สรุปมติที่ประชุม กทช. 36/2553

 
ระเบียบวาระการประชุม
    คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
  ครั้งที่ 36/2553
วันพุธที่  10  พฤศจิกายน  2553
     เวลา  09.30 น. 
  ณ ห้องประชุมชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
 


ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

 
1.  ศาสตราจารย์ประสิทธิ์           ประพิณมงคลการ              ประธานกรรมการ
2.  นายสุชาติ                          สุชาติเวชภูมิ                     กรรมการ 
3.  รองศาสตราจารย์สุธรรม        อยู่ในธรรม                       กรรมการ
4.  รองศาสตราจารย์พนา           ทองมีอาคม                      กรรมการ
5.  นายฐากร                           ตัณฑสิทธิ์                       รองเลขาธิการ กทช. รักษาการในตำแหน่ง เลขาธิการ กทช.
 
ระเบียบวาระที่  1   :       เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
 
1.  ในวันนี้ประธาน กทช. มีภารกิจจะต้องไปรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในช่วงบ่าย และเนื่องจากที่ประชุมมี 4 ท่าน ถ้าหากประธาน  ไม่อยู่ก็คงจะประชุมต่อไปไม่ได้ จึงขอเลิกประชุมในเวลา 12.00 น.
 
หมายเหตุ                      ประธาน กทช. ขอให้ รทช.ฐากรฯ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. รายงานความคืบหน้าเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ และรายชื่อผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกเป็น กทช. แทน กทช. 3 ท่าน ที่พ้นตำแหน่งตามวาระ
2.  รทช.ฐากรฯ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช.ได้รายงานให้ที่ประชุม ทราบ รวม 2 เรื่อง ได้แก่  
1) เรื่องร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ และอยู่ในวาระการพิจารณาของวุฒิสภาวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2553  
2) รายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาที่สมควรได้รับการเสนอชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกเป็น กทช. จำนวน 6 คน  ได้แก่  นายฐากร ตัณฑสิทธิ์  นายประเสริฐ อภิปุญญา นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร   นายชัชวลิต สรวารี  พลเอกชิตศักดิ์ ประเสริฐ  และ  รองศาสตราจารย์นรีวรรณ จินตกานนท์ เก่งเรียน  ซึ่งประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จะได้นำรายชื่อส่งไปที่ประธานวุฒิสภาภายในสัปดาห์นี้ ขณะนี้ทุกคนได้มาลงชื่อยินยอมให้ส่งรายชื่อไปที่วุฒิสภาซึ่งจะเข้าไปสู่กระบวนการของวุฒิสภาในการตรวจสอบประวัติต่อไป
 
มติที่ประชุม                  
1.  รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ต่อไป
2.  รับทราบรายงานความคืบหน้าเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ และรายชื่อผู้ที่สมควรได้รับ
การเสนอชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกเป็น กทช. แทน กทช. 3 ท่าน ที่พ้นตำแหน่งตามวาระ  ตามที่ รทช.ฐากรฯ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กทช. นำเรียนให้ที่ประชุมทราบ 
 
ระเบียบวาระที่   2   :        รับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 35/2553 วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2553
 
มติที่ประชุม                   ให้เลื่อนการพิจารณารับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 35/2553   วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2553  ออกไป โดยให้สำนักงาน กทช. นำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   3   :        รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 35/2553 วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2553
 
มติที่ประชุม                   รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 35/2553   วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ        
 
หมายเหตุ                      ในระหว่างการรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 35/2553  เรื่องที่ 10 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ขอใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ นั้น กทช.สุธรรมฯ ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือในที่ประชุม พร้อมทั้งได้ชี้แจงรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ที่ประชุมได้เข้าใจ และพิจารณามีมติให้เหมาะสมและถูกต้องยิ่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้วจึงมีมติดังนี้
 
 
เรื่อง                :         สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)  ขอใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่  :  ฉก.
 
มติที่ประชุม                 เนื่องจากเห็นว่ากรณีที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ยื่นขอใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น เป็นไปเพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมาย (Law Enforcement)  ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไปใช้ในเรือนจำ และทัณฑสถาน  ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้สำนักงาน ป.ป.ส. ติดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมและใช้เครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ เคลื่อนที่ ณ เรือนจำกลางเขาบิน ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โดยมีเงื่อนไขตามที่สำนักงาน กทช.เสนอ ดังนี้
1.  ให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ เพื่อให้การแพร่กระจายคลื่นวิทยุครอบคลุมพื้นที่ภายในบริเวณเรือนจำกลางเขาบิน หากการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวเกิดผลกระทบกับสิทธิเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่นอกบริเวณเรือนจำกลางเขาบิน สำนักงาน ป.ป.ส. จะต้องแก้ไขการรบกวนที่เกิดขึ้น หากแก้ไขไม่ได้ให้ระงับการใช้งานทันที
2.  เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าว จะต้องเป็นเครื่องที่ผ่านการตรวจยืนยันคุณสมบัติหรือลักษณะทางเทคนิคจากสำนักงาน กทช.
3.  ขอความร่วมมือ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้โปรดกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ระมัดระวังในการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวให้อยู่ภายในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ระเบียบ ข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4.  จะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ กทช. กำหนด และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
5.  อนุญาตให้ บริษัท แฟมิลี่ จำกัด นำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ เพื่อส่งมอบให้ บริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ใช้ในการติดตั้งที่เรือนจำกลางเขาบิน ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เพื่อส่งมอบให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ใช้งานตามที่ได้รับอนุญาต โดยให้ติดต่อสำนักงาน กทช. เพื่อดำเนินการยื่นคำขอรับใบอนุญาตนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคม ดังกล่าว
                           ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบในภายหลังว่ามีการใช้งานเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข จะไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทเครื่องตัดสัญญาณคลื่นโทรศัพท์ ดังกล่าวอีกต่อไป   
 
หมายเหตุ               กทช.สุรนันท์ฯ ขอให้บันทึกความเห็นเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ไม่สอดคล้องกับมติ กทช. เดิม ถ้าจะอนุมัติก็ควรมีเหตุผลที่เพียงพอและแตกต่างมาสนับสนุน
 
 
ระเบียบวาระที่   4      :   เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่   4.1   :   หลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) และหลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน)  :  กทช.พนาฯ, กส.

 
มติที่ประชุม             เห็นชอบให้นำร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) และร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ซึ่งได้แก้ไขปรับปรุงตามมติ กทช.ครั้งที่ 24/2553 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 ไปจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอีกครั้งหนึ่งก่อนประมวลสรุปนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาต่อไป ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ  ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว ให้นำกฎหมายดังกล่าวเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาร่างประกาศข้างต้นด้วย     
 
หมายเหตุ                   ในการประชุม กทช. ครั้งที่ 37/2553 ในระหว่างการพิจารณาวาระรับรองรายงานการประชุม กทช. ครั้งที่ 36/2553 ที่ประชุม กทช. ได้พิจารณามีมติในเรื่องนี้ใหม่เป็นวาระที่ 6.1 ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   4.2     :   ข้อเสนอเข้าเป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท Linklaters : กทช.สุธรรมฯ
 

มติที่ประชุม               ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า เนื่องจากปัจจุบันปริมาณงานด้านคดีความที่เพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติมีความจำเป็นเร่งดำเนินงานในส่วนของกฎหมาย และการดำเนินคดีทางศาลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนคดีทางปกครอง ประกอบกับทาง กทช. และสำนักงาน กทช. มีภาระหน้าที่ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเป็นจำนวนมาก ซึ่งบ่อยครั้งมีความจำเป็นในการขอขยายระยะเวลาต่อศาล เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้สำนักงาน กทช. ว่าจ้างบริษัท Linklaters ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการให้ข้อมูลกฎหมายภายในและประสบการณ์ของคดีความที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ รวมทั้งการทำวิจัยเพื่อสนับสนุนงานทางคดีประกอบการเขียนคำให้การ/คำแก้คำฟ้อง และเสนอความเห็นทางกฎหมายเพื่อประกอบการพิจารณาของ กทช. เนื่องจากสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศส่วนใหญ่ติดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนจากการที่มีลูกความเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ จึงมีเพียงบริษัท Linklaters เพียงบริษัทเดียวที่ยื่นข้อเสนอเป็นที่ปรึกษา โดยจะเป็นระบบแบบ Listing  และไม่มี  Conflict of Interest โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช. ไปดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ต่อไป และพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับรูปแบบ และวิธีการจ่ายอัตราค่าจ้างซึ่งเป็นระบบ Time Charge Basis ซึ่งหากมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงระเบียบใด ก็ให้รีบพิจารณาและนำเสนอ กทช. เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ติดขัด
 
ระเบียบวาระที่    4.3    :   แผนการดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. : กทช.สุธรรมฯ, รทช.ฐากรฯ, กม.
 
มติที่ประชุม                ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการตามแผนการดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ระยะสั้น (Interim Plan) ตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 26/2553 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 เป็นการดำเนินการเพื่อจัดหาผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดรายการทางสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. เป็นการชั่วคราวไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2553  แต่โดยที่การดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. เป็นการจัดทำบริการสาธารณะที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ภายหลังสัญญาอนุญาตให้ร่วมจัดรายการตามแผนการดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ระยะสั้นสิ้นสุดลง  ที่ประชุมจึงมีมติ เห็นชอบแผนการดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง  1 ปณ. และแนวทางการดำเนินการตามแผนฯ ดังมีรายละเอียด ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลผู้เข้าร่วมจัดรายการหรือผู้ผลิตรายการเพื่อออกอากาศให้กับสำนักงาน กทช.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. รวมถึงการดำเนินการจัดการประมูลด้วย นั้น เห็นควรให้คณะกรรมการพิจารณาประเมินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ของสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการต่อไป เนื่องจากมีผู้แทนจากหน่วยงานภายนอกของรัฐที่มีความรู้ความสามารถในงานด้านนี้เป็นอย่างดีเข้าร่วมเป็นกรรมการอยู่แล้ว อาทิ ผู้แทนจากกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมประชาสัมพันธ์  เป็นต้น                        
 
ระเบียบวาระที่    4.6     :  การพิจารณาข้อร้องเรียนของสถานีวิทยุชุมชนสื่อภาคประชาชน ส.ภ.ช. 1  กับสถานีวิทยุชุมชนพระพุทธศาสนามหายานและประชาชน วัดธรรมปัญญาราม (บางม่วง) : กทช.พนาฯ, กส.     
 
มติที่ประชุม                  
1.  อนุมัติแนวทางการพิจารณาข้อร้องเรียนของสถานีวิทยุชุมชนสื่อภาคประชาชน ส.ภ.ช.1 กับสถานีวิทยุชุมชนพระพุทธศาสนามหายานและประชาชน วัดธรรมปัญญาราม (บางม่วง) ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ดังนี้ 
1.1  ให้มีหนังสือแจ้งสถานีวิทยุชุมชนทั้ง 2 แห่ง เพื่อดำเนินการปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ให้ตรงกับที่แจ้งข้อเท็จจริงไว้เพื่อมิให้เกิดการรบกวนคลื่นความถี่
1.2  หากยังเกิดการรบกวนคลื่นความถี่ ให้ดำเนินการเจรจาตกลงกันเพื่อหาข้อยุติมิให้เกิดการรบกวนคลื่นความถี่ต่อไป พร้อมทั้งรายงานผลการปรับปรุงแก้ไขและการเจรจาต่อคณะกรรมการ ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว
1.3  เมื่อครบกำหนด 15 วัน ตามข้อ 1.2 ให้แจ้งสำนักงาน กทช.  เขต 1 (นนทบุรี) เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการออกอากาศอีกครั้ง ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งการปรับปรุงการออกอากาศเรียบร้อยแล้ว หากยังพบการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับแจ้งความประสงค์ไว้ ให้รวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐาน เพื่อนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาเพิกถอนการแจ้งความประสงค์ต่อไป
2.  มอบหมายให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำหลักการตามข้อ 1 เพื่อประกอบการพิจารณาและรายงานผลการดำเนินงานให้ กทช. ทราบต่อไป  ทั้งนี้ หากมีกรณีอื่นนอกเหนือจากหลักการดังกล่าวข้างต้น ให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำเสนอแนวทางต่อ กทช. พิจารณาเป็นรายกรณีไป
 
ระเบียบวาระที่   4.7   :   การพิจารณาการขอยกเลิกเอกสารการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงนาโส่ คลื่นความถี่ 107.50 MHz  : กทช.พนาฯ, กส.     
 
มติที่ประชุม                  
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า การขอยกเลิกเอกสารการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงนาโส่ เป็นการขอยกเลิกเอกสารที่มีความซ้ำซ้อนที่สถานีวิทยุกระจายเสียงนาโส่ได้ยื่นไว้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องในระบบฐานข้อมูลและแก้ไขการซ้ำซ้อนของข้อมูล จึงมีมติอนุมัติให้ยกเลิกเอกสารการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงนาโส่ ได้ยื่นไว้ในเอกสารเลขทะเบียน E0100450005  ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์  ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ
2.  มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณายกเลิกเอกสารการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงนาโส่ พร้อมทั้งประกาศการพิจารณาบน Website สำนักงาน กทช. เพื่อให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบและสามารถทักท้วงผลการพิจารณาได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณา และภายหลังจากระยะเวลาดังกล่าวสิ้นสุดลง หากไม่มีผู้ใดทักท้วงให้ดำเนินการแจ้งผลการยกเลิกดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
3.  มอบหมายให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลตามแนวทางที่ กทช. ได้มีมติในการประชุม กทช. ครั้งที่ 19/2553 เรื่อง การขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงชุมชน และรายงานให้ กทช. ทราบทุกระยะ  ทั้งนี้ หากมีกรณีอื่นนอกเหนือจากหลักการดังกล่าวข้างต้น ให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำเสนอแนวทางต่อ กทช. พิจารณาเป็นรายกรณีไป
  
 
ระเบียบวาระที่    4.8   :  การพิจารณาระงับสิทธิการทดลองออกอากาศ 30 วัน ของสถานีวิทยุชุมชนดอกคูณเรดิโอ  คลื่นความถี่ 91.80 MHz  จังหวัดขอนแก่น : กทช.พนาฯ, กส.
 
มติที่ประชุม                เห็นชอบแนวทางการพิจารณาระงับสิทธิการทดลองออกอากาศ 30 วัน ของสถานีวิทยุชุมชนดอกคูณเรดิโอ คลื่นความถี่ 91.80MHz  จังหวัดขอนแก่น ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ ดังนี้
1.  ให้ระงับสิทธิการทดลองออกอากาศชั่วคราว 30 วัน ของสถานีวิทยุชุมชนดอกคูณเรดิโอ โดยให้สถานีวิทยุชุมชนดอกคูณเรดิโอ ระงับการทดลองออกอากาศชั่วคราว นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเพื่อให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขการแพร่กระจายคลื่นที่ก่อให้เกิดการรบกวน
2.  ให้มีหนังสือแจ้งสถานีวิทยุชุมชนดอกคูณเรดิโอ เพื่อทราบมติที่ประชุมตามข้อ 1. โดยชี้แจงและอธิบายเหตุผลที่ถูกระงับสิทธิการทดลองออกอากาศชั่วคราวอย่างชัดเจน พร้อมทั้งให้ดำเนินการทดลองออกอากาศตามสถานที่ตั้งสถานีที่ได้แสดงความประสงค์ไว้ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขการแจ้งความประสงค์จะประกอบกิจการฯ ตามบทเฉพาะกาล ข้อ ๑๘ ของประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ที่ให้ดำเนินการทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราวให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่แจ้งไว้ 
 
ระเบียบวาระที่ 4.9 :      การขอยกเลิกการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนของสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชน Business Radio คลื่นความถี่ 90.75 MHz  :  กทช.พนาฯ, กส.
 
มติที่ประชุม                  
1.  อนุมัติให้ยกเลิกการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนของสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชน Business Radio คลื่นความถี่ 90.75 MHz ตามที่ผู้แสดงความประสงค์ฯ (นางสาวรัศมี มาลาม) มีหนังสือร้องขอตามความเห็นของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ตามที่ กทช.พนาฯ เสนอ
2.  มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณายกเลิกการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน Business Radio คลื่นความถี่ 90.75 MHz พร้อมทั้งประกาศการพิจารณาบน Website สำนักงาน กทช. เพื่อให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบและสามารถทักท้วงผลการพิจารณาได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณา และภายหลังจากระยะเวลาดังกล่าวสิ้นสุดลง หากไม่มีผู้ใดทักท้วงให้ดำเนินการแจ้งผลการดำเนินงานให้ กทช. ทราบ พร้อมทั้งแจ้งผลการยกเลิกดังกล่าวต่อสาธารณะ หน่วยงานต่างๆ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ
3.  มอบหมายให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลตามแนวทางที่ กทช. ได้มีมติในคราวประชุม กทช. ครั้งที่ 19/2553 เรื่อง การขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชนเสียงชุมชน และรายงานให้ กทช. ทราบทุกระยะ  ทั้งนี้ หากมีกรณีอื่นนอกเหนือจากหลักการดังกล่าวข้างต้น ให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำเสนอแนวทางต่อ กทช. พิจารณาเป็นรายกรณีไป
 
ระเบียบวาระที่   4.10   :    การพิจารณากรณีการออกอากาศที่ขัดต่อเงื่อนไขการทดลองออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนนครลำปางเรดิโอ คลื่นความถี่ 106.25 MHz  จังหวัดลำปาง : กทช.พนาฯ, กส.
 
มติที่ประชุม                  
1.  ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า การพิจารณากรณีการออกอากาศที่ขัดต่อเงื่อนไขการทดลองออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนนครลำปางเรดิโอ คลื่นความถี่ 106.25 MHz  จังหวัดลำปาง เป็นเรื่องการบังคับให้เป็นไปตามขอบเขตและเงื่อนไข ตามข้อ 18 ของประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) จึงมีมติรับทราบมติคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่ให้มีหนังสือแจ้งเตือนสถานีวิทยุชุมชนนครลำปางเรดิโอ ในฐานะผู้ทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราว ให้ดำเนินการปรับปรุงเนื้อหารายการที่ออกอากาศซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรสื่อสารของชาติต่อสาธารณที่ไม่เหมาะสม ผิดวัตถุประสงค์ มีการยั่วยุ ปลุกปั่น ให้ประชาชนเกิดความแตกแยก และเกลียดชังกัน ให้เป็นไปตามขอบเขตและเงื่อนไขที่ทางคณะกรรมการกำหนดไว้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง พร้อมทั้งให้สถานีวิทยุชุมชนนครลำปางเรดิโอ ทำหนังสือชี้แจงการปรับปรุงเนื้อหาการออกอากาศให้เป็นไปตามขอบเขตและเงื่อนไขที่คณะกรรมการได้กำหนดไว้  ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. (กส.) จัดทำรายงานผลการแจ้งเตือนให้ กทช. ทราบด้วย
2.  เห็นควรพิจารณาเพื่อกำหนด หรือวางเป็นหลักการสำหรับใช้เป็นบรรทัดฐาน และแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไปในกรณีที่มีสถานีวิทยุชุมชนในฐานะผู้ทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราว นำทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะไปใช้เพื่อทางการค้าหากำไรหรือเพื่อผลประโยชน์ในทางการเมือง การปลุกปั่น หรือยุยงทางการเมือง เช่นนี้อีก ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้ กทช.พนาฯ รับไปหารือร่วมกับสำนักงาน กทช. ในประเด็นนี้ แล้วนำเสนอ กทช. พิจารณาต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.45    :    คำวินิจฉัยเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายองค์คณะในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทที่ 3/2553 ระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ผู้ร้อง กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้ถูกร้อง : กวพ., สชท.
 
มติที่ประชุม                  
1.  รับคำร้องของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้ถูกร้องตามคำขอให้ชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ฉบับลงวันที่ 10 สิงหาคม 2553 เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามข้อ 60 ของประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรมคมนาคม พ.ศ.2549  โดยให้นำมาตรา 24 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม
2.  เห็นชอบให้รับคำวินิจฉัยเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายองค์คณะในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทที่ 3/2553 ระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ผู้ร้อง กับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้ถูกร้อง ไว้ โดยมอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ และ กทช.พนาฯ เป็นผู้พิจารณาแทน ก่อนมอบหมายให้สำนักงาน กทช. (สำนักกฎหมาย) จัดทำคำชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย เพื่อนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาต่อไป
 
 
ระเบียบวาระที่   4.46    :    โครงการความร่วมมือศึกษาตลาดและอุตสาหกรรมสื่อสารของประเทศไทย ประจำปี 2553 และคาดการณ์ปี 2553 : สพท.
 
มติที่ประชุม                  
1.  เห็นชอบโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กทช. และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตามโครงการความร่วมมือศึกษาตลาดและอุตสาหกรรมสื่อสารของประเทศไทย ประจำปี 2553 และคาดการณ์ปี 2554 ภายในกรอบวงเงิน 1,500,000 บาท (รวม VAT แล้ว) โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณโครงการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของสำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (สพท.) เสนอ 
2.  มอบหมายให้ สพท.รับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุม (ประธาน กทช. และกทช.สุธรรมฯ) เพื่อเป็นแนวทาง/เงื่อนไขในการดำเนินการเรื่องนี้ให้เหมาะสม และรอบคอบมากยิ่งขึ้นต่อไป ได้แก่
1) ในการว่าจ้างผู้ศึกษามิให้เป็นรายเดิม หรือมิให้ดำเนินการในลักษณะเป็น Sub Contract และ
2) ควรกำหนดให้มีการจัด Focus Group เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือการวิจารณ์ต่อร่างรายงานผลการศึกษาฯ ด้วย
 
ระเบียบวาระที่    4.47   :   การแต่งตั้งผู้ประสานงานการดำเนินงานตามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านโทรคมนาคม (MOU) ระหว่าง สพท. และ CTIF, Aalborg University ประเทศเดนมาร์ก : สพท.
 
มติที่ประชุม                  อนุมัติแต่งตั้ง รศ.ดร.บวร ปภัทสราทร  เป็นผู้ประสานงานการดำเนินงานตามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านโทรคมนาคม (MOU) ระหว่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (สพท.) และ CTIF, Aalborg University ประเทศเดนมาร์ก ตามที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเสนอ  ทั้งนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ของ รศ.ดร.บวร ปภัทสราทร  ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงาน กทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้
  
 
ระเบียบวาระที่    4.65    :  การเดินทางไปเจรจาความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง กทช. และ King’s College London : กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม                  
1.  อนุมัติหลักการ ให้ กทช.สุธรรมฯ นำประเด็นและข้อเสนอการจัดอบรมหลักสูตร NTC Law and Economics Training Programme  2011 ไปเจรจาขั้นสุดท้ายกับ King’s College London ทั้งนี้ โดยมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับการจัดอบรมภายในกรอบวงเงิน 10,000,000 บาท ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
2.  อนุมัติให้มีผู้ประสานงานการจัดเตรียมโครงการอบรมหลักสูตรตามข้อ 1  ประกอบด้วย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล (อกจ.)  นายฤทธิเดช เหมาะประสิทธิ์ (พนักงานปฏิบัติการระดับต้น ส่วนงาน กทช.สุธรรมฯ) และนางสาวภุมรา มะโน (พนักงานตามสัญญาจ้าง ส่วนงาน กทช.สุธรรมฯ) 
                                          
 หมายเหตุ               ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาที่เหลือ  ได้แก่ 4.4 - 4.5, 4.11 - 4.44,  และ 4.49 - 4.64  จะได้นำเสนอในการประชุม กทช. ครั้งต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   5      :   เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่   5.1   :   รายงานความคืบหน้าคดีของ สกทช. ประจำเดือน พฤศจิกายน 2553  ครั้งที่ 1 : รทช.ฐากรฯ, ปธ.

 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานความคืบหน้าคดีของ สกทช. ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 (ช่วงเดือนกันยายน 2553 ถึงปัจจุบัน) ครั้งที่ 1  มีผู้ยื่นฟ้อง กทช. และสำนักงาน กทช. ต่อศาลปกครองกลาง จำนวน 14 คดี  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ     
 
ระเบียบวาระที่   5.2    :  โครงการทดลองการจัดตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อนักเรียนในชนบท : รทช.พิทยาพลฯ, ทถ.
 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการทดลองการจัดตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อนักเรียนในชนบท ซึ่งได้สิ้นสุดการดำเนินโครงการแล้ว ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.3     :   การดำเนินการอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นความถี่ : กทช.สุธรรมฯ 
 
มติที่ประชุม                รับทราบรายงานผลการดำเนินการอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นความถี่ ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.4      :   การจัดทำคู่มือกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง : คณะทำงานจัดทำกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง
 
มติที่ประชุม                รับทราบการจัดทำคู่มือกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 เพื่อใช้เป็นแนวทางและวิธีปฏิบัติงานภายในของสำนักงาน กทช. ตามเอกสารที่คณะทำงานจัดทำกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.5    :   รายงานผลการติดตามการดำเนินงานตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 26/2553  ถึง  ครั้งที่ 31/2553 : รทช.ฐากรฯ, ปต.
 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานผลการติดตามการดำเนินงานตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่  26/2553 ถึงครั้งที่ 31/2553 ในรอบเดือนกันยายน 2553 จำนวน 93 เรื่อง  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.6   :  รายงานข้อมูลของสถานีวิทยุชุมชนประจำเดือนกันยายน 2553 : รทช.ประเสริฐฯ, กท.
 
มติที่ประชุม              รับทราบรายงานสรุปข้อมูลสถานะความเคลื่อนไหวของวิทยุชุมชนและข้อมูลสถิติระดับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากวิทยุชุมชนโดยเฉพาะในกรณีมีผลกระทบร้ายแรงต่อการรบกวนวิทยุการบินประจำเดือนกันยายน 2553   ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ   
 
 
ระเบียบวาระที่    5.7    :  การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 เรื่อง โครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 :  รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม               รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (28 กันยายน 2553) เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (9 กันยายน 2551) โครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ซึ่งลงมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอ  ทั้งนี้ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เร่งรัดติดตามให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงให้ชัดเจนเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพื่อความสามารถในการแข่งขันและติดตามประเด็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต  รวมทั้งให้ บมจ.ทีโอที รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.8    :   งบการเงินของสำนักงาน กทช. สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 : รทช.ประเสริฐฯ, คง.
 
มติที่ประชุม               รับทราบรายงานงบการเงินของสำนักงาน กทช. เพื่อแสดงฐานะทางการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงาน และงบกระแสเงินสด พร้อมหมายเหตุประกอบงบการเงิน  สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.9   :  รายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ.ระยะสั้น (Interim Plan) : รทช.ฐากรฯ, กม
 
มติที่ประชุม              รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ระยะสั้น (Interim Plan) ของสำนักงาน กทช. ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
 
ระเบียบวาระที่    5.10   :   รายงานผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 : รทช.ฐากรฯ, กม
 
มติที่ประชุม                  รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้แต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หรือมอบหมายให้เลขาธิการ กทช. ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498  ประจำเดือนกันยายน 2553  ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.11     :   รายงานผลการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ : รทช.ทศพรฯ, กร.
 
มติที่ประชุม                  รับทราบรายงานผลการเลือกตั้งในตำแหน่งต่างๆ ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ในระหว่างการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม (Plenipotenry Conference – PP) ค.ศ. 2010 ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกตั้งซ้ำเป็นสมาชิกสภาบริหารอีกวาระหนึ่ง โดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม จำนวน 121 เสียง จากประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมและมีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 161 ประเทศ เป็นลำดับที่ 7 จาก 13 ของจำนวนประเทศสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งสำหรับภูมิภาคเอเชียและออสตราเลเซีย ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.12    : รายงานการรับเรื่องร้องเรียนประจำเดือนตุลาคม 2553 ครึ่งเดือนหลัง : สบท.
 
มติที่ประชุม                รับทราบรายงานการรับเรื่องร้องเรียนประจำเดือนตุลาคม 2553 ครึ่งเดือนหลัง ของสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม มีจำนวนเรื่องร้องเรียน 96 เรื่อง ดำเนินการเสร็จ จำนวน  3  เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ ๙๓ เรื่อง  ตามเอกสารที่สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมเสนอ
                                   
 
ระเบียบวาระที่    6     :     เรื่องอื่นๆ           
ระเบียบวาระที่   6.1   :     การจัดฝึกอบรมหลักสูตร Braoadcasting and media Regulation  โดย Prof.Joan Barata  และ Ms.Monica Duran Ruiz :  กทช.สุธรรมฯ

 
มติที่ประชุม               อนุมัติการจัดฝึกอบรมหลักสูตร Braoadcasting and media Regulation  โดย Prof.Joan Barata และ Ms.Monica Duran Ruiz ภายในกรอบวงเงินจำนวน  5,737,000 บาท ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ดังนี้
1.  การจัดฝึกอบรมระดับกลาง (Intermediate Course) ในระหว่างวันที่ 1 - 4 ธันวาคม 2553 โดย Ms.Monica Duran Ruiz  ทั้งนี้ โดยเบิกค่าใช้จ่ายจากงบประมาณกลุ่มงานสำนักเลขานุการคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ จำนวน 676,000 บาท                       
2.  การจัดฝึกอบรมระดับกลาง (Intermediate Course) ที่สำนักงาน กทช. ในระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม 2554  โดย Prof.Joan Barata  เป็นผู้บรรยาย  การจัดฝึกอบรมขั้นสูง (Advance Course) ณ ประเทศสเปน ในระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2554  และการดูงานและการอบรมขั้นสูง (Observed and Advanced Course) ณ ประเทศอังกฤษ  ในระหว่างวันที่ 7-11 มีนาคม 2554  ทั้งนี้ โดยเบิกค่าใช้จ่ายจากงบประมาณของสำนักกิจการกรรมการ จำนวนเงิน 5,061,000 บาท
 
ระเบียบวาระที่   6.2    :  คำวินิจฉัยเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายองค์คณะในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทที่ 1/2553 ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ร้อง กับ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ผู้ถูกร้อง : องค์คณะในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทฯ , สชท.
 
มติที่ประชุม                  
1.  รับคำร้องของบริษัท ทรู มูฟ จำกัด ผู้ถูกร้อง ตามคำขอให้ชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2553  และคำคัดค้านและคำร้องขอให้ชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ฉบับลงวันที่ 24 มิถุนายน 2553 ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ร้องเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามข้อ 60 ของประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรมคมนาคม พ.ศ.2549 โดยให้นำมาตรา 24 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม
2.  เห็นชอบให้รับคำวินิจฉัยเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายองค์คณะในคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทที่ 1/2553 ระหว่างระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ร้อง กับ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ผู้ถูกร้อง ไว้ โดยมอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ และ กทช.พนาฯ เป็นผู้พิจารณาแทน ก่อนมอบหมายให้สำนักงาน กทช. (สำนักกฎหมาย) จัดทำคำชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย เพื่อนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   6.3     :   คำสั่งเรียกให้ทำคำให้การในคดีปกครองหมายเลขดำที่ 1615/2553  ที่ 1616/2553 และที่ 1617/2553 และคำสั่งไต่สวนคำขอทุเลาขอการบังคับตามคำสั่ง : รทช. ฐากรฯ, กม.
 
มติที่ประชุม                  
1.  มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ และ กทช.พนาฯ เป็นผู้รับผิดชอบคดีปกครองหมายเลขดำที่ 1592/2553 (ระหว่าง บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ผู้ฟ้องคดี และ กทช. ผู้ถูกฟ้องคดี), ที่ 1615/2553 (ระหว่าง บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด ผู้ฟ้องคดี กับ กทช. ผู้ถูกฟ้องคดี), ที่ 1616/2553 (ระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี กับ กทช. ผู้ถูกฟ้องคดี) และที่ 1617/2553 (ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี กับ กทช. ผู้ถูกฟ้องคดี)
2.  เห็นชอบแนวทางการจัดทำคำให้การในคดีปกครองหมายเลขดำที่ 1615/2553, ที่ 1616/2553 และที่ 1617/2553 และแนวทางการดำเนินการในชั้นไต่สวนคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งนัดไต่สวน คำขอทุเลาการบังคับในคดีปกครองหมายเลขดำที่ 1592/2553  ตามที่ สำนักงาน กทช. เสนอ โดยมอบหมายให้สำนักกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการตามกระบวนการทางคดีต่อไป ทั้งนี้ ให้อยู่ภายใต้การกำกับของ กทช. ผู้รับผิดชอบคดี
   
 
ระเบียบวาระที่   6.4    :  ขออนุมัติบุคคลภายนอกเพิ่มเติมเพื่อเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรกฎหมาย Regulation of Telecommunication and Competition Law   และการจัดกิจกรรมศาลจำลอง (Moot Court) หรือกระบวนการเจรจาทางกฎหมาย (Lawyering process) โดย The London School of Economics and Political Science  ระหว่างวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2553 :   กทช.  สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม                อนุมัติให้เพิ่มเติมบุคคลภายนอก (ผู้แทนจากศาลปกครอง จำนวนไม่เกิน 8 ท่าน ผู้แทนจากศาลยุติธรรม จำนวนไม่เกิน 8 ท่าน และผู้แทนจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จำนวนไม่เกิน 3 ท่าน)  เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรกฎหมาย Regulation of Telecommunication  and Competition Law  และการจัดกิจกรรมศาลจำลอง (Moot Court) หรือกระบวนการเจรจาทางกฎหมาย (Lawyering process) โดย The London School of Economics and Political Science  ระหว่างวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2553  ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ 

สร้างโดย  -   (31/1/2559 14:13:55)

Download

Page views: 137