ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
1. พลเอกชูชาติ                      พรหมพระสิทธิ์        ประธานกรรมการ
2. ศาสตราจารย์ประสิทธิ์           ประพิณมงคลการ     กรรมการ
3. นายสุชาติ                          สุชาติเวชภูมิ            กรรมการ
4. ศาสตราจารย์เศรษฐพร         คูศรีพิทักษ์              กรรมการ
5. รองศาสตราจารย์สุธรรม         อยู่ในธรรม             กรรมการ
(วันที่ 14 สิงหาคม 2552 เข้าประชุมเฉพาะวาระที่ 4.13 และ วาระที่ 6.6 ) 
ผู้ไม่เข้าประชุม
1. นายเหรียญชัย  เรียววิไลสุข  ไปต่างประเทศ

ระเบียบวาระที่  1  :  เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1.  กทช. ปฏิบัติหน้าที่มาจะครบ 5 ปี แล้ว ขอให้สำนักงาน กทช.จัดตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมผลการปฏิบัติงานต่างๆ เริ่มตั้งแต่มี กทช.เป็นต้นมา รวมทั้งอาจจะจัดให้มีการแถลงข่าวหรือนิทรรศการ เพื่อให้สาธารณะได้รับทราบ ทั้งนี้ ขอให้นำเสนอ กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  นอกจากนี้ ขอให้ สำนักงาน กทช. ตรวจสอบด้วยว่าที่ผ่านมามีปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้าง  ที่ควรจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อประโยชน์ในอนาคตของประเทศชาติ และความเจริญรุ่งเรืองของกิจการโทรคมนาคมต่อไปข้างหน้า
2. ขอให้  สำนักงาน กทช. ปฏิบัติงานต่างๆ  ให้เป็นไปตามระเบียบ และ ประกาศกำหนด รวมทั้ง มติ กทช.ที่ให้ไว้ โดยเคร่งครัดและหากจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขมติหรือระเบียบให้เหมาะสมยิ่ง ขึ้นอย่างไร ก็ขอให้นำเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาต่อไป  
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ระเบียบวาระที่  2  :  รับรองมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 26/2552 วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552
มติที่ประชุม  รับรองมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 26/2552 วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ  โดยมีข้อแก้ไข ดังนี้
1. วาระ ที่ 4.8  ข้อ 2 และ ข้อ 3  แก้ไขคำว่า “ Land Segment “  เป็น “ Ground Segment”
2. วาระที่ 4.11  ข้อ 2.1    แก้ไขคำว่า “ Back Core” เป็น “ Backhaul”
3. วาระที่ 4.21  ข้อ 2  เพิ่มเติมคำว่า จัดทำและประเมินผลตัวชี้วัด (KPI) ประจำปี 2553 ของสำนักงาน กทช. ต่อเนื่องต่อไป
ระเบียบวาระที่  3  :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช.  ครั้งที่ 26/2552 วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 26/2552 วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่  4  :  เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่  4.2  :  ร่างประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการกำกับพฤติกรรมที่มีลักษณะต่อต้านการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม พ.ศ. .... (ฉบับปรับปรุงหลังรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ) : รทช.พิทยาพล, พต. (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม                
1. รับทราบรายงานสรุปผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่าง ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการกำกับพฤติกรรมที่มีลักษณะต่อต้านการ แข่งขันในตลาดโทรคมนาคม พ.ศ. ....  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ....  ตามที่ สำนักงาน กทช.เสนอ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช. นำร่างประกาศดังกล่าวเสนอประธาน กทช. เพื่อลงนามก่อนนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามขั้นตอนต่อไป  
3.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมเพื่อดำเนินการให้เป็นไปอย่าง เหมาะสมต่อไป ดังนี้

• ให้นำร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ....  ไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบ 
• ให้รวบรวมผลการดำเนินงานเรื่องมาตรการการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ที่ กทช.ได้มีมติเห็นชอบไปแล้วทั้งหมด   อาทิ  ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่ เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549, ประกาศ กทช.เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทการขายส่งบริการและขายต่อบริการ  และประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 โดยจัดพิมพ์รายละเอียดเป็นรูปเล่มให้ชัดเจน สวยงาม เพราะเป็นผลงาน 5 ปีของ กทช. เพื่อนำส่งเป็นเอกสารรายงานต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และเผยแพร่ต่อประชาชน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

ระเบียบวาระที่ 4.4  :  รายงานอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2552 : รทช.พิทยาพล,ศฐ. (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1.  รับทราบรายงานการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2552 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. ประมวลสรุปรายงานการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรคมนาคมในรอบปี เพื่อพิมพ์เผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการต่อไป ดังนี้

• ในรายงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2552 ให้หมายเหตุเพิ่มเติมด้วยว่า “ แม้ว่าค่าบริการจะมีแนวโน้มที่ลดลง ณ ระดับความเร็ว (speed) ในการให้บริการเดียวกัน แต่ยังมีผู้ใช้บริการบางรายร้องเรียนในเรื่องคุณภาพความเร็วของอินเทอร์เน็ต ที่ลดลงในบางพื้นที่ ”
• สำหรับรายงานในคราวต่อไป ให้เพิ่มเติมการวิเคราะห์อัตราค่าบริการของบริการข้อมูล (Data Service) เช่น SMS, MMS, เพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และให้ศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างอัตราค่าบริการของประเทศไทย กับ อัตราค่าบริการของประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียน รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ด้วยว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง  

ระเบียบวาระที่  4.5  :  รายงานการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม : รทช.ฐากร, คง. (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม                
1. รับทราบรายงานการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคม และรายได้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการให้บริการอินเทอร์เน็ตประจำปีงบประมาณ 2552 (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2552) รวมทั้งสิ้น 1,421,975,808.86 บาท ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการ ต่อไป ดังนี้

• ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่า กรณีที่แจ้งว่าผู้รับใบอนุญาตหยุดประกอบกิจการนั้น จริงหรือไม่ อย่างไร และมีการดูแลให้ลูกค้าไปใช้บริการของผู้ประกอบการรายอื่นแทนด้วยหรือไม่  ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบรายงาน กทช.ทราบโดยเร็ว
• ให้จัดทำรายงานโดยแยกตามประเภทใบอนุญาตแบบที่หนึ่ง แบบที่สอง และแบบที่สาม  โดยเฉพาะใบอนุญาตแบบที่สอง และแบบที่สาม ที่มีโครงข่ายให้ สำนักงาน กทช. ติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
• ให้จัดทำข้อมูลและกราฟ แสดงรายละเอียดการออกใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้น และรายได้การจัดเก็บที่เพิ่มขึ้น โดยแยกให้เห็นเป็นสัดส่วนในแต่ละรายการ
• ให้เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแล มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลให้พร้อม และในการปฏิบัติงานขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกันด้วย

ระเบียบวาระที่  4.6  :  งบการเงินของสำนักงาน กทช. สำหรับไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด วันที่ 30มิถุนายน 2552 :รทช.ฐากร,คง. (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม            
1. รับทราบงบการเงินของสำนักงาน กทช. สำหรับไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งสำนักงาน กทช.ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กทช. ว่าด้วย การรับ การจ่ายและการเก็บรักษาเงิน พ.ศ. 2548 หมวดที่ 4 ข้อ 78 ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ    
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. นำข้อคิดเห็นของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ในเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดทำงบประมาณ และงบการเงินของสำนักงาน กทช. ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ระเบียบวาระที่  4.7  :  ร่างระเบียบ กทช. ว่าด้วยเข็มเกียรติคุณ พ.ศ.... : รทช.ฐากร, ปธ.
(วัน พฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมในประเด็นต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางประกอบการดำเนินการในเรื่องนี้ให้เหมาะสมแล้วนำเสนอ กทช.พิจารณาต่อไป อาทิ การพิจารณาจัดทำเป็นเข็มเชิดชูเกียรติสำหรับผู้ประกอบคุณงามความดีในสาขาโทร คมนาคมแทน เป็นต้น ทั้งนี้ โดยให้หารือที่ปรึกษาประธาน กทช. และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย (พลเอกชูชาติ สุขสงวน) ด้วย
ระเบียบวาระที่  4.8  :  ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสถาบันเฉพาะทาง : คณะกรรมการปรับปรุงระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1. รับทราบการเสนอแก้ไขปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จำนวน 4 ฉบับ ตามที่คณะกรรมการปรับปรุงระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ เสนอ ได้แก่

• ระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการ  บริหารงานวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม พ.ศ. 2549  
• ระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยสถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549
• ระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการ  จัดตั้งสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550
• ระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการมอบอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติให้ ปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในสถาบันเฉพาะทาง พ.ศ. 2550

2.  เนื่องจากระเบียบต่าง ๆ ดังกล่าว กทช. ได้จัดทำขึ้นโดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ หลายขั้นตอน ดังนั้น การแก้ไขปรับปรุงจึงควรพิจารณาให้รอบคอบทุกด้าน จึงมอบหมายให้ สำนักงาน กทช. เร่งประสานนัดหมายสถาบันอิสระทั้ง 3 แห่ง รวมถึงสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม เพื่อประชุมหารือร่วมกับ กทช. ในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงร่างระเบียบ กทช.ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของสถาบันเฉพาะทางด้วย ให้ได้ข้อยุติเชิงนโยบายที่ชัดเจนโดยเร็วต่อไป โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับหลักการบริหารจัดการที่เหมาะสม (Decentralization & Delegation of Authority) อำนาจการตัดสินใจ รวมถึงสถานะภาพทางกฎหมาย รูปแบบการบังคับบัญชา ตลอดจนอำนาจหน้าที่ ความคล่องตัว ความเป็นอิสระ และระบบ Good Governance ของทุกสถาบัน 
ระเบียบวาระที่ 4.9  :  การพิจารณาโครงสร้างอัตรากำลังของสำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ : รทช.ฐากร, บค. (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  เห็นควรชะลอการพิจารณาเรื่อง โครงสร้างอัตรากำลังของกองทุนฯ ไว้ก่อน โดยให้รอความชัดเจนจากผลการพิจารณาของ กทช. ในเรื่อง การปรับปรุงระเบียบของ 3 สถาบัน ของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ ก่อน อย่างไรก็ดี ให้กองทุนฯ พิจารณาดำเนินการจ้างลูกจ้างเพื่อปฏิบัติงานในสำนักงานกองทุนฯ ได้ตามความจำเป็น ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณงานที่ต้องปฏิบัติแล้วจึงสมควรพิจารณา กำหนดตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานประจำต่อไป  ตามความเห็นของคณะกรรมการบริหารงานบุคคล
ระเบียบวาระที่ 4.10  :  ปรับปรุงข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครในประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม : รทช.ฐากร, บค.(วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
หมายเหตุ  เห็นชอบให้ปรับปรุงข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครในประกาศคณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม ในเรื่องคุณลักษณะต้องห้ามในข้อ 1.1.4 คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในข้อ 1.2.1 และเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ ทั้งนี้ ให้นำหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.พ. ในการกำหนดระดับคะแนนการสอบภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS มาใช้เป็นเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในด้านความรู้ภาษาอังกฤษของผู้ สมัครด้วย
ระเบียบวาระที่ 4.12  :  รายงานผลการหารือทางเทคนิค กรณีข่ายดาวเทียม SINOSAT-3 BSS ระหว่างจีนและไทย : รทช.ทศพร,วท. กร. (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1. รับทราบรายงานผลการหารือทางเทคนิค (การประชุมอย่างไม่เป็นทางการ) กรณีข่ายดาวเทียม SINOSAT-3 BSS กับข่ายดาวเทียมไทย ระหว่างวันที่ 29-30 มิถุนายน 2552 ณ เมือง Hangzhou สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ
2. เนื่องจากสำนักงาน กทช.ได้มีหนังสือถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฉบับลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2552) ในเรื่อง การประสานงานความถี่วิทยุกับสาธารณรัฐประชาชนจีน กรณีข่ายดาวเทียม SINOSAT-3 BSS กับข่ายดาวเทียมไทยแล้ว ดังนั้น จึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช. ประสานงานเพื่อขอทราบผลการพิจารณาโดยเร็วต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.13  :  โครงการระบบสื่อสัญญาณไร้สายผ่านดาวเทียมสำหรับโครงการ USO ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) : รทช.ทศพร, วท.(วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1. โดยที่ข้อผูกพันการเปิดเสรีโทรคมนาคมของประเทศไทยภายใต้กรอบอาเซียนใน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Domestic VSAT นั้น ได้กำหนดให้ผู้ให้บริการจะต้องใช้ดาวเทียมไทยคมจนถึงสิ้นปี 2542 (1999) ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านกำหนดเวลาดังกล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ดี เนื่องจาก บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้มีการประสานงานกับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เพื่อเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมสำหรับการดำเนินโครงการ USO แล้ว แต่ บมจ.ไทยคม ไม่สามารถจัดช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมให้ได้ จึงเสนอให้ใช้ดาวเทียม Vinasat ของประเทศเวียดนามแทน ดังนั้น ในกรณีดังกล่าวจะถือว่าเป็นการเปิดเสรีให้ดาวเทียมต่างชาติของประเทศในกลุ่ม อาเซียนสามารถเป็นผู้ให้บริการระบบสื่อสัญญาณไร้สายผ่านดาวเทียมในประเทศ (Domestic VSAT) ภายในประเทศไทยได้หรือไม่ อย่างไร ตามข้อผูกพันการเปิดเสรีโทรคมนาคมของประเทศไทยภายใต้กรอบอาเซียน ซึ่ง กทช.ในฐานะองค์กรกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคมของประเทศ จำเป็นต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ โดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อข้อผูกพันของอาเซียนดังกล่าว หรือความตกลงระหว่างประเทศใดๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการต่อกรณีการใช้ดาวเทียมต่างชาติสำหรับ โครงการ USO ของ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ของ กทช.ต่อไป
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือสอบถามความเห็นในประเด็นข้างต้นตามข้อ 1 โดยเฉพาะประเด็นความเห็นในเชิงกฎหมาย ไปยังหน่วยงานต่างๆของรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการต่างประเทศ  (กรมสนธิสัญญาฯ และกรมอาเซียน) รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ (กรมเจรจาการค้าฯ) ทั้งนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาของ กทช. ในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยให้หารือ กทช.สุธรรม และ กทช.เศรษฐพร เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของถ้อยคำก่อนจัดส่งต่อไปด้วย รวมทั้งให้สำนักงาน กทช.มีหนังสือแจ้ง บมจ.กสท โทรคมนาคม เพื่อรับทราบสถานะการดำเนินงานว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความเห็นประกอบการพิจารณาของ กทช. อย่างรอบคอบต่อไป  
ระเบียบวาระที่ 4.20  :  การประชุม  ICC  EBITT  Commission and  BASIS  meeting ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส : รทช.ทศพร , รศ. (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  อนุมัติให้คณะเดินทางได้แก่ นางสาววีร์ธิมา  ชินธรรมมิตร ผู้ช่วยเลขานุการ กทช.สุธรรม และนางสาวชนิดา  สุปรีดานุวัฒน์ พนักงานตามสัญญาจ้าง ส่วนงาน กทช.สุธรรม เข้าร่วมประชุมกับ กทช.สุธรรม ในการประชุม ICC EBITT Commission and BASIS meeting ระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2552 ณ ICC International Headquarter กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส  ตามที่ สำนักงาน กทช.เสนอ ทั้งนี้ โดยมีค่าใช้จ่ายในวงเงินงบประมาณ 850,500 บาท ซึ่งเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2552 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศของ กทช.
ระเบียบวาระ ที่ 4.21  :  การส่งพนักงานสำนักงาน กทช.เข้าร่วมการประชุม ITU  Regional Cybersecurity Forum  for  Asia - Pacific ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2552 ณ ประเทศอินเดีย : รทช.ทศพร, กร. (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  อนุมัติให้พนักงานสำนักงาน กทช.จำนวน 3 ราย เข้าร่วมการประชุม ITU Regional Cybersecurity Forum for Asia-Pacific  ระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2552 ณ เมือง Hyderabad ประเทศอินเดีย โดยมีค่าใช้จ่ายจำนวน 176,750 บาท ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ ดังนี้
1. ส.ต.ท.หญิง พรรณวดี  แก้วสุข สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. นายเธียรทวี  สุทธินนท์  สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. นางสาวกนกอร ฉวาง  สำนักกฎหมาย
ระเบียบวาระที่ 4.24  :  คณะกรรมการกำกับการบริหารกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี : สำนักงานกองทุนฯ (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม                
1.  รับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับการบริหารกองทุนพัฒนากิจการ โทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามที่ สำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ เสนอ
2. เห็นชอบให้คณะกรรมการกำกับการบริหารกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อ ประโยชน์สาธารณะ ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 22 สิงหาคม 2552 ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกำกับการบริหารกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อ ประโยชน์สาธารณะต่อไปอีก 1 วาระ
ระเบียบวาระที่ 4.25  :  ข้อเสนอโครงการศึกษาวิจัยเชิงวิชาการ เรื่อง ระบบนำร่อง สายด่วนแจ้งเหตุ (Hot line)   เพื่อพัฒนาระบบความร่วมมือระหว่าง ISP  เพื่อต่อต้านการนำอินเทอร์เน็ตไปใช้ในการหาประโยชน์จากเด็ก  การค้ายาเสพติดและการก่อการร้าย : รทช.ฐากร, กจ.
มติที่ประชุม              
1. อนุมัติในหลักการในการสนับสนุนการดำเนินโครงการศึกษาวิจัยเชิงวิชาการ เรื่องระบบนำร่อง สายด่วนแจ้งเหตุ (Hot line) เพื่อพัฒนาระบบความร่วมมือระหว่าง ISP เพื่อต่อต้านการนำอินเทอร์เน็ตไปใช้ในการหาประโยชน์จากเด็ก การค้ายาเสพติดและการก่อการร้าย ในวงเงินงบประมาณ 5 ล้านบาทโดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ พิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณโครงการอีกครั้งหนึ่งด้วย ตามที่ สำนักงาน กทช.เสนอ 
2. มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมในประเด็นข้อห่วงใยเกี่ยวกับ Child Abuse อาทิ ปัญหาการติดยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน และการแพร่ภาพลามกอนาจาร เพื่อหารือในคณะกรรมการร่วมเพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานตามข้อตกลง ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักงาน กทช. กับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ต่อไป 
ระเบียบวาระที่ 4.26  :  การขอรับสนับสนุนงบประมาณแก่สมาคมลูกกตัญญูแห่งชาติ  : คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณ (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  อนุมัติงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมลูกกตัญญูแห่งชาติ ตามที่สมาคมฯ มีหนังสือขอความสนับสนุนมา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เป็นไปตามระเบียบ กทช.ว่าด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานของ กทช.และสำนักงาน กทช. พ.ศ.2551 ข้อ 5 (3) ที่เป็นการเผยแพร่ความรู้ทางด้านวัฒนธรรมที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งนี้  โดยเบิกจ่ายจากงบกลางปี 2552  ของสำนักงาน กทช.ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ
ระเบียบวาระที่  4.27  :  โครงการแจกรางวัลเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่โรงเรียนที่มีพัฒนาการด้านสารสนเทศ ดีเลิศ : คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบทฯ (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1.  อนุมัติให้ดำเนินการโครงการ “แจกเงิน แจกกล่อง แก่โรงเรียนที่มีพัฒนาการด้านสารสนเทศดีเลิศ”  ตามที่ คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบทฯ เสนอ
2.  อนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการตามข้อ 1 จำนวน 2,300,000  บาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณประจำปี  2552 จำนวน 1,000,000 บาท และงบประมาณประจำปี 2553 จำนวน 1,300,000 บาท ทั้งนี้ งบประมาณในการดำเนินโครงการปี 2552 จำนวน  1,000,000 บาท ให้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางของสำนักงาน กทช.ประจำปี 2552 สำหรับงบประมาณดำเนินโครงการในปี 2553  จำนวน 1,300,000 บาท นั้น  ให้สำนักงาน กทช.จัดตั้งไว้ในงบบริหารองค์กร ทถ. ต่อไป
ระเบียบวาระที่  4.28  :  โครงการสำเนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แจกจ่ายโรงเรียนที่ขาดแคลนในจังหวัด เชียงราย : คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบทฯ (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม              
1.  อนุมัติให้ดำเนินการโครงการสำเนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แจกจ่ายโรงเรียนที่ ขาดแคลนในจังหวัดเชียงราย ตามที่คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบทฯ เสนอ  ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการให้เหมาะสม ยิ่งขึ้นต่อไป ได้แก่

• การออกสำรวจความต้องการของเนื้อหา e-book หรือกระบวนวิธีเพื่อจัดทำ e-book โดยอ้างอิงกับหลักสูตรมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ
• การออกแบบให้ e-book มีความน่าสนใจของนักเรียนโดยมี animation และคำอธิบายให้เข้าใจง่าย
• การประเมินผลโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

2.  อนุมัติงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการ ตามข้อ 1  จำนวน  1,012,500  บาท  ทั้งนี้ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลางของ สำนักงาน กทช.ประจำปี 2552 และงบประมาณของ ทถ.ประจำปี 2553
ระเบียบวาระที่ 4.29  :  พิจารณาทบทวน : คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)

• ร่างประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการออกใบอนุญาต ประกอบกิจการแก่ผู้ได้รับอนุญาต สัมปทานหรือสัญญา จากส่วน ราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามพระราชบัญญัติ การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551    
• ร่างประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ของผู้ประกอบกิจการ   ที่ดำเนินการอยู่ในวันที่พระราช บัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551  มีผลใช้บังคับ      (ฉบับชั่วคราว)    พ.ศ. ....       

มติที่ประชุม              
1.  เนื่องจากผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงฯ ต่อกรณีของการดำเนินการตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เห็นว่าเป็นการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ การกำหนดให้มีหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตเพื่อเป็นเครื่องมือของหน่วยงานทาง ปกครองที่จะดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาตตามกฎหมาย ทั้งนี้ โดยการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อเจ้าของสิทธิทั้งในส่วนของผู้รับและผู้ให้ อนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาด้วยเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้ จึงเห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อออกใบอนุญาตดังกล่าว เป็นหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องดำเนินการ และมิได้มีสาระสำคัญอันเป็นการขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ผลการพิจารณาของ กทช. ในประเด็นการดำเนินการออกใบอนุญาตให้กับผู้รับอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ดังกล่าว เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับมาตรา 305 (1)  แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550โดยจะมีผลทำให้รัฐในฐานะผู้ให้สัมปทานเกิดความเสียเปรียบ และเกิดผลกระทบต่อส่วนแบ่งรายได้ที่รัฐพึงจะได้รับตามสัญญาสัมปทานเดิม (Revenue Sharing) โดยหากเกิดกรณีผู้รับสัมปทานไม่ยอมจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญา ย่อมไม่มีหลักประกันใดที่ชัดเจนว่าผู้รับสัมปทานจะยังยินยอมหรือไม่บิดพริ้ว ในการจ่ายค่าสัมปทานให้แก่รัฐต่อไป
     ดังนั้น ประเด็นความเห็นที่แตกต่างกันข้างต้น ย่อมถือเป็นประเด็นปัญหาที่มีการโต้แย้งกันเกิดขึ้นระหว่าง กทช.และคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงฯ ซึ่งสามารถขอความเห็นชี้ขาดจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ได้ข้อยุติและมีแนว ทางปฏิบัติที่ถูกต้องและชัดเจนได้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เคยมีหนังสือแจ้งไว้ ในการนี้ ที่ประชุมจึงมีมติให้มีหนังสือสอบถามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา อีกครั้งหนึ่งว่าการดำเนินการออกใบอนุญาตให้กับผู้รับอนุญาต สัมปทานหรือสัญญา จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 นั้น จะเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งกับมาตรา 305(1) แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ อย่างไร รวมถึงขอให้สอบถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไปในคราวเดียวกันด้วย แล้วนำเสนอ กทช.เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง อาทิ

• หาก กทช.ต้องดำเนินการออกใบอนุญาตให้กับผู้รับอนุญาต สัมปทานหรือสัญญา จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 แล้ว จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องแจ้งไปยังผู้ให้สัมปทานเพื่อยืนยันสิทธิการใช้คลื่น ความถี่ซึ่งยังเป็นของรัฐอยู่
• หากผู้ประกอบการภาคเอกชนที่ยังมีสถานะเป็นผู้รับสัมปทานตามสัญญาสัมปทาน แต่ไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงฯ แล้ว จะถือว่าเป็นการเสียสิทธิใดๆหรือไม่
• กรณีผู้รับสัมปทานที่ประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ตามสัญญาสัมปทานที่กระทำกับหน่วยงานผู้ให้สัมปทาน นั้น เข้าข่ายต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ด้วยหรือไม่
• โดยที่รัฐธรรมนูญกำหนดการรับรองสิทธิไว้ตามมาตรา 305 (1) โดยระบุว่า “ แต่ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบกระเทือนถึงการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายที่ได้กระทำขึ้นก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญานั้นจะสิ้นผล ”  ดังนั้น กรณีการให้สัมปทานเอกชนเป็นผู้ดำเนินการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นั้น ชอบด้วยกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือไม่ และหากเป็นกรณีที่การดำเนินการโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว จะยังคงได้รับการคุ้มครองตามบทเฉพาะกาลแห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 75 หรือไม่ ประการใด

2.  โดยที่ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งขาดความชัดเจนและความเหมาะสม เนื่องจากกฎระเบียบและประกาศต่างๆที่มีอยู่เดิมต้องถูกยกเลิกไปโดยเหตุแห่ง กฎหมายฉบับนี้ จนก่อให้เกิดข้อบกพร่อง และเกิดช่องว่างในทางปฏิบัติหลายประการทั้งในการอนุญาต และการกำกับดูแล ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 สามารถกระทำได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของ ประเทศอย่างแท้จริง จึงสมควรวิเคราะห์เสนอความเห็นต่อรัฐบาลเพื่อรับทราบ และพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช.รับไปพิจารณาดำเนินการโดยเร็วต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.30  :  การทบทวนปรับปรุงร่างหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่น ความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) ตามข้อคิดเห็นของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  : คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงฯ  (วันพฤหัสบดีที่ 13  สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) ตามที่คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เสนอ  ทั้งนี้ โดยให้ได้รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปแก้ไขเพิ่มเติมข้อความใน ข้อ 11(9) เรื่อง Editorial Responsibility ในส่วนของเจ้าของผู้ผลิตสื่อ หรือผู้รับใบอนุญาตและผู้บริหารสถานี เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบต่อสาธารณะ (Public Responsibility) ความรับผิดต่อประชาชน (Civil Responsibility)   และ ความรับผิดชอบส่วนบุคคล (Individual Responsibility) รวมทั้ง เรื่อง Media Responsibility ทั้งในด้าน Media Neutrality และ Media Literacy เพื่อให้เกิดการควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวด และเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นการยกระดับจาก Negligenec Standard ให้เป็นความรับผิดชอบในระดับมืออาชีพ (Professional Responsibility) ด้วย   ทั้งนี้ ให้นำร่างที่ปรับปรุงข้อความเพิ่มเติมไปหารือ กทช.สุธรรมฯ เพื่อพิจารณาความครบถ้วนและถูกต้องของถ้อยคำก่อนนำเผยแพร่ขึ้น Website ตามระเบียบรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ก่อนเสนอประธาน กทช.เพื่อลงนามและนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามขั้นตอนต่อไป
ระเบียบวาระที่  4.31  :  ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว   (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก): คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงฯ(วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  มอบหมายให้ คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงฯ  รับข้อคิดเห็นที่ประชุมไปพิจารณากำหนดแนวทางและรูปแบบวิธีการจัดเก็บ ตลอดจนอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่ว คราว(กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นแล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
1.  เนื่องจากเป็นกรณีการออกใบอนุญาตการประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่เป็น การชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) ซึ่งมีระยะเวลา 1 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด  และเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเรื่องภาระการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในระยะต่อไป จึงเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคิดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบ กิจการ ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ทั้งที่เป็นธุรกิจ ระดับชาติ และ ระดับท้องถิ่น  ในแบบคงที่ (Fixed)  และสมควรกำหนดวิธีการจัดเก็บในลักษณะการจัดเก็บแบบล่วงหน้า  
2.  ในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามข้อ 1 อาจพิจารณาจากจำนวนผู้ประกอบการในแต่ละระดับ ทั้งระดับชาติ  ระดับท้องถิ่น  โดยคิดถัวเฉลี่ยมาจัดทำเป็นเกณฑ์เบื้องต้น รวมทั้ง ควรพิจารณากำหนดให้สะท้อนต้นทุนการปฏิบัติงานหรือเหมาะสมกับค่าบริหารจัดการ ของสำนักงาน กทช. ด้วย แต่ทั้งนี้ ควรเป็นอัตราที่พอเหมาะพอควร เพื่อมิให้เป็นภาระและมิให้เกิดการเอาเปรียบประชาชนในท้ายที่สุด  
หมายเหตุ  ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาที่เหลือได้แก่ วาระที่ 4.1, 4.3, 4.11, 4.14 - 4.19, 4.22 และ 4.23 จะได้นำเสนอ กทช.ในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่  5  :  เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่  5.1  :  รายงานความคืบหน้าโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับสำนักงานประสานงานมูลนิธิอานันทมหิดลและชมรมผู้รับพระราชทานทุนอา นันทมหิดล และร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับสำนักงานประสานงานมูลนิธิอานันทมหิดลและชมรมผู้รับพระราชทานทุนอา นันทมหิดล และร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรม เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.2  :  รายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุม APT Policy and Regulatory Forum 2009 และการศึกษาดูงาน Accounting Separation ณ OFTA เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน : กทช.ประสิทธิ์
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุม APT Policy and Regulatory Forum 2009 ของ กทช.ประสิทธิ์ และคณะ ระหว่างวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2552 และ การศึกษาดูงาน Accounting Separation  เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2552  ณ OFTA เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามเอกสารที่ กทช.ประสิทธิ์ เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.3  :  กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขอเลื่อนการจัดงาน Bangkok International ICT Expo 2009 : รทช.ฐากร, กจ.
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แจ้งขอเลื่อนการจัดงาน Bangkok International ICT Expo 2009 จากเดิมที่กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 5 - 9 ธันวาคม 2552 ณ อิมเเพ็ค เมืองทองธานี  ออกไป ทั้งนี้ หากกระทรวงฯ ได้กำหนดการจัดงานดังกล่าวที่เหมาะสมแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ตามเอกสารที่ สำนักงาน กทช.เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.4  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 3/2550 : สชท.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 3/2550  ระหว่าง บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น  และ บมจ.กสท โทรคมนาคม ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 67  ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.5  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 5/2551  : สชท.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณา ประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 5/2551  ระหว่าง บมจ.กสท โทรคมนาคม และ บมจ.ทีโอที  ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549   ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.6  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทประจำข้อพิพาทที่ 6/2551  : สชท.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ประจำข้อพิพาทที่ 6/2551  ระหว่าง บมจ.กสท โทรคมนาคม  และ  บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส    ซึ่งดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม  พ.ศ.2549  ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.7  :  รายงานผลการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. 2544 : รทช.พิทยาพล, กม.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการ ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ประจำเดือนกรกฎาคม 2552 ซึ่งไม่มีเรื่องการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามเอกสารที่ สำนักงาน กทช.เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.8 : รายงานการประชุม Child Online Protection และประชุมร่วมกับกระทรวง MIC ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2552 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น : รทช.ฐากร, กจ.
มติที่ประชุม  รับทราบ รายงานการเดินทางเข้าร่วมประชุมของ กทช.ประสิทธิ์ และคณะ เพื่อเข้าร่วมประชุม Child Online Protection และ ประชุมร่วมกับกระทรวง MIC ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2552 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตามเอกสารที่ สำนักงาน กทช.เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.9  :  ขอแจ้งกำหนดการเพิ่มเติมการเดินทางเข้าร่วมการสัมมนา International Telecommunications Society Africa – Asia Australia Regional  Conference ในวันที่ 16- 18 สิงหาคม 2552 ณ เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม  รับทราบกำหนดการเพิ่มเติมการเดินทางเข้าร่วมการสัมมนา International Telecommunications Society Africa – Asia Australia Regional  Conference ในวันที่ 16- 18 สิงหาคม 2552 ของ กทช.สุธรรม ซึ่งจะเข้าร่วมสนทนาโต๊ะกลมเชิงนโยบาย การให้บริการอย่างทั่วถึงในทวีปแอฟริกาและเอเชียในวันที่ 17 สิงหาคม 2552  ณ เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรม เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.10  :  การส่งพนักงานเพิ่มเติมเข้าร่วมสัมมนาเรื่อง International Telecommunications Society Africa-Asia- Australia Regional Conference  : รทช.ทศพร , รศ.
มติที่ประชุม  รับทราบการส่งพนักงานเพิ่มเติม (นางธันยพร โชติชนาภิบาล) เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง International Telecommunications Society Africa-Asia- Australia Regional Conference  ระหว่างวันที่ 14- 19 สิงหาคม 2552 ณ  เมืองเพิร์ท  ประเทศออสเตรเลีย  โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จำนวน232,000 บาท ทั้งนี้ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ค่าใช้จ่ายในการจัดการและบริหารองค์กร หมวดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานประเภทเดินทางไปต่างประเทศของ พนักงาน สพท. ประจำปี 2552 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช.เสนอ
ระเบียบวาระที่  5.11  :  การเลื่อนการเดินทางไปบรรยายโครงการความแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ ระหว่าง กทช. และ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซล : สชท.
มติที่ประชุม  รับทราบการเลื่อนการเดินทางของพนักงาน สำนักงาน กทช. ที่จะไปเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทางด้านการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมบท บัญญัติของกฎหมายต่างๆ ฯลฯ ให้แก่คณะผู้แทนไทยและเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานพาณิชย์ ตามโครงการความแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการระหว่าง กทช.และ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ  กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งสำนักงาน กทช.จะได้ประสานงานเพื่อกำหนดวันในการเดินทางไปบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ทาง วิชาการตามกรอบความร่วมมืออีกครั้งหนึ่งต่อไป ตามเอกสารที่ สชท.เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.12  :  การจัดส่งบันทึกความเห็นแย้งให้แก่ นายปรากรณ์ สิริพรโอภาส : กทช.สุธรรม
หมายเหตุ  กทช.เศรษฐ พรฯ เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ควรมีมติรับทราบ เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องพิจารณา จึงเห็นควรนำเสนอ กทช. เป็นเรื่องเพื่อพิจารณาต่อไป
ระเบียบวาระที่  5.13  :  การยื่นคำชี้แจงต่อศาลปกครองในคดีหมายเลขดำที่ 546/2550 : รทช.พิทยาพล, กม.
มติที่ประชุม  รับทราบการดำเนินงานของสำนักงาน กทช. ในการยื่นคำชี้แจงต่อศาลปกครองในคดีหมายเลขดำที่ 546/2550 ระหว่างนายสุพงษ์ ลิ้มธนากุล ผู้ฟ้องคดี กับ กทช. และพวกรวม 4 คน ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช.เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.14  :  สิทธิคนพิการกับการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม : กทช.ประสิทธิ์
มติที่ประชุม  รับทราบการจัดเวทีเสวนา เรื่อง “ สิทธิคนพิการกับการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม” เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารหอประชุม เพื่อรับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเครือข่ายคนพิการต่างๆ และข้อเสนอจากเครือข่ายคนพิการในการส่งเสริมการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมของ กทช.ตามเอกสารที่ กทช.ประสิทธิ์ เสนอ
ระเบียบวาระที่  6  :  เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่  6.1  :  โครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่ง ชาติ และ มหาวิทยาลัยเคอติน แห่งประเทศออสเตรเลีย : รทช.ฐากร, กจ.(วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  เห็นชอบกรอบข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสำนักงาน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเคอติน แห่งประเทศออสเตรเลีย ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช.เสนอ โดยมี ลทช. เป็นผู้ลงนาม และมี รทช.ฐากร ลงนามเป็นพยานในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้ตรวจดูถ้อยคำให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่งด้วย
ระเบียบวาระที่ 6.2  :  การพิจารณาจัดสรรเลขหมายพิเศษ 4 หลักให้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) : กทช.สุธรรม (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าเนื่องจาก ภารกิจที่สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) จะนำไปใช้เป็นภารกิจที่สำคัญในโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น กทช. จึงมีมติอนุมัติจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ 4 หลักให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) จำนวน 1 เลขหมาย ได้แก่ เลขหมาย 1415  เป็นการชั่วคราว มีกำหนดระยะเวลา 6 เดือน เพื่อใช้ในภารกิจรับเรื่องร้องเรียนจากหมู่บ้าน/ ชุมชนทั่วประเทศ  และให้ส่งคืนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจต่อไป แต่หากการดำเนินภารกิจดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น ก็ให้ยื่นเรื่องขออนุญาตต่อ กทช.อีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอน ทั้งนี้ ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมพิจารณาคำขอและค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษราย เดือน ตามข้อ 79 และ ข้อ 82 แห่งประกาศ กทช.เรื่อง หลักเกณฑ์จัดสรรเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ.2551
ระเบียบวาระที่ 6.3  :  แนวทางการทำสัญญาการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมตามพระราชบัญญัติการประกอบ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 : รทช.พิทยาพล, กม.
หมายเหตุ  ยังไม่มีการพิจารณา
ระเบียบวาระที่  6.4  :  การปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนัก งาน กทช. : รทช.ฐากร, ภน. (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  กทช.รับเรื่อง การปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ไว้พิจารณาก่อน โดยให้สำนักงาน กทช.นำเสนอที่ประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ กทช.อยู่ครบ 6 คน อย่างไรก็ดี การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวจะครบวาระในวันที่ 14 สิงหาคม นี้ ดังนั้น เพื่อมิให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงักโดยขาดกลไกรับผิดชอบ จึงให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. คณะดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ต่อไปพลางก่อนจนกว่า กทช.จะมีมติอีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่  6.5  :  การประชุม Industry Workshop การประชุม ASTAP-16 และการประชุม SG-30  : รทช.ทศพร , กร. (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552)
มติที่ประชุม  อนุมัติให้นายเสน่ห์ สายวงศ์ ผู้บริหารระดับต้น และนายบวร มากนาคา พนักงานปฎิบัติการระดับกลาง สำนักวิศวกรรมและเทคโนโลยีโทรคมนาคม เดินทางไปเข้าร่วมประชุม Industry Workshop ในวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ต่อเนื่องกับการประชุม APT Standardization Program Forum ครั้งที่ 16 ASTAP-16 ระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคม 2552 และการประชุมกลุ่มศึกษาของ APT ครั้งที่ 30 ( APT Study Group  Meeting : SG-30) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2552  ณ เขตบริหารพิเศษมาเก๊า  ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ ทั้งนี้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้จำนวน 215,250 บาท เบิกจ่ายจากงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการและบริหารองค์กรปี 2552 ของ กร.
ระเบียบวาระที่  6.6  :  พิจารณาคัดเลือกแบบดวงตราไปรษณียากรของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่ง ชาติ(กทช.) ในวาระครบรอบ 5 ปีในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 พร้อมทั้งอนุมัติงบประมาณในการผลิต : รทช.ฐากร, กจ.  (วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2552) 
มติที่ประชุม              
1.  เห็นชอบแบบร่างตราไปรษณียากรที่ระลึกครบรอบ  5  ปี  คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ในวันที่  1 ตุลาคม 2552) แบบที่สี่ (รูปไปรษณียากรแนวตั้ง) ตามที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด เสนอ โดยมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทฯ รับไปเป็นแนวทางปรับปรุงแบบดวงตราไปรษณียากรดังกล่าว ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาทิ ควรนำตราสัญลักษณ์ครุฑแตรงอนมาใส่ให้อยู่ในตำแหน่งด้านบนและมีรัศมีครอบคลุม ประเทศไทย แทนภาพจานดาวเทียมมุมซ้ายด้านล่าง และพิจารณาขยับภาพประเทศไทยลงมา เป็นต้น ทั้งนี้  โดยมอบหมายให้ กทช.เศรษฐพร เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจในเรื่องนี้ สำหรับในรายละเอียด ขอให้ผู้เกี่ยวข้องพบหารือกับ กทช.เศรษฐพร โดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้ทันกำหนดเวลาต่อไป
2. อนุมัติให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกครบรอบ  5  ปี  คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในวันที่  1 ตุลาคม 2552  จำนวน 200,000 ดวง และ ค่าบัตรไปรษณียากร  ที่ระลึกจำนวน 6,000  ชุด ภายในวงเงินงบประมาณ 1,155,600 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ) ทั้งนี้ โดยเบิกจ่ายจากงบกลางฉุกเฉินและจำเป็นของสำนักงาน กทช.ปี 2552

สร้างโดย  -   (17/3/2559 16:23:01)