สรุปมติที่ประชุม กทช. 33/2553

มติที่ประชุม
    คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
  ครั้งที่ 33/2553
วันพฤหัสบดีที่  21  ตุลาคม  2553     เวลา  14.00 น. 
  ณ ห้องประชุมชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
 
 
ระเบียบวาระที่  1   :       เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
 
1.  ระหว่างวันพุธที่ 6 ตุลาคม ถึงวันอังคารที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ประธาน กทช. เดินทางไปประชุม ITU ที่ Guadalajara  ประเทศเม็กซิโก การประชุมครั้งนี้ได้เรียนรู้วิธีการหาเสียง Lobby ตำแหน่งสำคัญต่างๆ ของที่ ITU ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ ๔ ปี ต่อครั้ง สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือมีกลุ่มที่มีอิทธิพลหลายกลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็คือประเทศลาตินอเมริกัน สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงนี้ไม่ค่อยมีอิทธิพลมากนัก เพราะคะแนนเสียงสู้ประเทศลาตินอเมริกาไม่ได้  กลุ่มต่อไปที่มีอิทธิพลได้แก่ กลุ่มอิสลาม  กลุ่มที่ 3 กลุ่มอาหรับ กลุ่มที่ 4 กลุ่มแอฟริกา และกลุ่มที่ 5 คือกลุ่มทางเอเชียระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศจีน แต่กลุ่มประเทศจีนมีอิทธิพลสูงที่สุด เพราะมีคะแนนเสียงมาเป็นลำดับต้นๆ มากกว่าญี่ปุ่น เพราะฉะนั้น Council Member ของประเทศไทยที่อยู่ประจำ 4 ปี จากนี้ไปค่อยๆ เลื่อนจากลำดับที่ 2 ใน 13 กลุ่ม เลื่อนไปเป็นลำดับที่ 10 ถ้า 5 ปีข้างหน้า ไม่ทำอะไรเลยก็จะหลุดไป ซึ่งในเวทีระหว่างประเทศกรณี ITU นี้ ปัจจุบันกรอบการทำงานระหว่างกระทรวง ICT  กับทางสำนักงาน กทช. ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งในด้าน Telecom นั้น ควรที่จะเป็นงานของ กทช. รับผิดชอบดูแลเป็นหลัก  
2.  เรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ได้เข้าประชุม  Asia-Pacific  Broadcasting Union ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  ในฐานะเป็น Observer ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ (General Assembly) ด้วย แต่เนื่องจากไม่มีเวลา ซึ่งในการประชุมทางเทคนิคซึ่งจะมีเรื่องสำคัญคือ spectrum เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ที่จะใช้คลื่นความถี่ใหม่ๆ และเรื่อง Regulation เป็นส่วนใหญ่ ในปีต่อไปจะเชิญ กทช. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคลื่นความถี่ เพราะเวทีนี้เป็นการประชุมเวทีเล็ก ก่อนนำเสนอเข้า World Radio Conference (WRC) ที่กำหนดจะจัดขึ้นในปี ค.ศ. 2012  ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ กทช. ทุกท่านและรองเลขาธิการ รักษาการ ในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. ที่ดูแลสำนักงาน กทช. ด้วยความเรียบร้อยในระหว่างที่ประธาน กทช.ไม่อยู่
3.  ในวันนี้ (วันที่ 21 ตุลาคม 2553) ประธาน กทช. กทช. และผู้บริหารสำนักงาน กทช. รวม 4 ท่าน ได้เข้าร่วมพิธีมอบเงินสมทบ 75 ล้านบาท เข้ากองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ) เป็นประธานในพิธี ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้เรียนเชิญ กทช.เป็นเกียรติในพิธีเปิดกองทุนฯ อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553  จึงขอเชิญ กทช. ทุกท่านเข้าร่วม
 
หมายเหตุ                      ที่ประชุมได้มีการอภิปรายและแสดงความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ใน วาระนี้ สรุปได้ดังนี้
4.  กทช.พนาฯ ได้รายงานผลการศึกษาดูงานหน่วยงานกำกับดูแลด้าน Broadcast ซึ่งได้แก่ CAC ที่ประเทศสเปน ซึ่งสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้คือได้เห็นแนวทางการดำเนินงานในการจัดเก็บข้อมูล Broadcasting  ไว้ในคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ซึ่งจะได้นำแนวทางการดำเนินงานมาใช้กับงานกิจการกระจายเสียงของเราให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
5.  นอกจากนี้ กทช.สุธรรมฯ ได้นำเรียนให้ที่ประชุมทราบเพิ่มเติมในส่วนของผลการประชุมหารือกับหน่วยงาน CAC ว่า ปัจจุบันโลกของการกำกับดูแลกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยในปีใหม่นี้จะให้ความสนใจในเรื่อง NGA และ NGN มากขึ้นกว่าเดิม และประเด็นที่สนใจมากก็คือ business model สำหรับธุรกิจบริการ Internet และที่สำคัญมากคือขณะนี้การลงทุนในด้าน world infrastructure ที่เป็น พวก Broadband ต่างประเทศไปถึงจุดที่มีการกระจายมากแล้วแต่ยังไม่มี business model ที่แท้จริง ซึ่งในโลกของ Regulator ได้กล่าวถึงเรื่อง Business Model มีหลาย Model ให้ศึกษา บางประเทศใช้ model ที่เป็น LLU และเรื่อง Software side ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ People-ware มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราได้รับเชิญจาก  ผู้จัดให้เข้าร่วมในช่วง Core Group เกี่ยวกับ Telecommunication และในปีนี้มี Regulator หลายประเทศได้รับเชิญไปบรรยาย ซึ่งได้รับการตอบรับจาก regulator หลายประเทศ ซึ่งมี Regulator ที่มีปัญหาทำนองเดียวกับของเรา กล่าวคือรัฐบาลฟ้องหน่วยงานกำกับดูแลเอง เช่น รัฐบาลประเทศสเปน ฟ้อง regulator ของตนเอง ซึ่งประธาน กทช. ก็ได้กล่าวเสริมว่าในกรณีของ FCC ก็ถูก injunction เรื่องประมูลคลื่นความถี่หลายครั้ง ซึ่ง FCC มีประสบการณ์ว่าหลังจากเกิด Injunction จะทำอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ กทช.สุธรรมฯ ได้เรียนเชิญ กทช. ทุกท่านเพื่อเข้าพบ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์  ประธานองคมนตรี  ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 เวลา 09.00 น.  ณ ทำเนียบองคมนตรี เพื่อมอบเงินสมทบมูลนิธิอานันทมหิดล เพื่อตั้งกองทุนสำหรับกิจกรรมชมรมนักเรียนทุนอานันทมหิดล เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2553
6.  รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. ได้นำเรียนรายละเอียดกำหนดการพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2553  ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ด้านหน้าอาคารอำนวยการ สำนักงาน กทช.  และกำหนดการเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น.  ณ วังสวนจิตรลดา ตามที่ได้ทูลเกล้าถวายเงินตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
 
มติที่ประชุม                  
1.  รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.  รับทราบรายงานการศึกษาดูงานที่ประเทศสเปน หน่วยงาน CAC ซึ่งกำกับดูแลด้าน Broadcast  ตามที่ กทช.พนาฯ และ กทช.สุธรรมฯ รายงานให้ที่ประชุมทราบ
3.  รับทราบ การเรียนเชิญ กทช. ทุกท่านเพื่อเข้าพบ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์  ประธานองคมนตรี  ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 เวลา 09.00 น. ณ ทำเนียบองคมนตรี เพื่อมอบเงินสมทบมูลนิธิ อานันทมหิดล เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตามที่ กทช.สุธรรมฯ แจ้งให้ที่ประชุมทราบ
4.  รับทราบ กำหนดการพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2553  ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ด้านหน้าอาคารอำนวยการ สำนักงาน กทช.  และกำหนดการเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น. ณ วังสวนจิตรลดา ตามที่รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. รายงานให้ที่ประชุมทราบ
 
 
ระเบียบวาระที่   2 :       รับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 32/2553 วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2553
 
มติที่ประชุม                รับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 32/2553 วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2553 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ โดยมีข้อแก้ไขดังนี้
1.  เอกสารหน้า 26 วาระที่ 6.1 ให้แก้ไขข้อความในมติจากเดิม   “Re-structure”  แก้ไขใหม่เป็น “Restructure“
2.  เอกสารหน้า 27 วาระที่ 6.3  ให้เพิ่มเติมข้อความในมติข้อ 1 บรรทัดที่ 13 ข้อความ “ซึ่งมีผลใช้บังคับอยู่และไม่ได้ถูก   ยกเลิก” ต่อท้ายข้อความ “วิทยุเดิม” 
 
หมายเหตุ                  ในระหว่างการพิจารณารับรองรายงานการประชุมวาระที่ 4.2 กทช.สุธรรมฯขอให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือตักเตือนไปยังผู้บริหารให้ระมัดระวังการ    ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการกำหนดค่าปรับจากการเปิดบริการ  คงสิทธิเลขหมายฯ เพื่อมิให้เกิดความสับสนและเป็นไปตามมติที่ประชุม กทช.
 
ระเบียบวาระที่   3      :   รายงานผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุม
 
ระเบียบวาระที่   3.1   :   รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553 วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2553 และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553    
 
มติที่ประชุม            
1.  รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553    วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2553 และวันพุธที่ 29 กันยายน 2553
2.  ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการดังนี้
2.1  ให้สำนักปฏิบัติการและติดตามประเมินผลติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเรื่อง In-band Migration ของ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม และรายงานให้ที่ประชุมทราบด้วย
2.2  ในการจัดประชุม Focus Group  เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้เสียและการกำหนดแนวทางการดำเนินการตามความตกลง MRA-SE และความตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในวาระที่ 6.5 ให้สำนักงาน กทช. ไปหารือ กทช. สุธรรมฯ ก่อนดำเนินการด้วย
3.  ในระหว่างการพิจารณารับทราบผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 31/2553 ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการจัดจ้างบริษัทเมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการคัดเลือกเลขาธิการ กทช. เนื่องจากขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฉบับใหม่ อยู่ในระหว่าง  การพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมสองสภา ซึ่งเมื่อกฎหมาย ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้อาจจะเกิดความเสียหายแก่ทางราชการหากยังดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนที่กำหนดไว้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สำนักงาน กทช. ประสานบริษัทเมเซอร์  (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอแก้ไขปรับปรุง TOR โดยให้จัดทำเฉพาะข้อเสนอเชิงวิชาการของวิธีการและกระบวนการคัดเลือกในลักษณะ Recommendation ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์และเพื่อไม่ให้ภาครัฐเกิดความเสียหาย  
                        
ระเบียบวาระที่    3.2    :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 32/2553 วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2553
 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 32/2553  วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2553
                                   
 
ระเบียบวาระที่   4      :  เรื่องเพื่อพิจารณา   
ระเบียบวาระที่   4.1   :  แนวทางการดำเนินการตามมติที่ประชุม กทช. เกี่ยวกับการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 : รทช.ประเสริฐฯ, ฉก.

 
มติที่ประชุม                
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า โดยที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz โดยให้ระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz และการดำเนินการตามประกาศดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น  ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานของ กทช.เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ขัดคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด จึงเห็นควรกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานของ กทช. ในระหว่างที่รอคำวินิจฉัยของศาลปกครอง  ตามที่ กทช.พันเอก นทีฯ เสนอ ดังนี้
1.1  ชะลอการดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นความถี่ย่าน  2.1 GHz  ซึ่งจะอนุญาตใหม่ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดโดยเคร่งครัด
1.2  การจัดสรรคลื่นความถี่เป็นเรื่องที่ได้รับอนุญาตมาแล้วก่อนวันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง (วันที่ 23 กันยายน 2553) และเป็นไปตามแผนคลื่นความถี่เดิม และยังไม่ถูกยกเลิกก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในการต่อใบอนุญาตจะต้องดำเนินการในลักษณะชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองในทันที เมื่อมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งใดๆ ก็ตาม
1.3  ไม่มีการพิจารณาอนุญาตการจัดสรรคลื่นความถี่เพิ่มเติม ยกเว้นกรณีที่กระทบต่อประโยชน์สาธารณะโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ให้นำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม กทช. เป็นกรณีไป
 
หมายเหตุ           กทช.พันเอก นทีฯ ได้เสนอเรื่องกรอบอำนาจหน้าที่ของ กทช. เข้าสู่ที่ประชุม กทช. กทช. เพื่อพิจารณา ในการนี้เพื่อความเหมาะสม ที่ประชุมจึงหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นพิจารณาก่อนดังปรากฎเป็นมติตามข้อ 1
 
2.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า โดยที่ปรากฎว่าขณะนี้มีคำขอรับใบอนุญาตและเรื่องที่จะต้องดำเนินการตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 จำนวนมากที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ กทช.  ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ กทช. ในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นไปด้วยความถูกต้องและรอบคอบ ที่ประชุมมีมติ ดังนี้
2.1  มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ  กทช.พันเอก นทีฯ และ กทช.พนาฯ พิจารณากลั่นกรองคำขอรับใบอนุญาตและเรื่องที่จะต้องดำเนินการตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณา โดยในห้วงระยะแรกให้ดำเนินการเป็นเวลา 30 วันก่อนนับแต่วันที่ กทช. มีมติ
2.2  อย่างไรก็ดี เนื่องจากภารกิจในการอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2598 มีเรื่องเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ในระหว่างการดำเนินงานตามข้อ 2.1 ให้ กทช.สุธรรมฯ  กทช.พันเอก นทีฯ และ กทช.พนาฯ พิจารณากำหนดแนวทางหรือหลักปฏิบัติที่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามมติที่ประชุม กทช. เกี่ยวกับการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง
 
ระเบียบวาระที่    4.2     :   การจัดทำคำให้การคดีปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 1411, 1436 /2553  : กทช.พันเอก นทีฯ
 
มติที่ประชุม                  
1.  โดยที่ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่า การจัดทำรายละเอียดคำให้การคดีปกครองคดีหมายเลขดำที่ 1411 ,1436/2553 จำเป็นต้องพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบ และรัดกุม เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และครบถ้วนมากที่สุดทั้งในประเด็นข้อกฎหมาย อาทิ ควรเพิ่มเติมการชี้แจงในประเด็นการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม นั้น เป็นการใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณะ โดยคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และพุทธศักราช 2550 ฉบับปัจจุบัน มิใช่เพื่อกิจการของรัฐอีกต่อไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 เป็นต้น รวมถึงในประเด็นสำคัญอื่นๆ ทั้งในเชิงนโยบาย และการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติดังนี้
1.1   รับทราบหลักการข้อกฎหมายแนวการจัดทำคำให้การคดีปกครอง คดีหมายเลขดำที่ ๑๔๑๑ ,๑๔๓๖/๒๕๕๓ ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอในชั้นต้นนี้ไว้ก่อน
1.2  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของที่ประชุมข้างต้น เพื่อใช้ในการพิจารณาจัดทำรายละเอียดให้การคดีปกครองคดีหมายเลขดำที่ 1411 ,1436/2553 ทั้งนี้ โดย กทช. จะร่วมหารือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายผู้รับผิดชอบ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบด้านคลื่นความถี่ เพื่อจัดทำรายละเอียดคำให้การดังกล่าว (Closed Session) ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553 ต่อไป
2.  รับทราบคำสั่งศาลปกครองให้รวมคดีหมายเลขดำที่ 1436/2553  เข้ากับคดีหมายเลขดำที่ 1411/2553 โดยให้สำนวนคดีหมายเลขดำที่ 1411/2553 เป็นสำนวนคดีหลัก ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
3.  มอบอำนาจให้ กทช.สุธรรมฯ และ กทช.พันเอก นทีฯ เป็นผู้รับผิดชอบคดี แทน กทช. และให้เจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายเป็นผู้ประสานงานและจัดทำรายละเอียดคำให้การตามแนวทางดังกล่าวต่อไป
 

ระเบียบวาระที่   5      :   เรื่องเพื่อทราบ  
ระเบียบวาระที่   5.1   :   รายงานข้อมูลของสถานีวิทยุชุมชนประจำเดือนสิงหาคม 2553 : รทช.ประเสริฐฯ, กท.

 
มติที่ประชุม              รับทราบรายงานสรุปข้อมูลสถานะความเคลื่อนไหวของวิทยุชุมชนและข้อมูลสถิติระดับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากวิทยุชุมชนโดยเฉพาะในกรณีมีผลกระทบร้ายแรงต่อการรบกวนวิทยุการบินประจำเดือนสิงหาคม 2553   ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ    
 
ระเบียบวาระที่   5.2    :   โครงการจัดหาและพัฒนาระบบบริหารการเงินการบัญชี ระบบจัดการรายได้และระบบบริหารสินทรัพย์และการพัสดุ : รทช.ประเสริฐ, คง.
 
มติที่ประชุม              รับทราบรายละเอียด TOR โครงการจัดหาและพัฒนาระบบบริหารการเงินการบัญชี ระบบการจัดการรายได้และระบบบริหารสินทรัพย์และการพัสดุ ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ    

ระเบียบวาระที่   5.3   :  สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) : สชท.

มติที่ประชุม              รับทราบสัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ฉบับ ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ตามมติ กทช. ครั้งที่     41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้ และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.4   :  สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น จำกัด : สชท.
 
มติที่ประชุม              รับทราบสัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น จำกัด ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ตามมติ กทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.5     :   สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) : สชท.
 

มติที่ประชุม                รับทราบสัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ตามมติ กทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551  ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.6     :   การระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz : รทช.ประเสริฐฯ ,ปก.
 
มติที่ประชุม                รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของสำนักงาน กทช. ตามที่ศาลปกครองสูงสุดที่ให้ระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz และการดำเนินการต่อไปตามประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz ไว้เป็นการชั่วคราวและมติ กทช. ที่มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 

ระเบียบวาระที่     6     :  เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่     6.1  :  การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : รทช.ฐากรฯ ,กจ.

 
มติที่ประชุม              โดยที่ปัจจุบันได้เกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ขึ้นในพื้นที่หลายแห่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดจนสื่อมวลชนแขนงต่างๆได้ร่วมมือกันในการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว ที่ประชุม กทช. ได้ตระหนักในความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติการให้ความเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว วงเงินจำนวน 1,000,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณคงเหลือจากการปรับปรุงแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่ กทช. ได้มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณฯ เสนอแล้วในการประชุมครั้งที่ 33/2553 วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2553 และเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นไปอย่างมีระบบ จึงมอบหมายให้สำนักงาน กทช. มอบเงินจำนวนดังกล่าวไปยังรัฐบาลเพื่อร่วม  สมทบในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้โดยด่วนต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   6.2     :  ขอรับการสนับสนุนเข้าร่วมบริจาคโครงการ “หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” : ประธาน กทช.
 
มติที่ประชุม                อนุมัติงบประมาณเพื่อร่วมบริจาคสมทบมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในปัจจุบัน โดยอยู่ภายในกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2553 จำนวน 10 ล้านบาท ตามที่ กทช. ได้เคยมีมติเห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณให้แก่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี แล้วในการประชุมครั้งที่ 18/2553 วันที่ 6 กันยายน 2553
 
ระเบียบวาระที่     6.3     :   การพิจารณาสนับสนุนการจัดแข่งกีฬามหาวิทยาลัยฯ การจัดทำหนังสือภาพจดหมายเหตุโทรคมนาคมโลกและประเทศไทย และการปรับปรุงแผนงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2553 : คณะกรรมการพิจารณางบประมาณและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553
 
มติที่ประชุม                ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยงานภายนอกและการปรับปรุงแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณางบประมาณและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ดังนี้
1.  กรณีการขอรับการสนับสนุนการจัดแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย จำนวน 1 – 5 ล้านบาท เนื่องจากกิจการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบว่าด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการของ กทช. และสำนักงาน กทช. พ.ศ. 2551 จึงไม่อนุมัติให้การสนับสนุน
2.  กรณีการขอรับการสนับสนุนการจัดทำหนังสือภาพจดหมายเหตุ โทรคมนาคมโลกและประเทศไทย จำนวนเงิน 0.15 ล้านบาท เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานที่สอดคล้องกับระเบียบว่าด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการของ กทช. และสำนักงาน กทช. พ.ศ. 2551 ข้อ 5 (2) จึงมีมติอนุมัติให้การสนับสนุนงบประมาณรายการดังกล่าว โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณแหล่งอื่นที่ได้จัดสรรไปแล้ว เนื่องจากงบประมาณรายการค่าใช้จ่ายสนับสนุนการจัดกิจกรรมของ กทช. และสำนักงาน กทช. มีงบประมาณคงเหลือไม่เพียงพอ 
3.  อนุมัติการปรับปรุงแผนงบประมาณรายจ่ายของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ดังนี้
3.1  รายการที่ขอปรับลดงบประมาณรายจ่าย จำนวน 62,660,240 บาท แยกออกเป็น ดังนี้
1)   รายจ่ายสำหรับการดำเนินงานค่าปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง จำนวน 1,000,000 บาท
2) ค่าภาระที่เหมาะสม ปรับลดงบประมาณ จำนวน   61,660,240 บาท ดังนี้
2.1) โครงการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบการออกประกาศ กทช.ว่าด้วยการส่งเสริมการแข่งขันโดยเสรี อย่างเป็นธรรม ปรับลด 7,000,000 บาท โดยจะผูกพันงบประมาณปี 2554
2.2)   โครงการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการที่ใช้เทคโนโลยีใหม่(BWA) ระยะที่ 2 ปรับลด 15,000,000 บาท
2.3)   โครงการศึกษาและอบรมเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปิดเสรีโทรคมนาคม ปรับลด 2,500,000 บาท เนื่องจากดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
2.4)   โครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ปรับลด 3,500 บาท โดยจะผูกพันงบประมาณปี 2554 และปี 2555 ต่อไป
2.5)   โครงการปรับปรุงกิจการตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุ ปรับลด 24,000,000 บาท
2.6)   โครงการปฏิบัติการด้านโทรคมนาคมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติ ปรับลด 9,732,700 บาท
2.7)   โครงการเช่าเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์แบบพกพา สำหรับสำนักงาน กทช. จำนวน 500 เครื่อง ปรับลด 3,040,000 บาท
2.8)   โครงการเช่าเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์แบบพกพา สำหรับสำนักงาน กทช. ระยะที่ 2 จำนวน 102 เครื่อง ปรับลด 384,040 บาท
3.2  รายการปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายจำนวน 5 รายการ จำนวนเงิน 40,526,852 ล้านบาท ได้แก่
1)   รายจ่ายสำหรับการดำเนินงาน ค่าเช่าทรัพย์สิน จำนวน 7,552,000 บาท
2)   ค่าภาระต่างๆ ที่เหมาะสม ได้แก่
2.1)  โครงการการดำเนินคดีพิพาทเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3G จำนวนเงิน 10,000,000 บาท
3)    รายการเงินงบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็น จำนวน 22,974,852 บาท
3.1)  สนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแกะแดะ จำนวน 9,361,500 บาท
3.2)   สนันสนุนงบประมาณให้แก่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์   ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี จำนวน 10,000,000 บาท
3.3)   การสนับสนุนการบูรณะปรับปรุงพระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถานและสนับสนุนการทำแบบก่อสร้างซ่อมแซมห้องต่างๆ ในพระราชวังพญาไท จำนวน 3,613,352 บาท
4.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ถือเป็นแนวปฏิบัติในการนำเสนอเรื่องเพื่อขอให้ที่ประชุม กทช. พิจารณาอนุมัติงบประมาณ โดยให้สำนักงาน กทช. (กลุ่มภารกิจด้านงบประมาณ) พิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของแหล่งงบประมาณที่ใช้ก่อนนำเสนอที่ประชุม กทช. เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจไปในคราวเดียวกัน
5.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ตรวจสอบ และเร่งรัดงบประมาณที่ยังค้างจ่ายสำหรับโครงการต่างๆที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ตามที่ กทช.สุรนันท์ฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   6.4     :   คำสั่งเรียกให้ทำคำให้การในคดีฟ้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดข้อพิพาทการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมที่ 1/2553 : รทช.ฐากรฯ ,กม.
 

มติที่ประชุม                  
1.  เห็นชอบแนวทางการจัดทำคำให้การในคดีฟ้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดข้อพิพาทการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมที่ 1/2553 ตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ
2.  มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ เป็นผู้รับผิดชอบคดี และให้เจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายเป็นผู้ประสานงานและจัดทำรายละเอียดคำให้การตามแนวทางดังกล่าวต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    6.5     :   การเข้าร่วมการประชุม CASBAA Convention and Regulator’s Roundtable 2010 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 25- 27 ตุลาคม 2553 : กทช.พนาฯ
 
มติที่ประชุม                   อนุมัติให้ประธานคณะทำงานด้านกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ในคณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (นายต่อพงศ์   เสลานนท์) และพนักงานสำนักงาน กทช. จำนวน 3 ราย เข้าร่วมการประชุม CASBAA Convention and Regulator’s Roundtable 2010 ระหว่างวันที่ 25- 27 ตุลาคม 2553 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในครั้งนี้ อนึ่ง หากมีเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติในห้วงระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมได้ อนุมัติให้ยกเลิกการเดินทางในครั้งนี้
 
ระเบียบวาระที่   6.6      :  การเดินทางเข้าร่วมประชุม AMARC 10 the Tenth World Conference of Community Radio Broadcasters ระหวางวันที่ 8 – 13 พฤศจิกายน 2553 ณ เมือง La Plata ประเทศอาร์เจนตินา : กส.
 
มติที่ประชุม                  
1.  อนุมัติให้บุคคลภายนอก (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต)  อนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เข้า
ร่วมการประชุม AMARC 10 the Tenth World Conference of Community Radio Broadcasters  ระหว่างวันที่ 8 – 13 
พฤศจิกายน 2553  ณ เมือง   La Plata ประเทศอาร์เจนตินา ทั้งนี้ โดยเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าร่วมประชุมจาก
งบโครงการศึกษาดูงานองค์กรหรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่มีมาตรฐานใน
ระดับสากล ประจำปี 2553
2.  อนุมัติการเทียบสิทธิของบุคคลตามข้อ 1 เพื่อเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงาน กทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม  ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการเดินทางต่อไป
                            
ระเบียบวาระที่   6.7      :  การศึกษาดูงาน โครงการพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Universal Service Obligation - USO) ณ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ : สำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
 
มติที่ประชุม                 อนุมัติการศึกษาดูงานตามโครงการพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (Universal Service Obligation - USO) ระหว่างวันที่ 6-14 พฤศจิกายน 2553  ณ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ของคณะกรรมการกำกับการบริหารกองทุนฯ และพนักงานสำนักงานกองทุนฯ รวม 7 ราย ภายในกรอบวงเงิน 1,750,000 บาท ทั้งนี้ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2553 ของสำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
 
ระเบียบวาระที่    6.8      :  การสาธิตและแสดงเทคโนโลยี TD – LTE ในย่านความถี่ 2.3 GHz : คณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย (Broadband Wireless Access : BWA)
 
มติที่ประชุม                  
1.  อนุมัติให้มีการสาธิตและแสดงเทคโนโลยี TD – LTE ในย่านความถี่ 2.3 GHz ระหว่างวันที่ 4 -5 พฤศจิกายน 2553 ณ สำนักงาน กทช. ตามที่ คณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย เสนอ
2.  อนุมัติให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการด้านใบอนุญาตนำเข้าและใบอนุญาตนำออก ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ของเครื่องวิทยุคมนาคมในย่านความถี่ 2.3 GHz ให้แก่บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อการสาธิตและแสดงเทคโนโลยี TD-LTE  ในห้วงระยะเวลาตามข้อ 1
3.  อนุมัติให้สำนักงาน กทช. จัดหาวงจร VPN จำนวน 20 Mbps เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อระหว่าง eNodeB กับเซิร์ฟเวอร์ที่ประเทศสวีเดน โดยใช้งบประมาณที่จัดสรรสำหรับค่าใช้จ่ายการดำเนินการอนุญาตบริการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย (BWA) ตามที่คณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย เสนอ
                      ทั้งนี้ โดยให้กำหนดเงื่อนไขการดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องวิทยุคมนาคม ดังนี้
1)    ให้ดำเนินการสาธิตและแสดงเทคโลยีได้ ระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2553 ในบริเวณสำนักงาน กทช. เท่านั้น
๒)   หากการใช้ความถี่วิทยุก่อให้เกิดการรบกวนต่อข่ายสื่อสารอื่นที่ได้รับอนุญาตอยู่ก่อนแล้ว บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด จะต้องเป็นผู้แก้ไขการรบกวน หรือระงับการใช้งานทันที
3)   ให้ดำเนินการส่งเครื่องวิทยุคมนาคมที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าทั้งหมดออกนอกราชอาณาจักรภายใน 15 วัน ภายหลังจากระยะเวลาการสาธิตและแสดงสิ้นสุดลง

สร้างโดย  -   (8/3/2559 17:22:15)

Download

Page views: 87