้าร่วมประชุม ITU Regional Workshop on IMT ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน และวันอังคารที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี  ในการประชุมผมได้รับเชิญเป็นวิทยากรเพื่อไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งอธิบดีกรมบริหารคลื่นความถี่ (Mr.Hoan) ของเวียดนามได้เชิญประชุมเป็นการเฉพาะร่วมกับผู้แทน กทช. ที่มีผมเป็นหัวหน้าคณะ ในที่ประชุมท่านได้ขอให้ไทยให้ความร่วมมือกับเวียดนามเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยได้เคยขอความร่วมมือในเวทีการประชุม ITU ดังกล่าวคือ
1.1  ขอความร่วมมือกรณีประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือประเทศอื่นๆ ต้องการใช้ C-Band เป็นคลื่นความถี่ IMT and beyond เพื่อสำรองไว้ใช้สำหรับทำ LTE , 4G หรือ WIMAX หรือที่เรียกว่า IMT เขาเป็นห่วง  C-Band เป็นคลื่นความถี่ที่ใช้เรื่อง USO ในเวียดนาม และไทยคมได้ใช้ C-Band ให้บริการ USO ในเวียดนามด้วย จึงขอให้สนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหา เพราะประเทศไทยได้ Reserve ไว้ตั้งแต่ WRC 07 อยู่แล้ว
1.2  ย่านความถี่ 23 GHz ซึ่งเขาระบุว่าย่านนี้ใช้เป็น Digital Microwave Link และมีแนวโน้มว่าจะใช้เป็น Direct Broadcast เป็นเรื่องดาวเทียม ขอให้ กทช. พิจารณาให้ความร่วมมือได้หรือไม่ ซึ่งตนเองก็ไม่เคยสำรวจว่ามีการใช้ในประเทศไทยเท่าไหร่ ก็ขอให้ทำ Proposal ทั้ง 2 เรื่องส่งมาให้ กทช. พิจารณา
2.  กทช. สุธรรมฯ จะไปเข้าร่วมการประชุม ATRC ในช่วงระหว่างวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2553 และขอเชิญ กทช. ที่สนใจเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว แต่มีข้อจำกัดเรื่องผู้เข้าร่วมการประชุม คงต้องพิจารณาตามความเหมาะสม
3.  ในเรื่องของการขยายพื้นที่ ชั้น 9 อาคารอำนวยการ สำนักงาน กทช. เพื่อรองรับที่ปรึกษาและผู้ปฏิบัติงานประจำ กทช. ที่จะมาทำงานอีกหลายคน    ก็ถือว่าอนุมัติให้มีการขยายเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของทีมงานประจำ กทช.
หมายเหตุ         นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ได้หยิบยกประเด็นอื่นๆ ขึ้นหารือ และแสดงความคิดเห็นในระหว่างวาระนี้ สรุปได้คือ
4.  กทช. สุรนันท์ฯ ได้หารือที่ประชุมเกี่ยวกับการเตรียมการในเรื่องอาคารสถานที่ทำงานของ กทช. และสำนักงาน กทช. ในอนาคต ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีบุคลากรเพิ่มขึ้น เช่น ทีมที่ปรึกษาและผู้ปฏิบัติงานประจำ กทช. รวมถึงการจัดตั้งหน่วยงานภายในขึ้นอีกหลายหน่วย เช่น สำนักเลขหมาย  สำนักกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และสถานที่ (Anechoic Chamber) ใช้สำหรับการติดตั้งการทดสอบอุปกรณ์ป้องกันการรบกวน เป็นต้น ตลอดจนคณะกรรมการ กสทช. ที่จะเกิดขึ้นตาม พ.ร.บ. องค์กรฉบับใหม่ และสถาบันทั้ง 3 สถาบันด้วย ดังนั้น สำนักงาน กทช. จึงจำเป็นต้องรีบศึกษาหาแนวทางดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยต้องถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญลำดับสูง (Priority) ในการวางแผนและกำหนดรายละเอียดผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ (Land Use Planning) เพื่อรองรับบุคลากรอีกอย่างน้อย 200 คนในอนาคต โดยเฉพาะการพิจารณาการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่พหลโยธินและที่นนทบุรีอย่างเต็ม ประสิทธิภาพ ซึ่งต้องเห็นภาพที่สมบูรณ์ (Complete Picture) พอสมควรสำหรับเรื่องนี้ที่จะต้องจัดเตรียมในอนาคต (Future Requirement) 
    
มติที่ประชุม              
1.  รับทราบเรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ไปดำเนินการจัดทำแผนผังรายละเอียดการใช้ประโยชน์พื้นที่ (Land Use Planning) เพื่อเตรียมการในเรื่องอาคารสถานที่ทำงานของ กทช. และสำนักงาน กทช. สำหรับรองรับ กสทช. และภารกิจตาม พ.ร.บ. องค์กรฉบับใหม่ ตลอดจนหน่วยงานที่จะจัดตั้งเพิ่มเติม คิดเป็นจำนวนบุคลากรอีกอย่างน้อย 200 คนในอนาคต โดยเฉพาะการพิจารณาการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่พหลโยธินและที่นนทบุรีอย่างเต็ม ประสิทธิภาพ แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. โดยด่วน ทั้งนี้ ให้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญลำดับสูง (Priority) เพื่อเร่งดำเนินการให้ได้ผลโดยเร็ว

ระเบียบวาระที่   2    :  เรื่องรับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 14/2553 วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2553 
         
มติที่ประชุม                เห็นชอบในหลักการรับรองรายงานการประชุม กทช.ครั้งที่ 14/2553 ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ โดยมอบหมายให้สำนักงานฯ ไปพิจารณาดำเนินการปรับแก้ไข แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. รับรองอีกครั้งหนึ่งในการประชุม กทช.ครั้งต่อไป ดังนี้
1.  ปรับแก้ไขรายงานการประชุม กทช.ครั้งที่ 14/2553 ตามข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของ กทช.พนาฯ
2.  เพิ่มเติมระเบียบวาระที่ 6.5 เรื่อง แนวทางการอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT หรือ 3G and beyond (เสนอโดย กทช.พันเอก นทีฯ, คณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT หรือ 3G and beyond, รทช.ประเสริฐฯ และ ปก.) โดยเห็นชอบให้เป็นวาระการประชุม กทช. ครั้งที่ 14/2553 ต่อเนื่องนอกสถานที่ ณ โรงแรม Centara Grand Mirage Beach Resort เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2553 เวลา 9.00 – 16.00 น. ซึ่งประธาน กทช.ได้อนุมัติให้บรรจุเรื่องดังกล่าวเป็นวาระการประชุม กทช. แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน และมีรายละเอียดของเนื้อหามาก จำเป็นต้องใช้เวลาตลอดทั้งวันในการพิจารณาอย่างรอบคอบ จึงจัดประชุมนอกสถานที่เพื่อความกระชับเฉพาะเรื่องนี้ตามมติ กทช.ครั้งที่ 13/2553
 
หมายเหตุ            มติ กทช.ครั้งที่ 14/2553 ได้กำหนดให้ สำนักงาน กทช. นำร่างรายงานการประชุม กทช. ไปพิจารณาในการประชุม กทช. Inner แทน และให้ถือเป็นมติ กทช. ในเรื่อง รับรองรายงานการประชุม กทช. ตามระเบียบวาระที่ 2 ในการนี้ สำนักงานฯ จึงได้นำร่างรายงานการประชุม กทช.ครั้งที่ 14/2553 เสนอที่ประชุม กทช. (Inner) ครั้งที่ 10/2553 พิจารณาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2553 แล้ว และได้นำมติที่ประชุม กทช. (Inner) บันทึกลงเป็นมติ ในระเบียบวาระที่ 2 ข้างต้น ตามที่ กทช. มีมติไว้

ระเบียบวาระที่   3   :   รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 14/2553 วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2553

มติที่ประชุม              รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 14/2553 วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2553
 
ระเบียบวาระที่    4     :  เรื่องเพื่อพิจารณา   
ระเบียบ วาระที่   4.1  :  การดำเนินการตามมติครั้งที่ 10/2553 มอบหมายให้พิจารณากลั่นกรองเรื่อง : กทช.สุรนันท์ฯ, กทช. พ.อ. นทีฯ, กทช.สุธรรมฯ


มติที่ประชุม                รับ ทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาการดำนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่  10/2553 ตามความเห็นของ กทช.สุรนันท์ฯ กทช.พ.อ. นทีฯ และกทช. สุธรรมฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจากที่ประชุม กทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ดังนี้
1.  เรื่อง บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิ่ง จำกัด ขออนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพิ่มเติม โดยใช้ความถี่ 400 MHz สำหรับให้บริการวิทยุคมนาคม (วาระที่ 4.15 ประชุม กทช.10/2553 : ปก.)
                               ที่ประชุมเห็นว่า คณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ได้มีความเห็นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2552 ว่ายังไม่สมควรอนุญาตจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 400 MHz ให้บริษัทฯ เนื่องจากย่านความถี่ดังกล่าวสามารถให้บริการแก่บุคคลทั่วไปจำนวนมาก ซึ่งการจัดสรรความถี่ย่านนี้อาจมีผลกระทบต่อการแข่งขันโดยเสรีอย่างมีนัย สำคัญ หรืออาจกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ หรือมีเหตุจำเป็นต้องคุ้มครองผู้บริโภคเป็นพิเศษและจะกระทบต่อแผนการกำหนด และจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ รวมทั้งแผนปฏิบัติการที่คณะกรรมการชุดดังกล่าวกำลังดำเนินการ ซึ่งได้ผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว จึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช.ส่งเรื่องนี้พร้อมความเห็นของ กทช.สุรนันท์ฯ, กทช.พ.อ. นทีฯ และ กทช.สุธรรมฯ ให้คณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่วิเคราะห์ผลกระทบจากการจัดสรร คลื่นความถี่ย่าน 400 MHz ใหม่อีกครั้ง ด้วยข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน แล้วประมวลผลเสนอ กทช. พิจารณาต่อไป
2.  เรื่อง ขอเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตและเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้งานความถี่ ในกิจการ BWA (วาระที่ 4.16 ประชุม กทช.10/2553 : ฉก.) 
                              มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ส่งเรื่อง ขอเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตและเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้งานความถี่ ในกิจการ BWA พร้อมความเห็นของ กทช.สุรนันท์ฯ ,กทช.พ.อ. นทีฯ และ กทช.สุธรรมฯ ให้คณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ และคณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี ไร้สาย (Broadband Wireless Access : BWA) พิจารณาเสนอความเห็น แล้วประมวลเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาต่อไป 
3.  เรื่อง การขอรับจัดสรรความถี่ย่าน 2.5 GHz สำหรับใช้ติดต่อสื่อสารในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย (วาระที่ 4.17 ประชุม กทช.10/2553 : ฉก. )  
                                มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. ส่งเรื่อง การขอรับจัดสรรความถี่ย่าน 2.5 GHz สำหรับใช้ติดต่อสื่อสารในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย พร้อมความเห็นของ กทช.สุรนันท์ฯ, กทช.พ.อ. นทีฯ และ กทช.สุธรรมฯ ให้คณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ และคณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี ไร้สาย (Broadband Wireless Access : BWA) พิจารณาเสนอความเห็น แล้วประมวลเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาต่อไป 
4.  เรื่อง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขอรับการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน HF VHF และ UHF (วาระที่ 4.18 ประชุม กทช.10/2553 : ฉก.)  
                                อนุมัติ การจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ย่าน HF จำนวน 2 ความถี่ ย่าน VHF จำนวน 1 ความถี่ และย่าน UHF จำนวน 1 ความถี่ ให้กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อใช้งานร่วมกับความถี่วิทยุกลางสำหรับการติดต่อประสานงานระหว่างส่วน ราชการและรัฐวิสาหกิจในย่าน VHF จำนวน 2 ความถี่ และย่าน UHF จำนวน 2 ความถี่ ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ เนื่องจากเห็นว่า เพียงพอต่อการใช้งานของหน่วยงานที่ร้องขอ และเป็นการใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่อย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โดยให้ผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาต รวมทั้งประกาศ กรมไปรษณีย์โทรเลข และประกาศ กทช.ที่เกี่ยวข้องต่อไป
5. เรื่อง กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ขอรับการจัดสรรคลื่นความถี่ในการนำทางการบิน (Aeronautical Radio navigation Service) เพื่อใช้งานกับเครื่องวิทยุช่วยเดินอากาศระบบ Non-Directional  Beacon (NDB) (วาระที่ 4.19 ประชุม กทช.10/2553 : ฉก.)
5.1  อนุมัติในหลักการการจัดสรรคลื่นความถี่ในการนำทางการบิน (Aeronautical Radio navigation Service) ให้กับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เพื่อใช้งานกับเครื่องวิทยุช่วยเดินอากาศระบบ Non-Directional  Beacon (NDB) โดยมีกำหนดระยะเวลา 10 ปี เนื่องจากเป็นกรณีจำเป็นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกในการนำแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า และหายากในอ่าวไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลต่อความมั่นคงทางพลังงานของชาติ  ทั้งนี้ ให้กำหนดเงื่อนไขห้ามรบกวนคลื่นความถี่ทางบกที่มีการใช้งานอยู่ และห้ามนำคลื่นความถี่ไปให้ผู้อื่นร่วมใช้หรือให้ใช้ โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการใช้งานคลื่นความถี่ ดังกล่าวให้สมประโยชน์ของภาครัฐอย่างเต็มที่ และเนื่องจากการใช้งานคลื่นความถี่ในการนำทางการบิน เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และกรมการบินพลเรือน โดยเฉพาะในการยื่นขออนุญาตการขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน จึงให้ผู้รับจัดสรรคลื่นความถี่ประสานงานกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และกรมการบินพลเรือน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการนำทางการบินต่อไป
5.2  อย่างไรก็ดี เพื่อให้การพิจารณาอนุมัติตามมติข้อ 5.1 มีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช. ส่งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่พิจารณาเพื่อ Endorse อีกครั้งหนึ่งก่อนที่สำนักงาน กทช.จะดำเนินการตามขั้นตอนได้ต่อไป แต่หากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบเพิ่มเติมอีก ก็ให้สำนักงานฯ นำเสนอ กทช.พิจารณาในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
5.3  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อสังเกตที่ประชุมไปตรวจสอบให้ชัดเจนในเรื่องขั้นตอนการนำเข้าเครื่อง วิทยุคมนาคมว่าจะสามารถกระทำได้ก่อน หรือหลังได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการพิจารณาออกใบอนุญาต  
6.  บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ขอรับการจัดสรรความถี่วิทยุเพื่อใช้กับสถานที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน ณ บริเวณตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี (วาระที่ 4.20 ประชุม กทช.10/2553 : ฉก.)
                                    อนุมัติให้บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ใช้คลื่นความถี่ 121.00 MHz เป็นการชั่วคราว เพื่อใช้กับสถานที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน ณ บริเวณตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตามที่ยื่นขอ เนื่องจาก เป็นการใช้งานคลื่นความถี่ 121.00 MHz เป็นการชั่วคราวในพื้นที่เฉพาะในลักษณะขอมีสิทธิใช้คลื่นความถี่ร่วม ตามที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจัดตั้งที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานจากกรมการขนส่งทางอากาศ แล้ว และเป็นการใช้คลื่นความถี่ที่สอดคล้องกับ ITU และเป็นไปตามมาตรฐานที่มีการใช้งานกันทั่วโลก จึงเป็นเรื่องจำเป็นต่อการเดินอากาศ และเพื่อความปลอดภัยต่อสาธารณะ และสถานที่ขึ้นลงของอากาศยาน ทั้งนี้ โดยให้บริษัทฯ ประสานงานกับกรมการบินพลเรือนและบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการนำทางการบินต่อไป
 
ระเบียบ วาระที่ 4.2 : การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ตามประกาศ กทช. เรื่องแผนปฏิบัติการ USO ปี 2553 (ตามมติครั้งที่ 7/2553 วาระที่ 4.13) : กทช.สุรนันท์ฯ, ทถ.
 
มติที่ประชุม   
1.  รับทราบ และเห็นชอบผลการพิจารณาเรื่องการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ตามประกาศ กทช. เรื่อง แผนปฏิบัติการ USO ปี 2553 ตามความเห็นของ กทช.สุรนันท์ฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจากที่ประชุม กทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วมีความเห็นพร้อมข้อสังเกต ดังนี้
1.1  ให้ความเห็นชอบมาตรฐานข้อกำหนดและเงื่อนไขการดำเนินการ USO ประจำปี 2553 ซึ่ง สกทช. ได้ใช้เป็นกรอบในการเจรจากับผู้รับใบอนุญาตที่ประสงค์จะดำเนินการ USO โดยให้นำไปใช้ปฏิบัติแก่ทุกบริษัท
1.2  ให้ความเห็นชอบแผน USO ของผู้รับใบอนุญาต 5 ราย ได้แก่
(1) บมจ. ทีโอที
(2) บจ. เอไอเอ็น โกลบอลคอม
(3) บจ. ซุปเปอร์ บรอดแบนด์เน็ทเวอร์ค
(4) บจ. จัสเทล เน็ทเวอร์ค และ
(5) บจ. ทริปเปิลทีบรอดแบนด์ เนื่องจากสามารถดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไข USO ที่กำหนดไว้ตามข้อ 1
1.3  กรณีของ บมจ. กสท โทรคมนาคม ให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้ง บมจ. กสท โทรคมนาคม เพื่อยืนยันให้ชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ กทช. กำหนดได้หรือไม่ โดยให้แจ้ง กทช. ทราบภายใน 15 วัน ก่อนดำเนินการมีคำสั่งให้ บมจ. กสท โทรคมนาคม จัดสรรเงินรายได้เข้ากองทุนฯ ต่อไป โดยให้ประธาน กทช. เป็นผู้ลงนามในหนังสือในฐานะผู้ออกคำสั่ง     ตาม พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
1.4  ไม่เห็นชอบแผนการดำเนินงานของบริษัท ทรู อินเทอร์เนชั่นแนล เกตเวย์ จำกัด และบริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจนซ์ จำกัด เนื่องจากบริษัททั้งสองแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการ USO ให้เป็นไปตามภารกิจได้ทุกเป้าหมาย คือ ขอไม่ดำเนินการในพื้นที่ซึ่งไม่มีไฟฟ้า รวม 34 แห่ง (ประมาณ 6.7% ของเนื้องานที่ได้รับมอบ) รวมทั้ง ไม่สามารถดำเนินการตามราคากลางที่กำหนดในพื้นที่ซึ่งต้องใช้ระบบสื่อสารดาวเทียม โดยบริษัทขอค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคากลางที่กำหนด จุดละประมาณ 7,000 บาท รวม 148 แห่ง คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% ของค่างานของบริษัท ซึ่งได้เชิญผู้แทนบริษัททั้งสองมาหารือแล้ว โดยบริษัทได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการที่จะดำเนินการ USO แต่ด้วยเหตุที่บริษัทมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่มีโครงข่ายและบุคลากรในส่วนภูมิภาค ทำให้ไม่สามารถจัดให้มีบริการในบางพื้นที่และตามราคากลางที่ กทช. กำหนดได้ ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่เหลือสามารถดำเนินการในพื้นที่และราคากลางที่กำหนดได้ ดังนั้น จึงเห็นควรมีมติให้ทั้ง บริษัท ทรู อินเทอร์เนชั่นแนล เกตเวย์ จำกัดและบริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจนซ์ จำกัด นำส่งเงินรายได้เข้ากองทุนฯ แทนการดำเนินการ USO ในส่วนค่า USO ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด   
1.5  ให้ความเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจัดให้มีบริการศูนย์อินเทอร์เน็ตประจำชุมชน พร้อมงบประมาณจำนวน 9 แสนบาท เพื่อใช้ในการออกแบบและประชาสัมพันธ์การเปิดให้บริการศูนย์ฯ  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. เร่งรัดดำเนินการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายที่เหมาะสมโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ แล้วเสร็จทันตามกรอบเวลาที่กำหนด
1.6  เนื่องจากการไม่อนุมัติแผน USO ของ TUC และ TIG ทำให้มีผลต่อภารกิจและพื้นที่เป้าหมายที่ กทช. ได้ประกาศไว้ในแผนปฏิบัติการปี 2553 จึงเห็นควรมอบหมายให้สำนักงาน กทช. ไปหารือ กทช. สุรนันท์ฯ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในส่วนของภารกิจและพื้นที่เป้าหมายที่เหลืออยู่ และให้นำเสนอต่อที่ประชุม กทช. โดยเร็ว
ข้อสังเกต
1.7  หลักการและแนวทางที่สำนักงาน กทช. ใช้ในการแบ่งงานและจัดสรรพื้นที่เป้าหมายให้แก่แต่ละบริษัท แม้จะยึดหลักกระจายงานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แต่ในทางปฏิบัติมีข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินงาน คือ แต่ละบริษัทไม่สามารถเลือกเป้าหมายภารกิจ หรือพื้นที่ที่เหมาะสมกับลักษณะทางธุรกิจของตนได้ ทำให้ผู้รับใบอนุญาตบางรายที่มีความประสงค์จะมีส่วนร่วมแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ อีกทั้งการใช้วิธีกำหนดราคากลางเพื่อใช้คำนวณต้นทุน USO ที่นำไปใช้เจรจาและกำหนดปริมาณงานของบริษัท อาจเป็นการสร้างภาระให้กับ กทช. และสำนักงาน กทช. เกินควร ในกรณีที่มีข้อถกเถียงและเกิดการเจรจาต่อรองราคา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ใช่ตัวเลขที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้ เนื่องจากประกาศ USO ฉบับที่ 2 ยังใช้ Concept เดิม คือ Play or Pay จึงมีปัญหาความยุ่งยากและเสียเวลาในขั้นตอนของกระบวนการตกลงแบ่งพื้นที่และภารกิจระหว่างสำนักงาน กทช. กับผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว จึงขอให้สำนักงาน กทช. รับข้อสังเกตและอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นไปพิจารณาทบทวน ปรับปรุง เพื่อให้การทำแผน USO Phase 3 มีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับสภาพการณ์ต่อไป
2.  มอบหมายให้ที่ประชุม กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการเรื่อง USO นี้ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลในทางปฏิบัติได้อย่างแท้จริงต่อไป ดังนี้ 
2.1  ควรตรวจสอบมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกันในการดำเนินการระหว่างสำนักงาน กทช. กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
2.2  ศึกษาวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ที่มีต่อชุมชนให้ชัดเจนด้วยว่าจะได้รับประโยชน์อย่างไรจาก Internet ชุมชน รวมทั้งความสามารถของชุมชนในการดูแลรักษากันเอง โดยเฉพาะภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนการพิจารณาจัดหา Software ที่เหมาะสมให้นอกเหนือจากการจัดหา Hardware
2.3  ควรต้องพิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์ด้าน USO ในภาพรวม เพื่อเป็นกรอบใหญ่ (Macro Framework) สำหรับการดำเนินการได้อย่างบูรณาการ เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น มิใช่การดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศกำหนดอย่างเดียว
3.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย เพื่อทราบมติตามข้อ 1.2  และแจ้งบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด และบริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจนซ์ จำกัด ทราบมติตามข้อ 1.4 ต่อไป
           
ระเบียบวาระที่   4.6  :  การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานบุคคล : รทช. ฐากรฯ , บค. 
   
มติที่ประชุม     
1.  เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานบุคคลชุดใหม่จำนวน 7 ราย ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 7/1 ตามข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้
1) ประธาน กทช.                               ประธาน
2) ดร. ทศพร  ศิริสัมพันธ์                     กรรมการ (เลขาธิการ ก.พ.ร.)
3) ศาสตราจารย์ศุภชัย  ยาวะประภาษ     กรรมการ
4) นายชัยณรงค์  อินทรมีทรัพย์             กรรมการ
5) พล.ต.อ. วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี             กรรมการ
6) เลขาธิการ กทช.                             กรรมการ
7) รองเลขาธิการ กทช. ด้านสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรรมการกรรมการและเลขานุการ    
                                    โดยมี รทช.ประเสริฐฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ ให้ได้รับสิทธิค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยวิธีการประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และค่าตอบแทน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามข้อ 18 (ข) ในอัตราครั้งละ 8,000 บาท สำหรับพนักงานให้เป็นไปตามระเบียบ กทช. ดังกล่าว
2.  เห็นชอบให้ กทช. ทุกท่านเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลชุดใหม่ตามข้อ 1 ด้วย เพื่อมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการฯ ในการพิจารณาด้านการบริหารงานบุคคลของสำนักงาน กทช. โดยเฉพาะในกรณีที่มีวาระเรื่องใดสำคัญ ก็สามารถเข้าร่วมได้ ทั้งนี้ จะได้ออกคำสั่งแต่งตั้งต่อไป
                                           
 ระเบียบวาระที่   4.9 :  การประชุม ASEAN Telecommunication Regulators’ Council (ATRC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2553 ณ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม  : รทช.ทศพรฯ , กร.
   
มติที่ประชุม              
1.  เห็นชอบให้ กทช. สุธรรมฯ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ในการเข้าร่วมประชุม ASEAN Telecommunication Regulators’ Council (ATRC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 7 – 10 กรกฎาคม 2553 ณ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ
2.  มอบหมายให้ รทช.ทศพรฯ, ผู้แทนสำนักองค์การระหว่างประเทศ สำนักวิศวกรรมและเทคโนโลยีโทรคมนาคม และสำนักพัฒนานโยบายและกฎกติกา เข้าร่วมการประชุมตามข้อ 1 ทั้งนี้ ให้มีผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมการประชุมด้วย
 
ระเบียบวาระที่   4.10   :   ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่น คงของรัฐ : คณะกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐ, รทช.ทศพรฯ , วท.    
 
มติที่ประชุม              
1.  รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อ ความมั่นคงของรัฐในรอบ 1 ปี (ระหว่างวันที่ 23 เมษายน 2552 – วันที่ 22 เมษายน 2553) ตามที่คณะกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐ เสนอ
2.  สำหรับร่างแผนปฏิบัติการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่สำหรับหน่วยงานเพื่อ ความมั่นคงของรัฐ (ย่านความถี่ 2300 – 2400 MHz) และร่างแผนความถี่วิทยุเพื่อความมั่นคงของรัฐ พ.ศ. 2553  ตามที่เสนอมา นั้นเนื่องจาก เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของรัฐ จำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ จึงขอให้ กทช.ทุกท่านมีโอกาสได้ศึกษารายละเอียดของเอกสารดังกล่าวก่อน แล้วให้สำนักงาน กทช. นำร่างแผนปฏิบัติการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่สำหรับหน่วยงานเพื่อความ มั่นคงของรัฐ (ย่านความถี่ 2300 – 2400 MHz) และร่างแผนความถี่วิทยุเพื่อความมั่นคงของรัฐ พ.ศ. 2553  เสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
3.  เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่น คงของรัฐประจำปี พ.ศ. 2553 โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ และตามข้อคิดเห็นของที่ประชุม โดยให้เพิ่มเติมกรรมการอีก 2 คน ได้แก่ ผู้แทนประธาน กทช. ตามที่ประธาน กทช. จะเป็นผู้พิจารณาชื่อจากคณะกรรมการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ เป็นกรรมการ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หรือผู้แทน เป็นกรรมการ
 
ระเบียบวาระที่   4.25   :   ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) : คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
    
มติที่ประชุม                รับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาเรื่อง ร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) ตามความเห็นของ กทช. พนาฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจากที่ประชุม กทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน2553 ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว เห็นควรให้ความเห็นชอบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช.นำร่างประกาศดังกล่าวลง Website ของสำนักงาน กทช. ตามขั้นตอนก่อนดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไปตามที่ ระเบียบกำหนด
 
ระเบียบวาระที่   4.26  :   ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) : คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
    
มติที่ประชุม              รับ ทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาเรื่อง ร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ตามความเห็นของ กทช. พนาฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจากที่ประชุม กทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นควรให้ความเห็นชอบ และมอบหมายให้ สำนักงาน กทช. นำร่างประกาศ กทช. ดังกล่าวลง Website ของสำนักงาน กทช. ตามขั้นตอนก่อนดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไปตามที่ ระเบียบกำหนด
 
ระเบียบวาระที่    5     :  เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบ วาระที่  5.1   :  รายงานผลการเดินทางการสัมมนา FT Digital Media & Broadcasting Conference 2010 ระหว่างวันที่ 2 – 3 มีนาคม 2553 ณ สหราชอาณาจักร : กทช.สุธรรมฯ


มติที่ประชุม               รับ ทราบรายงานผลการเดินทางของ กทช.สุธรรมฯ และคณะในการเข้าร่วมการสัมมนา FT Digital Media & Broadcasting Conference 2010 ระหว่างวันที่ 2 – 3 มีนาคม 2553 ณ สหราชอาณาจักร ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ

ระเบียบวาระที่   5.2  :  ระเบียบ กทช. ว่าด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 : กทช.สุธรรมฯ

มติที่ประชุม               รับ ทราบการปรับแก้ร่างระเบียบ กทช. ว่าด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ตามความเห็น กทช. สุธรรมฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจากที่ประชุม กทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ โดยให้แก้ไขข้อความในร่างระเบียบ ข้อ 5 ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริงมากยิ่งขึ้น จากเดิมเป็น “นับตั้งแต่วันที่ กทช.รับรองมติที่ประชุม กทช.” แล้วจึง นำเสนอประธาน กทช. ลงนาม ก่อนนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป
 
ระเบียบวาระที่  5.3  :  หลักเกณฑ์การจ่ายเงินโดยผ่านบัตรเครดิตของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 : รทช.ฐากรฯ, ปต.


มติที่ประชุม               รับทราบหลักเกณฑ์การจ่ายเงินโดยผ่านบัตรเครดิตของสำนักงานคณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.4  :   รายงานผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 : รทช.ฐากรฯ, กม.

มติที่ประชุม              รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามที่ กทช. ได้แต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือมอบหมายให้ ลทช. ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ประจำเดือนเมษายน 2553 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.5  :  รายงานข้อมูลของสถานีวิทยุชุมชน ประจำเดือนเมษายน 2553 : รทช.ประเสริฐฯ, กท. 

มติที่ประชุม              รับทราบรายงานสรุปข้อมูลสถานะความเคลื่อนไหวของวิทยุชุมชน และข้อมูลสถิติระดับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากวิทยุชุมชน โดยเฉพาะในกรณีที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อการรบกวนวิทยุการบิน ประจำเดือนเมษายน 2553 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ

ระเบียบวาระที่   5.6  :   รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 (จังหวัดมหาสารคาม) : คณะกรรมการดำเนินโครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติฯ 

มติที่ประชุม               รับทราบผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือฯ ฉบับที่ 5 (เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2552) ตามเอกสารที่คณะกรรมการดำเนินโครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนา ชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติฯ เสนอ

ระเบียบวาระที่   5.7  :   รายงานผลการดำเนินการโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท ฉบับที่ 7 ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 2552 และฉบับที่ 8 ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2552 : คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

มติที่ประชุม               รับ ทราบผลการดำเนินงานโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบทฯ ฉบับที่ 7 (เดือนเมษายน – มิถุนายน 2552) และฉบับที่ 8 (เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2551) ตามเอกสารที่คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและ พัฒนาชนบท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เสนอ

ระเบียบวาระที่   5.8  :  สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด : สชท.

มติที่ประชุม               รับ ทราบสัญญาแก้ไขการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทยและบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ตามมติกทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.9  :  สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด : สชท.

มติที่ประชุม              รับ ทราบสัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ตามมติกทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่  5.10  :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 3/2550 : สชท.

มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 3/2550 ระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ

ระเบียบวาระที่   5.11  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 5/2551 : สชท.

มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 5/2551 ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.12  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่  6/2551 : สชท.

มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 6/2551 ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม  พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.13  :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 1/2552 : สชท.

มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 1/2552 ระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู  คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบ วาระที่   5.14  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่  2/2552 : สชท.

มติที่ประชุม              รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 2/2552 ระหว่างบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ ๖๗ ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ

ระเบียบวาระที่  5.15  :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่  1/2553 : สชท.

มติที่ประชุม              รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 1/2553 ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู มูฟ จำกัด  ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.16  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่  2/2553 : สชท.

มติที่ประชุม               รับ ทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 2/2553 ระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ

ระเบียบวาระที่  5.17  :   รายงานความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่  3/2553 : สชท.

มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายน 2553 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 3/2553 ระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.18  :  สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติขอส่งคืนเลขหมายฯ พิเศษ 1855 :  รทช.ประเสริฐฯ , กบ.

มติที่ประชุม              รับทราบการขอส่งคืนเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ หมายเลข 1855 ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งได้รับจัดสรรตามมติ กทช. ครั้งที่ 57/2548 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   6    :  เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่   6.1 :  นายศุภณัฐ จุฑาเจริญวงศ์  นักเรียนทุนสำนักงาน กทช.ขอเข้าพบ กทช.เพื่อรายงานตัว : กทช.สุธรรมฯ


มติที่ประชุม                รับ ทราบการเข้าพบของนักเรียนทุนสำนักงาน กทช. (นายศุภณัฐ จุฑาเจริญวงศ์) พร้อมผู้ปกครอง ตามที่ กทช.สุธรรมฯ ได้นำมาเข้าพบ ทั้งนี้ ประธาน กทช. และ กทช. ได้กล่าวแสดงความยินดี และมอบโอวาท พร้อมให้ข้อแนะนำต่างๆ แก่นายศุภณัฐฯ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตในต่างแดนระหว่างการศึกษา และการเพิ่มพูนประสบการณ์/โอกาสที่สำคัญในการเล่าเรียนเพื่อศึกษาต่อระดับ ปริญญาตรี/โท ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ระเบียบวาระที่   6.2  :   การย้ายสถานศึกษาของนายถิรพิรุฬห์  ทองคำวิฑูรย์ นักเรียนทุน สำนักงาน กทช. : กทช.สุธรรมฯ

มติที่ประชุม              
1.  อนุมัติให้นายถิรพิรุฬห์ ทองคำวิฑูรย์ นักเรียนทุน สำนักงาน กทช. ย้ายสถานศึกษาจาก Michigan State University มลรัฐ Michigan ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหลักสูตร Electric and Computer  Engineering ระดับปริญญาเอก ไปศึกษา ณ Imperial College ในหลักสูตร Electrical and Electronic Engineering ระดับปริญญาเอก ประเทศสหราชอาณาจักร  ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าการโอนย้ายสถานศึกษาของนายถิรพิรุฬห์ ทองคำวิฑูรย์ นักเรียนทุนสำนักงาน กทช. เป็นการโอนย้ายไปยังมหาวิทยาลัยที่ดีกว่าเดิม อันจะมีผลดีกับนายถิรพิรุฬห์ฯ และสำนักงาน กทช. จะได้ผู้ปฏิบัติงานที่มีคุณภาพต่อไป
2.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งให้ สำนักงาน ก.พ. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายสถานศึกษาตามมติข้อ 1 ต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   6.3  :  เพิ่มเติมรายนามคณะเดินทางเพื่อเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรชั้นสูง (Advanced Course) Regulation of Telecommunications and Competition Law: Economic and Legal Foundations ณ London School of Economics and Political Science ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 5 - 9 กรกฎาคม 2553  : กทช.สุธรรมฯ

มติที่ประชุม               อนุมัติให้เพิ่มเติมรายนามคณะเดินทางเพื่อเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรชั้นสูง (Advanced Course) Regulation of Telecommunications and Competition Law: Economic and Legal Foundations ณ London School of Economics and Political Science ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 5 - 9 กรกฎาคม 2553  จำนวน 3 ท่าน ประกอบด้วย
1.  พันเอก ดร. อนุรัตน์  อินกัน กรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT หรือ 3G and beyond    
2.  นายต่อพงศ์  เสลานนท์ ประธานฝ่ายสื่อสารสาธารณะสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย  และอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์   และ
3.  นายธีรวัฒน์  จีรภัทรธนาพงศ์ เลขานุการประธานผ่ายสื่อสารสาธารณะสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย (ผู้ติดตามนายต่อพงศ์ฯ) ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ทั้งนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเข้าร่วมการอบรมให้เบิกจ่ายจากงบประมาณการ เดินทางเพื่อเข้าร่วมการอบรมดังกล่าวที่ได้รับอนุมัติตามมติ กทช. ครั้งที่ 13/2553 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2553

ระเบียบวาระที่   6.4  :  ขอสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ 84 พรรษา : กทช.บัณฑูรฯ, รทช. พิทยาพลฯ, ทถ.

มติที่ประชุม                อนุมัติในหลักการการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมโต๊ะและอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 8,400 เครื่อง ในวงเงินค่าใช้จ่ายประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีให้กับโรงเรียนทั่วประเทศที่ ยังขาดแคลน เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ตามที่คณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภา มีหนังสือร้องขอ ทั้งนี้ โดยมีแนวทางการดำเนินการตามที่ กทช. บัณฑูรฯ เสนอ ดังนี้
1.  ให้การสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวโดยผ่านช่องทางการจัดสรรเงินผ่านกอง ทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างกฎกระทรวงว่าด้วย หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนฯ ใกล้แล้วเสร็จ
2.  แต่งตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ได้แก่ ผู้แทนคณะกรรมาธิการฯ ผู้แทนกระทรวงศึกษา และผู้แทนสำนักงาน กทช. เพื่อหารือร่วมกันในการจัดทำแผนการดำเนินการสนับสนุนดังกล่าวอย่างเหมาะสม ต่อไป
3.  พิจารณาจัดตั้งงบประมาณรองรับให้เหมาะสม และไม่เป็นภาระจนเกินไปโดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ในปี 2553 จำนวนประมาณ 75 ล้านบาท และผูกพันในปี 2554 อีกจำนวน 75 ล้านบาท พร้อมกับการพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสมในการเบิกจ่าย โดยต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ระเบียบ/ประกาศกำหนดไว้

ระเบียบวาระที่   6.5   :   ขอบรรจุการจัดทำร่างข้อเสนอเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนา 19Th ITS Biennial Conference 2012 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหัวข้อการจัดงาน และการเดินทางเข้าร่วมประชุม ITS ปี 2010 ณ ประเทศญี่ปุ่น  เข้าเป็นวาระเพื่อพิจารณาในที่ประชุม กทช. : กทช.สุธรรมฯ

มติที่ประชุม             เห็น ชอบร่างข้อเสนอเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนา 19Th ITS Biennial Conference 2012 ระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2555 ณ จังหวัดภูเก็ตในหัวข้อ “Moving Forward with Future Technology : Opening a Platform for All” และการเดินทางเข้าร่วมสัมมนา ITS Biennial Conference ปี 2010  ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2553  ณ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ตามที่ กทช. สุธรรมฯ เสนอ

ระเบียบวาระที่  6.6   :  รายละเอียดและสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท (กวพ.) ชุดใหม่ : กทช.สุธรรมฯ

มติที่ประชุม              
1.  รับทราบรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ตามที่ กทช. สุธรรมฯ ทั้งนี้ ขอให้ กทช. ทุกท่านนำไปพิจารณาในรายละเอียดเพื่อความรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง โดยหากมีประเด็นข้อคิดเห็นใดเพิ่มเติม ให้แจ้ง กทช.สุธรรมฯ ทราบ และประมวลเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาเพื่อมีมติเห็นชอบต่อไป
2.  มอบหมายให้ กทช. เสนอรายชื่อ พร้อมประวัติของบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิที่สมควรได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นคณะ กรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ส่งให้ กทช. สุธรรมฯ ภายในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2553 เพื่อรวบรวมก่อนนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาต่อไป

สร้างโดย  -   (16/3/2559 14:37:26)

Download

Page views: 196