ระเบียบวาระที่ 1  :  เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1. ประเด็นการพิจารณาว่าจะรวม กทช. และ กสช. เป็นองค์กรเดียวตามร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ ขอให้สำนักงาน กทช. ในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย ไปตรวจสอบว่ามีการจัดส่งเอกสารมาสอบถามความคิดเห็นหรือไม่ และขอให้ที่ประชุมพิจารณาว่าควรจะดำเนินการอย่างไร สำหรับประเด็นเรื่องการให้ข่าวขอให้พึงระมัดระวังด้วย
2. ขอให้ กทช. และสำนักงาน กทช. พิจารณาทบทวนการดำเนินงานต่าง ๆ ซึ่งกำหนดไว้ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ว่ามีอะไรที่ยังไม่ได้ดำเนินการ หรือคิดจะทำ หากอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ขอให้ระงับไว้ เพราะอาจส่งผลให้มีปัญหาตามมาในภายหลังได้
มติที่ประชุม  รับทราบตามที่ประธานแจ้ง และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 
ระเบียบวาระที่ 2  :  รับรองรายงานการประชุม
ระเบียบวาระที่ 2.1  :  รับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 43/2549 วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2549
มติที่ประชุม    - ไม่มี - 
ระเบียบวาระที่ 2.2  :  รับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ 44/2549 วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2549
มติที่ประชุม    - ไม่มี -
ระเบียบวาระที่ 2.3  :  รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 45/2549 วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2549
มติที่ประชุม     - ไม่มี -
ระเบียบวาระที่ 3  :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 16/2550 วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2550
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 16/2550 วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2550 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 4  :  เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่ 4.1  :  ขอหารือเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 : กม.
มติที่ประชุม  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้ง บมจ.ทีโอที ยืนยันว่าการออกประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 เป็นการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ กทช. ที่กำหนดไว้ในมาตรา 80 วรรคหนึ่ง และ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
ระเบียบวาระที่ 4.2  :  การเชื่อมต่อตรงกับต่างประเทศของบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด : ปก.
มติที่ประชุม    
1. รับทราบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบจากการเชื่อมต่อตรงกับผู้ให้บริการในต่างประเทศของบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช.นำเรื่องนี้เสนอ กทช.พิจารณาเป็นวาระสืบเนื่องในการประชุมครั้งต่อไป เนื่องจากยังมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ทั้งนี้ โดยให้สำนักงานฯประสานงานกับ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาของ กทช.โดยเฉพาะในประเด็นที่สำคัญทางเทคนิค และผลกระทบด้านต่างๆ ตามข้อคิดเห็นของที่ประชุม อาทิ ข้อมูลการเปรียบเทียบผลที่ได้รับเมื่อได้เชื่อมต่อตรงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นหากไม่ได้เชื่อมต่อตรงเป็นอย่างไร ข้อมูลพื้นฐาน (Background) เมื่อต่อผ่าน CAT เป็นอย่างไร ข้อมูลการวัด Traffic ตลอด 3 เดือนเป็นอย่างไร รวมทั้งข้อมูลผลกระทบทางด้านการตลาดและเศรษฐศาสตร์ต่อ IIG และประชาชน เป็นต้น 
ระเบียบวาระที่ 4.3  :  บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สองที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง : ปก.
มติที่ประชุม  อนุมัติให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สองที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง โดยมีระยะเวลาการอนุญาต 15 ปี เพื่อให้บริการวิทยุคมนาคมสำหรับกิจการทางการบิน บริการวิทยุคมนาคม Single Channel และบริการวิทยุคมนาคมเฉพาะกลุ่ม Trunked Radio ระบบ Analog/Digital ทั้งนี้ โดยให้กำหนดรายละเอียดของการให้บริการและเงื่อนไขมาตรฐานทางเทคนิคในการให้บริการสำหรับแต่ละรายบริการ รวมถึงเงื่อนไขการดำเนินการอื่นๆเพิ่มเติม ให้เป็นไปตามข้อเสนอของสำนักงาน กทช. โดยเฉพาะกรณีที่หากบริษัทฯต้องการขยายการให้บริการในอนาคตไปถึงกลุ่ม End User นั้น จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้ถูกต้องต่อไปด้วย 
ระเบียบวาระที่ 4.4  :  ผลการพิจารณาร่างข้อเสนอการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 8 ฉบับ และร่างข้อเสนอการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 2 ฉบับ : กม., ศฐ., วท.
มติที่ประชุม  ภายหลังสำนักงาน กทช.ได้นำเสนอผลการพิจารณาร่างข้อเสนอการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 8 ฉบับ และร่างข้อเสนอการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 2 ฉบับ ต่อ กทช.แล้ว ที่ประชุมได้ซักถามในรายละเอียดสรุปได้ว่า ข้อเสนอของสำนักงานฯ เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 31 โดยมีผู้รับใบอนุญาตและผู้ประกอบกิจการจำนวน 8 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินการตามข้อ 31 วรรคแรก และมีผู้รับใบอนุญาตและผู้ประกอบกิจการจำนวน 2 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินการตามข้อ 31 วรรคสาม ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการพิจารณาร่างข้อเสนอการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 8 ฉบับ และร่างข้อเสนอการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม จำนวน 2 ฉบับตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช.มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการทั้งหมดดังกล่าวทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนของประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 31 วรรคแรก และวรรคสาม และขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข พร้อมเพิ่มเติมรายละเอียดร่างข้อเสนอฯให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทั้งนี้ โดย กทช.จะได้พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไปในคราวเดียวกัน
ระเบียบวาระที่ 4.5  :  การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม  เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ตามกรอบแนวทางที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กทช. หารือในรายละเอียดขององค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯร่วมกับ กทช. สุธรรมฯ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการปรับให้มีหน่วยงานด้านแผนของสำนักงานฯ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักดำเนินการในฐานะฝ่ายเลขานุการ แล้วเร่งจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอประธาน กทช.ลงนามโดยเร็วต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.6  :  โครงการอบรม 22nd PURC/World Bank International Training Program on Utility Regulation and Strategy ของ Public Utility Research Center ระหว่างวันที่ 11- 22 มิถุนายน 2550 ณ University of Florida , ประเทศสหรัฐอเมริกา : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม     
1. อนุมัติการจัดส่งพนักงานสำนักงาน กทช. จำนวน 6 ราย เข้าร่วมโครงการอบรม 22nd PURC/World Bank International Training Program on Utility Regulation and Strategy ของ Public Utility Research Center ระหว่างวันที่ 11- 22 มิถุนายน 2550 ณ University of Florida , ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข้อเสนอของ กทช.สุธรรมฯ ประกอบด้วย

• นางสุพินญา จำปี สำนักกฎหมาย
• น.ส.ทิพณัฏฐา กังวานไกลไพศาล สำนักกฎหมาย
• น.ส.สุภัทรา กฤตยาบาล สำนักเศรษฐกิจโทรคมนาคม
• น.ส.จิตสถา ศรีประเสริฐสุข สำนักเศรษฐกิจโทรคมนาคม
• น.ส.ภัทรพันธ์ ไพบูลย์ ส่วนงาน กทช.สุธรรมฯ
• นายเธียรทวี สุทธินนท์ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ

2. อนุมัติกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายจำนวน 2,734,400 บาท สำหรับการจัดส่งพนักงานจำนวน 6 รายข้างต้นเข้าร่วมโครงการอบรมดังกล่าวให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.7  :  ร่างประกาศ กทช. ว่าด้วยการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และการให้ผู้อื่นร่วมใช้คลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม  เห็นชอบในหลักการร่างประกาศ กทช. ว่าด้วยการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และการให้ผู้อื่นร่วมใช้คลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอโดยให้นำร่างประกาศดังกล่าวลงเผยแพร่ใน Website เพื่อรับฟังความคิดเห็นในชั้นต้นก่อนจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ระเบียบกำหนดไว้ต่อไป แล้วประมวลสรุปผลที่ได้รับเสนอที่ประชุม กทช. เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่ 4.8  :  ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ เรื่อง เครื่องวิทยุคมนาคมในกิจการวิทยุสมัครเล่น : ฉก. วท.
     เนื่องจากมีจำนวนเรื่องเสนอ กทช.พิจารณาเป็นจำนวนมาก การหยิบยกเรื่องขึ้นมาพิจารณาจึงเป็นไปตามความเหมาะสม และความจำเป็นเร่งด่วนก่อน สำหรับเรื่องนี้ จะได้มีการบรรจุเป็นวาระเพื่อเสนอ กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.9  :  การอนุญาตให้โรงเรียนการเดินเรือบาร์เธอร์ เปิดหลักสูตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภทจำกัดเขตเดินเรือทะเล (GMDSS-ROC) และหลักสูตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภททั่วไปประจำเรือ (GMDSS-GOC) : ฉก.
มติที่ประชุม    
1. เห็นชอบร่างประกาศ กทช. รวม 4 ฉบับ ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ดังนี้
1.1 ร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักสูตรการอบรมและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภทจำกัดเขตเดินเรือทะเล (ROC)
1.2 ร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอบรมและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภทจำกัดเขตเดินเรือทะเล (ROC)
1.3 ร่างประกาศ กทช. เรื่อง หลักสูตรการอบรมและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภททั่วไปประจำเรือ (GOC)
1.4 ร่างประกาศ กทช. เรื่องหลักเกณฑ์การอบรมและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภททั่วไปประจำเรือ (GOC)
2. อนุญาตให้โรงเรียนการเดินเรือบาร์เธอร์ ดำเนินการฝึกอบรมและสอบหลักสูตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภทจำกัดเขตเดินเรือทะเล (GMDSS-ROC) และหลักสูตรพนักงานวิทยุคมนาคมประเภททั่วไปประจำเรือ (GMDSS-GOC) ตามข้อเสนอของสำนักงาน กทช.
ระเบียบวาระที่ 4.10  :  การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำมาตรฐานโทรคมนาคมรายประเภทและรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการมาตรฐาน กทช. ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2550 : คณะกรรมการมาตรฐาน กทช., วท.
มติที่ประชุม   
1. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการมาตรฐาน กทช. ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2550
2. รับทราบและเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการมาตรฐาน กทช.ในการแต่งตั้งอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำมาตรฐานโทรคมนาคมรายประเภท จำนวน 2 คณะ ได้แก่
2.1 คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับ Next Generation Network (NGN) ทั้งนี้ โดยให้ปรับกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการคณะนี้ให้เหมาะสมเป็น 90 วัน เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้
2.2 คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับเครื่องวิทยุคมนาคมตามที่คณะกรรมการมาตรฐาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 4.11  :  ร่างแผนความถี่วิทยุ Broadband Wireless Access (BWA) เพื่อการทดลองหรือทดสอบ : วท.
     เนื่องจากมีจำนวนเรื่องเสนอ กทช.พิจารณาเป็นจำนวนมาก การหยิบยกเรื่องขึ้นมาพิจารณาจึงเป็นไปตามความเหมาะสม และความจำเป็นเร่งด่วนก่อน สำหรับเรื่องนี้ จะได้มีการบรรจุเป็นวาระเพื่อเสนอ กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.12  :  การขออนุญาตใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการทดสอบสัญญาณรบกวนระหว่าง WiMAX กับสถานีฐานของดาวเทียมไทยคม 5 ในย่านความถี่ Extended C Band 3.4-3.6 GHz : ปก.
มติที่ประชุม             
1. อนุญาตให้บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ตราอักษร Avarion รุ่น BreezeMAX 3500 Base Station ความถี่วิทยุ 3.3995-3.4535 GHz และ 3.4995-3.5535 GHz กำลังส่งสูงสุด 28 dBm (0.63 วัตต์) อัตราขยาย (Gain) ของ Omnidirectional Antenna 10 dBi จำนวน 2 ชุด และ รุ่น BreezeMAX 3500 CPE ความถี่วิทยุ 3.4995-3.6000 GHz และ 3.3995-3.5005 GHz กำลังส่งสูงสุด 20 dBm (0.1 วัตต์) อัตราขยาย (Gain) ของ Antenna 17 dBi จำนวน 20 ชุด ทั้งนี้ โดยให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือสำนักงาน กทช. ที่ ทช. 3100/1592 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2550 โดยเคร่งครัด และภายหลังจากที่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวเพื่อการทดสอบสัญญาณรบกวนระหว่าง WiMAX กับสถานีฐานของดาวเทียมไทยคม 5 ในย่านความถี่ Extended C Band 3.4 – 3.6 GHz แล้วเสร็จ ให้ส่งมอบเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวให้แก่บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเก็บรักษาไว้ ณ โกดังสินค้าของบริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด ต่อไป
2. อนุญาตให้บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบเครื่องวิทยุคมนาคมตราอักษร Avarion รุ่น BreezeMAX 3500 Base Station จำนวน 2 ชุด และ รุ่น BreezeMAX 3500 CPE จำนวน 20 ชุด ดังมีรายละเอียดคุณสมบัติทางเทคนิคตามข้อ 1 ให้แก่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ในการทดสอบสัญญาณรบกวนระหว่าง WiMAX กับสถานีฐานของดาวเทียมไทยคม 5 ย่านความถี่ Extended C Band 3.4 – 3.6 GHz ทั้งนี้ โดยให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือสำนักงาน กทช. ที่ ทช. 3100/6025 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2548 โดยเคร่งครัด
3. ในระหว่างที่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวอยู่นั้น หากบริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการทดลองหรือทดสอบเป็นการชั่วคราว ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการจัดหาเครื่องวิทยุคมนาคมให้แก่บริษัท อินเทลไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้งานต่อไป 
ระเบียบวาระที่ 5  :  เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่ 5.1  :  การฝึกอบรมเรื่อง Negotiation Strategies for Managers : สชท.
มติที่ประชุม  รับทราบการส่งผู้แทนสถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายรวม 2 ราย เข้าร่วมการฝึกอบรมเรื่อง Negotiation Strategies for Managers ของ Kellog school of management ระหว่างวันที่ 20 -23 พฤษภาคม 2550 ตามเอกสารที่สถาบันฯ เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.2  :  รายงานผลการประชุมประสานงานความถี่ดาวเทียมระหว่างหน่วยงานโทรคมนาคมไทยกับอินโดนีเซีย ครั้งที่ 9 : กร.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลการประชุมประสานงานความถี่ดาวเทียมระหว่างหน่วยงานโทรคมนาคมไทยกับอินโดนีเซีย ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 2 - 6 เมษายน 2550 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.3  :  รายงานผลการปฏิบัติงานของ กทช. ประจำปี 2549 : พต.
มติที่ประชุม  รับทราบ เรื่อง คณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของ กทช. ประจำปี 2549 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 และ 11 เมษายน 2550 ตามลำดับ ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.4  :  ผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดอนาคตของสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ ยู เอช เอฟ : ปก.
มติที่ประชุม  รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (24 เมษายน 2550) เรื่องผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดอนาคตของสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ ยู เอช เอฟ ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.5  :  บริษัท เอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด ขอให้พิจารณายืนยันสิทธิการประกอบกิจการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมระบบเอเซียส : ปก.
มติที่ประชุม  รับทราบผลการดำเนินงานของสำนักงาน กทช. เรื่องบริษัท เอเซียน รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด ขอให้พิจารณายืนยันสิทธิการประกอบกิจการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมระบบเอเซียส ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
หมายเหตุ  กทช.สุธรรม ให้ความเห็นเพิ่มเติมในวาระนี้ว่า การรับทราบ ไม่ได้หมายความรวมถึงการเห็นชอบที่จะผูกพันดำเนินการหรือมิได้เป็นการยืนยันหรือยอมรับว่าการประกอบกิจการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมของบริษัท เอเชียสฯ ถูกต้องตามกฎหมายหรือเป็นอำนาจกำกับดูแลของ กทช. ทั้งนี้ โปรดดูรายละเอียดในวาระที่  6.5 ประกอบ
ระเบียบวาระที่ 5.6  :  บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) ขอเปลี่ยนแปลงเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษที่ได้รับการจัดสรร : กลุ่มภารกิจด้านบริหารเลขหมายฯ
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องที่สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาคำขอของบริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ หมายเลข 1794 เป็นหมายเลข 1280 เนื่องจากกลุ่ม 12AX และ 12BX เป็นกลุ่มเลขหมายตามประกาศ กทช. เรื่อง แผนเลขหมายโทรคมนาคมที่กำหนดสำหรับภารกิจพิเศษ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.7 :  การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ CAT2Call ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม : ศฐ.
มติที่ประชุม  รับทราบการปรับลดอัตราค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ CAT2Call จำนวน 53 ปลายทาง ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม ก่อนสำนักงาน กทช.มีหนังสือแจ้งบมจ. กสท โทรคมนาคมต่อไปตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.8  :  รายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายนของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท : สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายฯ
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานความคืบหน้าในกระบวนพิจารณาประจำเดือนเมษายนของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท ซึ่งได้ดำเนินการภายใต้ประกาศ กทช. ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 67 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายฯ เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.9  :  การฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับ Price Regulation : ศฐ.
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรที่จะเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับ Price Regulation ของพนักงานสำนักเศรษฐกิจโทรคมนาคมตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 5.10  :  ระเบียบ กทช. ว่าด้วยการมอบอำนาจของ ลทช. ให้ปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในสถาบันเฉพาะทาง พ.ศ.2550 : กม.
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลและขั้นตอนการดำเนินการจัดทำร่างระเบียบ กทช. ว่าด้วยการมอบอำนาจของ ลทช. ให้ปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในสถาบันเฉพาะทาง พ.ศ.2550 ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
ระเบียบวาระที่ 6  : เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่ 6.1  :  ขอให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นการชั่วคราว : สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายฯ (สชท.)
มติที่ประชุม    
1. มอบหมายให้สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม จัดส่งเรื่องการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นการชั่วคราว ตามที่ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น มีหนังสือร้องขอมา ให้คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท (กวพ.) เป็นผู้พิจารณาความถูกต้องเหมาะสม อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของ กวพ. ข้อ 44 ตามประกาศ กทช.ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายฯ เพื่อให้ความเห็นก่อนเสนอที่ประชุม กทช. เพื่อพิจารณาต่อไป โดยกำหนดระยะเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
2. เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในการดำเนินการของ กวพ.ตลอดกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ตามข้อ 1 จึงห้ามมิให้ กวพ.จำนวน 3 ท่านที่เป็นองค์คณะพิจารณากรณีข้อพิพาทระหว่าง บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กับ บมจ.ทีโอที อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว มีส่วนร่วมพิจารณาด้วย
ระเบียบวาระที่ 6.2  :  อัตราเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ : คณะกรรมการกองทุนฯ
มติที่ประชุม     
1. ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กทช.เศรษฐพรฯ, กทช.เหรียญชัยฯ, กทช.สุชาติฯ) เห็นชอบให้คงรูปแบบการจ่ายเงินสมทบในรูปแบบเดิม เป็นระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่เป็นพนักงานระดับปฏิบัติการผู้มีรายได้น้อย และมีสัดส่วนของพนักงานเพียงประมาณร้อยละ 30 ที่จ่ายเงินสะสมน้อยกว่าร้อยละ 10 จึงไม่เป็นภาระกับสำนักงานฯมากนักในการจ่ายเงินสมทบแบบอัตราคงที่ แต่เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน ซึ่งเป็นวิธีการที่องค์กรชั้นนำหลายแห่งใช้ปฏิบัติ โดยเมื่อครบ 3 ปีแล้วให้ประเมินผลเพื่อพิจารณาทบทวนให้เหมาะสมยิ่งขึ้นต่อไป
2. ที่ประชุมเสียงข้างน้อย (กทช.สุธรรมฯ) เห็นชอบให้ใช้วิธีการจ่ายเงินสมทบและเงินสะสมแบบทวิภาคี ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช.
หมายเหตุ ประธาน กทช. งดออกเสียง และ กทช.ประสิทธิ์ฯ ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมขณะพิจารณาวาระนี้
ระเบียบวาระที่ 6.3  :  ร่างระเบียบ กทช. ว่าด้วยการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมระหว่างผู้รับใบอนุญาต : กท., กม.
     เนื่องจากมีจำนวนเรื่องเสนอ กทช.พิจารณาเป็นจำนวนมาก การหยิบยกเรื่องขึ้นมาพิจารณาจึงเป็นไปตามความเหมาะสม และความจำเป็นเร่งด่วนก่อน สำหรับเรื่องนี้ จะได้มีการบรรจุเป็นวาระเพื่อเสนอ กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 6.4  :  ความเสียหายจากการใช้บังคับอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Access Charges) ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) : ศฐ., กม., สชท.
มติที่ประชุม  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปดำเนินการ ดังนี้
1. มีหนังสือถึงกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในฐานะผู้กำกับดูแล บมจ. กสท โทรคมนาคม เพื่อสอบถามถึงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสัญญาหรือข้อตกลงกับ บมจ.ทีโอทีว่าเป็นธรรมหรือไม่ อันเนื่องมาจากกรณีที่ บมจ.กสทฯได้รับผลกระทบและความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายทั้ง Access Charge และ Interconnection Charge เป็นจำนวนเงินที่สูงเกินกว่าที่ บมจ. กสทฯ จะรับภาระได้ รวมถึงขอรับทราบแนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ของกระทรวงว่าจะมีแนวนโยบายอย่างไร และจะยังคงนโยบายเช่นนี้อยู่หรือไม่ แล้วประมวลข้อมูลที่ได้เสนอ กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
2. มีหนังสือแจ้ง บมจ. กสท โทรคมนาคม เพื่อทราบมติ กทช.ตามข้อ 1 เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล กทช.จึงต้องสอบถามความเห็นเรื่องนี้ไปยังกระทรวงการคลัง และกระทรวง ICT เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ กทช.ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้น
ระเบียบวาระที่ 6.5  คำชี้แจงของ กทช. และ สกทช. เพื่อทำคำให้การแก้คำฟ้องคดีปกครอง ระหว่างนายสุพงษ์ ลิ้มธนากุล กับ กทช. และพวกรวม 3 คน : กม.
มติที่ประชุม   
1. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ไปดำเนินการจัดทำเค้าโครงของร่างคำให้การและรายการเอกสารหลักฐานประกอบคำให้การให้ครบถ้วน พร้อมทั้งรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม เพื่อปรับปรุงรายละเอียดเนื้อหาคำให้การทั้งในส่วนของ กทช. และสำนักงาน กทช. ให้ชัดเจนและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยให้ กทช.สุธรรมฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของ กทช. (พลเอกชูชาติฯ และ รศ.ดร.กมลชัยฯ) พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งก่อนจัดส่งให้อัยการเจ้าของคดี ทั้งนี้ โดยมีข้อมูล และข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆที่สำคัญ อาทิ
1.1 การกำกับดูแลดาวเทียมมี 2 ส่วน ได้แก่ 1) ตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และ พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ และ 2) การกำกับดูแลอื่น ๆ อาทิ การใช้ความถี่ การรบกวนคลื่นความถี่ และการประสานงานความถี่ จะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน กทช.
1.2 คำชี้แจงของ กทช. และสำนักงาน กทช. ควรจะมีความแตกต่างกัน โดยในส่วนของ กทช. จะเป็นการกำกับนโยบาย แต่สำหรับสำนักงาน กทช. จะเป็นลักษณะงานประจำ ซึ่งจะครอบคลุมถึง Monitoring ด้วย ทั้งนี้ ควรแยกให้เห็นชัดว่าสำนักงาน กทช. ทำอะไรโดยระบุกฎหมายและมาตราที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
1.3 ดาวเทียมอยู่นอกเหนือขอบเขตของกฎหมายไทย เนื่องจากเป็นกิจการระหว่างประเทศ ประกอบกับขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องดาวเทียม ดังนั้น สัญญาที่ทำขึ้นระหว่างรัฐบาลไทยและบริษัท ชินแซทเทลไลท์ ผู้ที่ผูกพันคือรัฐบาลไทย ซึ่งใช้สิทธิประเทศไทยที่เกิดขึ้นจากกฎหมายระหว่างประเทศ อาทิการจองhttp://cdncache-a.akamaihd.net/items/it/img/arrow-10x10.png Slot ฯลฯ นอกจากนี้ คลื่นความถี่ทั้งหลายถูกกำหนดโดยกฎหมายระหว่างประเทศ
1.4 ในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของ กทช เราได้ทำตามหน้าที่ของ Regulator ถูกต้องแล้ว สำหรับกรณีของสัญญาสัมปทาน นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล รวมทั้งได้ดำเนินการตรวจสอบ เรื่อง สถานะคนต่างด้าว เป็นมาตรฐานในการดำเนินงานมาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่อยู่ในอำนาจของ กทช.ก็ตาม นอกจากนี้ ต้องเน้นย้ำให้เห็นชัดเจนว่า ตามสัญญาสัมปทาน นั้น ได้กำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นกลไกกำกับดูแลโดยตรงอยู่แล้ว โดยมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน รวมถึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามและกำกับการดำเนินงาน ตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ด้วย
1.5 ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นบริษัทฯ ไม่ได้แจ้ง กทช. เนื่องจากไม่ได้อยู่ในขอบข่ายงานและเกินอำนาจหน้าที่ของ กทช.แต่รายงานคณะรัฐมนตรีและกระทรวง ICT เท่านั้น และในข้อเท็จจริง สำนักงาน กทช. เมื่อได้ทราบข่าวเรื่องนี้จากสื่อมวลชนก็ได้ดำเนินการติดตามสอบถามจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงด้วย
2. เห็นชอบให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้งสำนักงานอัยการสูงสุด ในการมอบอำนาจให้ดำเนินการในคดีนี้แทน กทช. และสำนักงาน กทช. รวมทั้งในส่วนของ กทช. มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ หรือกทช.เศรษฐพรฯ หรือพลเอกชูชาติฯ ผชช.ด้านกฎหมายเป็นผู้แทน กทช. ในการชี้แจง/ให้การต่อศาล
ระเบียบวาระที่ 6.6  :  บริษัท วิน วิน เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม : ปก.
มติที่ประชุม  อนุญาตให้ บริษัท วิน วิน เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด ใช้ความถี่วิทยุ 2.4-2.5 GHz เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ได้รับอนุญาต โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักงาน กทช.กำหนด โดยเฉพาะกรณีการใช้กำลังส่งเกิน 100 mW (E.I.R.P.) บริษัทฯจะต้องจัดส่งแผนการดำเนินการ แผนการลงทุน พร้อมรายละเอียดทางเทคนิคที่กำหนด ให้ กทช.พิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 30วันก่อนดำเนินการได้ในแต่ละพื้นที่เป็นครั้งๆไป
ระเบียบวาระที่ 6.7  :  การเชิญผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้เข้าร่วมการสัมมนาภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กทช. กับ Chalmers University และขออนุมัติค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม    
1. เห็นชอบการเชิญผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรมเรื่อง “Foresight Analysis to Support Policy and Regulation in ICT : Implementation Issue for a National Regulator” ในระหว่างวันที่ 4 – 5 มิถุนายน 2550 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กทช.กับสหภาพยุโรป โดย Chalmers University ตามข้อเสนอของ กทช.สุธรรมฯ
2. อนุมัติค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมฝึกอบรมดังกล่าวเพิ่มเติมในส่วนของผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวนเงิน 76,000 บาท ตามรายละเอียดของรายการค่าใช้จ่ายที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
ระเบียบวาระที่ 6.8  :  กรณีหนังสือพิมพ์ลงข่าว ดีแทค ประกาศถอนฟ้องทีโอที กรณีให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้ ทีโอที ชดใช้ค่าเสียหายกรณีบล็อกสัญญาณเชื่อมต่อเลขหมาย : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม    
1. รับทราบกรณีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 8 พฤษภาคม 2550 ลงข่าว “ดีแทค ประกาศถอนฟ้อง ทีโอที กรณีให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้ ทีโอที ชดเชยค่าเสียหายกรณีบล็อกสัญญาณเชื่อมต่อเลขหมาย” ตามที่ กทช. สุธรรมฯ เสนอ
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือถึง บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นโดยด่วน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ปรากฏตามข่าวหนังสือพิมพ์ดังกล่าวในข้อ 1.ให้กระจ่างชัด เนื่องจากขณะนี้ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ก็ได้ยื่นฟ้อง บมจ.ทีโอที ต่อ กทช.ในกรณีดังกล่าวไว้ด้วยเช่นกัน รวมทั้งให้สำนักงาน กทช. ติดตามสถานการณ์ของเรื่องและรายงานให้ที่ประชุมทราบเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ระเบียบวาระที่ 6.9  :  ขออนุมัติหลักการเกี่ยวกับความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางเทคนิคระหว่าง กทช. กับ สถาบัน ENST : กทช.สุธรรม
มติที่ประชุม  เห็นชอบในหลักการการดำเนินความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กทช. และสถาบัน E’cole Nationale Supe’rieure des Te’le’communications (ENST) แห่งประเทศฝรั่งเศสภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยหลักเกณฑ์ทั่วไปของการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค (Framework Agreement on General Condition of Technical Assistance) และความสัมพันธ์ทั้งด้านการจัดสัมมนา อบรม และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ตามข้อเสนอของ กทช.สุธรรมฯ ทั้งนี้ โดยให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อรับผิดชอบดูแล และประสานงานเกี่ยวกับความตกลงดังกล่าวต่อไป
ระเบียบวาระที่ 6.10  :  การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลการทดลอง/ทดสอบ : กทช.ประสิทธิ์
มติที่ประชุม  เห็นชอบการแต่งตั้งผู้แทนสถาบันการศึกษา และผู้แทนสำนักงาน กทช. รวม 4 ราย เป็นคณะอนุกรรมการประเมินผลการทดลอง/ทดสอบสัญญาณการรบกวนระหว่าง WiMAX กับสถานีฐานของดาวเทียมไทยคม 5 ในย่านความถี่ 3.4 – 3.6 GHz ซึ่งที่ประชุม กทช. ได้มีมติครั้งที่ 10/2550 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2550 อนุญาตให้บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ทำการทดลอง/ทดสอบในเรื่องดังกล่าว ตามข้อเสนอของ กทช. ประสิทธิ์ฯ ทั้งนี้ โดยให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมได้ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ประกอบด้วย

• ผู้แทนสถาบันการศึกษา จำนวน 2 ราย ได้แก่ ศจ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นประธานอนุกรรมการ และ รศ.ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอนุกรรมการ
• ผู้แทนสำนักงาน จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางนุสรา หนาแน่น เป็นอนุกรรมการ และ ดร.พุธชาด แสนศรีมหาชัย เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ

สร้างโดย  -   (24/3/2559 17:53:17)