สรุปมติที่ประชุม กทช. 2/2553

มติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
  ครั้งที่ 2/2553
วันพุธที่  20  มกราคม  2553   เวลา  09.30  น.       
  ณ  ห้องประชุม ชั้น 12  อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
 
 
ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

1. พลเอกชูชาติ                  พรหมพระสิทธิ์                    ประธานกรรมการ
2. นายเหรียญชัย               เรียววิไลสุข                         กรรมการ
3. ศาสตราจารย์ประสิทธิ์      ประพิณมงคลการ                  กรรมการ
4. นายสุชาติ                     สุชาติเวชภูมิ                         กรรมการ
5. ศาสตราจารย์เศรษฐพร     คูศรีพิทักษ์                          กรรมการ
6. รองศาสตราจารย์สุธรรม    อยู่ในธรรม                          กรรมการ
7. นายฐากร                       ตัณฑสิทธิ์                          รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่ง ลทช.
 
ผู้เข้าร่วมประชุม
1.  นายกำธร                     จันทรแสง                  ที่ปรึกษาประธาน กทช.
2. นายทศพร                     เกตุอดิศร                  รองเลขาธิการ
3.  นายพิทยาพล                จันทนะสาโร              รองเลขาธิการ / ร/ก ผู้อำนวยการสถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่าย                                                                       โทรคมนาคม 
4.  นายประเสริฐ                 อภิปุญญา                 รองเลขาธิการ  (เข้าร่วมประชุมเวลา 14.00 - 16.00 น.)
5.  ดร.สุพจน์                      เธียรวุฒิ                   ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
6.  นายประวิทย์                  ลี่สถาพรวงศา            ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
 
 ระเบียบวาระที่   1    :   เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
 
1. ถ้ายังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง กทช. ท่านใหม่ กทช. ก็คงจะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งหากเนิ่นนานไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสำนักงาน กทช. อาจจะเกิดความเสียหายได้ ขอให้สำนักงานฯ ไปทบทวนว่ามีอะไรบ้างที่จะต้องดำเนินการ  ในระหว่างที่ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ กทช. ก็ยังยืนยันตามมติ กทช. เดิม ว่าจะไม่พิจารณาเรื่องที่จะผูกพันกับ กทช. ชุดใหม่ รวมทั้งนโยบายต่างๆ  แต่จะพิจารณาเฉพาะงานประจำ 
2. ในช่วงเวลาที่มีอยู่ 2-3 เดือน สิ่งที่สำนักงาน กทช. ยังดำเนินการ  ค้างอยู่ไม่ว่าจะเป็นระเบียบที่ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว และสำนักงานฯ  ยังไม่ได้นำเสนอ ให้เร่งนำเสนอ ที่ประชุม กทช. พิจารณา ไม่ควรคิดทำสิ่งใหม่แต่จะต้องดำเนินการในเรื่องที่  ค้างคาอยู่ให้เรียบร้อย ก่อนที่ กทช. 3 ท่าน หรือทั้งหมดจะพ้นจากตำแหน่ง  แม้แต่เรื่องการคัดเลือกผู้อำนวยการสถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม จะมีการคัดสรรหรือไม่ เพราะพนักงานที่ไปปฏิบัติงานที่สถาบันฯ โอกาสที่จะก้าวหน้าก็ไม่มีความชัดเจน ซึ่งรักษาการ ผอ.สชท. ก็ได้รายงานและมีปรารภอยู่เสมอว่าควรจะมีความชัดเจน รวมทั้งเรื่องการคัดสรร รทช. จะดำเนินการหรือไม่ การก่อสร้างอาคารใหม่ของ สำนักงาน กทช. หลายๆเรื่องเป็นเรื่องของสำนักงานฯทั้งสิ้น ขอให้เร่งนำเสนอ กทช.พิจารณา  แต่ กทช. จะเห็นด้วยหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
3. เรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ  ขอให้ดำเนินการตามมติ กทช.   เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 กรณี กทช. ก็จะรับทราบ สำหรับพนักงานสำนักงานฯ ที่ร่วมในคณะก็ต้องไปขออนุมัติจากสำนักงานฯ ให้เรียบร้อย การที่ประธาน กทช. สั่งการว่า ทราบ จะถือว่าอนุมัติ   ไม่ถูกต้อง ขอให้สำนักงานตรวจสอบมติให้ถูกต้อง ซึ่งในการเดินทางไปต่างประเทศ หากมีความจำเป็นก็เดินทางไปได้ แต่อะไรที่ไม่จำเป็นก็ขอให้พิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะ การเดินทางไปต่างประเทศของบุคคลภายนอกต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะบุคคลที่สำนักงานฯเชิญมาช่วยงาน ก็เป็นบุคคลที่มีความรู้ ไม่ควรต้องไปอบรมแล้ว และ สตง. ก็ยังตรวจสอบอยู่  ดังนั้น ในปี 2553 ขอร้องและช่วยกันพิจารณาให้รอบคอบ
4. เรื่อง KPI ต้องขอขอบคุณ กทช.เศรษฐพรฯ  กทช.ประสิทธิ์ฯ  กทช.เหรียญชัยฯ และ กทช.สุธรรมฯ ที่กรุณาไปให้แนวทาง และ นโยบายกับ สำนักงาน กทช. ในการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPI) ระดับสำนักงาน กทช. ที่จัดขึ้น ณ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  เมื่อวันที่ 15-17 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งผมต้องการให้มี KPI เกิดขึ้น มิฉะนั้นแล้ว การประเมินก็ไม่สามารถดำเนินการได้ สำหรับลูกจ้างของสำนักงาน กทช.ขอให้มีการประเมินผล เนื่องจากขณะนี้สำนักงานฯมีลูกจ้างจำนวนมาก บางแห่งล้นงาน บางแห่งไม่เพียงพอ ผมได้ขอให้สำนักทรัพยากรบุคคล ไปพิจารณาความจำเป็นในการจ้างลูกจ้าง และมีการประเมินผลอย่างจริงจัง ซึ่งหากลูกจ้างปฏิบัติงานไม่ดีก็ให้แจ้งล่วงหน้าว่าจะพ้นจากการเป็นลูกจ้าง สำหรับลูกจ้างที่ปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลา 4-5 ปี ที่ตั้งใจทำงานก็ต้องพิจารณาหาทางเรื่องการปรับเงินเดือนและโอกาสในการบรรจุเป็นพนักงานสำนักงาน กทช. 
                      
มติที่ประชุม            รับทราบตามที่ประธานแจ้ง และมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   2    :   เรื่องรับรองรายงานการประชุม กทช.  ครั้งที่ 1/2553 วันพุธที่  6  มกราคม  2553
 
มติที่ประชุม               รับรองรายงานการประชุม กทช.  ครั้งที่ 1/2553  วันพุธที่  6  มกราคม  2553  ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   3    :   รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช. ครั้งที่ 1/2553 วันพุธที่  6  มกราคม  2553

มติที่ประชุม              
1.  รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กทช.  ครั้งที่ 1/2553  วันพุธที่  6  มกราคม  2553 ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กทช. ประมวลสรุปข้อมูลงานของแต่ละสายงานที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เพื่อนำเสนอที่ประชุม กทช. ได้รับทราบในภาพรวมการปฏิบัติงานของสำนักงาน กทช. ด้วย
 
ระเบียบวาระที่    4     :  เรื่องเพื่อพิจารณา   
ระเบียบวาระที่    4.1  :  โครงการวิจัยและพัฒนาระบบเฝ้าตรวจระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell System) ที่ใช้ในงานบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) : กทช.ประสิทธิ์ฯ

 
มติที่ประชุม              
1. รับทราบข้อเสนอโครงการวิจัยและใช้พัฒนาระบบเฝ้าตรวจระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell System) ที่ในงานบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ของศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลัง (CEPT) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามที่ กทช.ประสิทธิ์ฯ เสนอ
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. จัดส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ พิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ และแหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ อาทิ การใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบกลาง เงินกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ แหล่งเงินงบประมาณของสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และนำเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กทช. เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เนื่องจาก กทช.ได้อนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ไปแล้ว 
3. สำหรับในการดำเนินงานโครงการดังกล่าว มอบหมายให้สำนักงาน กทช.ไปพิจารณาเตรียมการในเรื่องการบริหารจัดการให้ชัดเจน อาทิ หน่วยงานใดของสำนักงาน กทช.จะเป็นเจ้าของเรื่องรับผิดชอบดำเนินการ รวมทั้งในการดำเนินงานโครงการ อาจเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงาน กทช.และ บมจ.ทีโอที ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุผลตามวัตถุประสงค์
4. เห็นชอบเป็นหลักการให้สำนักงาน กทช.ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติต่อไปสำหรับกรณีการเสนอเรื่องขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินงานโครงการต่างๆ นั้น ให้สำนักงาน กทช.ไปพิจารณาดำเนินการผ่านตามกระบวนการขั้นตอนการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ และแหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการโดยคณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ ให้ชัดเจน และครบถ้วนก่อน แล้วจึงนำเสนอ กทช.พิจารณา
          
ระเบียบวาระที่   4.2   :   การศึกษาและเสนอแนะหลักเกณฑ์มาตรฐานและคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมทางข้อมูล และวีดีโอสำหรับงบประมาณปี 2553 : กทช.ประสิทธิ์ฯ, กจ., วท. 
 
มติที่ประชุม                
1. รับทราบเรื่อง การจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาและเสนอแนะหลักเกณฑ์มาตรฐานและคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมทางข้อมูล สำหรับงบประมาณ ปี 2553 ตามที่ กทช.ประสิทธิ์ฯ เสนอ
2. มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. จัดส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ พิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ และแหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
 
ระเบียบวาระที่   4.8    :   ขออนุมัติโครงการศึกษาเบื้องต้น พระประวัติ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน  ขณะประทับที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่าง พ.ศ.2475 - 2479 และอนุมัติการเดินทางของคณะผู้ศึกษาโครงการ : กทช.สุธรรมฯ, พต.
 
มติที่ประชุม                
1.   อนุมัติโครงการศึกษาเบื้องต้นพระประวัติ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ขณะประทับที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่าง พ.ศ.2475 - 2479  โดยมีค่าใช้จ่าย 700,000 บาท  ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณปี 2553 หมวดค่าใช้จ่ายในการจัดการและบริหารองค์กรของ กทช. จำนวน 546,000 บาท และรายการค่าใช้จ่ายอื่นของสำนักงาน กทช. จำนวน 154,000 บาท ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. อนุมัติให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นคณะทำงานจำนวน 8 คน เดินทางเพื่อไปปฏิบัติงานต่างประเทศตามโครงการดังกล่าว ณ ประเทศสิงคโปร์ ประกอบด้วย คณะที่ปรึกษาจากราชสกุลฉัตรชัย 2 คน คือ ม.ล.อภิชิต วุฒิชัย และ ม.ล.เทพฉัตร สวัสดิวัตน์ คณะผู้ร่วมศึกษา จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นางสาวกรรณิกา ชีวภักดี (หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ และ   หอจดหมายเหตุ) นางสาวสุวรรณี อินทร์แหยม (นักบรรณารักษ์) และนางสาวอัจฉรา สำเภาเงิน (นักประชาสัมพันธ์) จากกรมประชาสัมพันธ์ และนางสาวนันทกา พลชัย (นักจดหมายเหตุระดับชำนาญการพิเศษ) นางสาวกรพินธุ์ ทวีตา (นักจดหมายเหตุระดับชำนาญการ) และนางสาวศิริรักษ์ สุขพูล (นักจดหมายเหตุ) จากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สำหรับในส่วนของคณะทำงานซึ่งเป็นพนักงานสำนักงาน กทช. จำนวน 2 คน จากสำนัก พต. ได้แก่ นางสาววีระวรรณ พิบูลย์ ผู้บริหารระดับต้น (หัวหน้าโครงการ) และนางสาวเขมัจฉรา ภวมนตรี พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง ให้ ลทช. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติตามระเบียบและมติหลักการที่เกี่ยวข้องต่อไป
                                 ทั้งนี้ โดยเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักงาน กทช. ตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
3. มอบหมายให้ กทช.สุธรรมฯ รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุม เพื่อเป็นแนวทางประกอบการดำเนินงานเรื่องนี้ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นต่อไป อาทิ การศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทและคุณูปการของท่านพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินที่มีต่อกิจการด้านการสื่อสารของทหาร รวมทั้งการพิจารณาความเหมาะสมในการจัดสร้างอนุสาวรีย์พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ในโอกาสต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.9   :   โครงการรำลึกการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 100 ปี  : กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม              
1. รับทราบเรื่อง โครงการรำลึกการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 100 ปี ตามที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ 
2. มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. จัดส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ พิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดของงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงการ และแหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
 
ระเบียบวาระที่    4.10  :    การแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 : รทช.ฐากรฯ, กม.
 
มติที่ประชุม               เนื่องจากเรื่อง การแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 นี้ ได้มีการดำเนินการการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมดังกล่าว อยู่ในร่างกฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในขณะนี้แล้ว แต่ไม่ทราบว่าครอบคลุมอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับ กทช. ทั้งหมดหรือไม่ เพราะอำนาจหน้าที่ที่ยังมิได้ รวมอยู่ใน พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นฯ พ.ศ. 2543 คงเหลืออยู่ 2 เรื่องสำคัญคือ  การออกใบอนุญาตมีใช้ ,ทำ ,ค้า,ตั้งสถานี ,นำเข้า ,นำออก เครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ รวมทั้ง ใบอนุญาตพนักงานวิทยุสมัครเล่น และใบอนุญาตพนักงานวิทยุประจำเรือ เท่านั้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับเรื่องนี้ไปวิเคราะห์จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้ชัดเจน และสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในประเด็นต่างๆ แล้วนำเสนอที่ประชุมพิจารณาต่อไป อาทิ 1) ข้อมูลภาพรวมภายหลังการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 แล้ว ผลจะเป็นอย่างไร และจะสามารถใช้บังคับในเรื่องใดได้อยู่อีกบ้าง เช่น การออกใบอนุญาตให้แก่พนักงานวิทยุสมัครเล่น และพนักงานวิทยุประจำเรือ และใบอนุญาตต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น 2) การพิจารณาความเหมาะสมในการยกเว้น หรือไม่ยกเว้นกรณีหน่วยงานราชการไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ รวมถึงข้อมูลสถานะการยกเว้นในภาพรวมว่าขณะนี้มีหน่วยงานใดบ้าง เป็นต้น
 
ระเบียบวาระที่   4.11    :   การขอให้มีคำสั่งให้ บมจ. ทีโอที เข้าทำสัญญาการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น : รทช.ฐากรฯ, กม.
 
มติที่ประชุม               ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า กรณีนี้เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง กทช. ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองของเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 (มาตรา 56,57,58 และ 63) และโดยที่ ลทช.ไม่มีอำนาจในการออกคำสั่งตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ที่ประชุมจึงมีมติให้เลขาธิการ กทช. ไปดำเนินการบังคับทางปกครองตามกฎหมายในฐานะเจ้าหน้าที่ Law Enforcement  โดยแจ้งให้ บมจ.ทีโอที ปฏิบัติตามคำชี้ขาดข้อพิพาทที่ 4/2551 โดยการเข้าทำสัญญาการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมกับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส  คอมมูนิเคชั่น ตามคำร้อง บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2543 และตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง (ฉบับที่ 8) ออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ข้อ 3 ทั้งนี้โดยให้ดำเนินการออกคำบังคับทางปกครอง ภายใน 15 วัน
 
ระเบียบวาระที่   4.12   :   การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทการขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ : รทช.ฐากรฯ, กม.
 
มติที่ประชุม              มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมไปวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมในเชิงปริมาณ(ตัวเลข)ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบกิจการรายย่อยไม่อาจแข่งขันในตลาดได้จึงควรต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อกำหนดมาตรการสนับสนุนส่งเสริมรายย่อยโดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง Price squeeze รวมทั้งการทดสอบ Market Relevancy ด้วย SSNIP TEST แล้วให้นำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยมอบหมายให้ พต. เข้าร่วมชี้แจงด้วย ทั้งนี้  เนื่องจากการที่บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด  ตั้งราคาขายส่งบริการไปยังผู้ขายต่อบริการ (บริษัท ทรู ดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) ในอัตราที่ใกล้เคียงกับราคาขายปลีกของตน หาก บริษัท ทรู ดิจิตอล เอ็นเตอร์เทน เม้นท์ จำกัด นำราคาดังกล่าวขายต่อให้กับผู้ค้าปลีกรายอื่น จะนำมาซึ่งภาระต้นทุนที่สูง และไม่อาจแข่งขันได้กับราคาของ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด
 
ระเบียบวาระที่   4.13   :   การทำคำชี้ขาดข้อพิพาทการเชื่อมต่อโครงข่ายของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) : รทช.ฐากรฯ, กม., ศฐ., สชท.
 
มติที่ประชุม              
1. รับทราบรายงานผลข้อเท็จจริงการประมาณการการชำระค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อประกอบการพิจารณาและมีคำชี้ขาดข้อพิพาทการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช.รับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปวิเคราะห์จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาเพื่อตัดสินใจได้อย่างรอบคอบในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่สำคัญได้แก่
2.1 จัดทำตารางข้อมูลแต่ละทางเลือกเปรียบเทียบความเห็นของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งความเห็นของสำนักงาน กทช. ความเห็นกรรมการกลั่นกรอง และความเห็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายในข้อพิจารณาเกี่ยวกับวันที่คู่กรณีมีสิทธิเรียกเก็บค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมระหว่างกัน
2.2 จัดทำข้อมูลหลักการและเหตุผลในแต่ละทางเลือกตามที่เสนอมา (9 ทางเลือก) ให้ชัดเจนและครบถ้วนประกอบการพิจารณาด้วย
 
ระเบียบวาระที่   4.14    :   โครงการความร่วมมือจัดตั้งศูนย์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ  :  คณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณ
 
 
มติที่ประชุม               เห็นชอบให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาวิเคราะห์มูลค่างบประมาณฯ ที่เสนอต่อไป โดยให้ศึกษา และวิเคราะห์แนวทางการดำเนินงานของโครงการนี้อย่างละเอียดรอบคอบก่อน และสมควรนำผลแจ้งตอบข้อหารือจากคณะอนุกรรมการกฎหมาย และระเบียบของคณะกรรมการตรวจสอบภายใน ตามรายละเอียดที่ได้เสนอเป็นความเห็นไว้มาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ โดยให้ตั้งงบประมาณประจำปี 2553  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาและวิเคราะห์โครงการนี้ และนำมาจัดทำแผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายเงินที่รอบคอบและชัดเจน จำนวน 5,000,000 บาท  ซึ่งหากผลการศึกษา และวิเคราะห์ดังกล่าวสำเร็จ และสามารถเริ่มดำเนินโครงการความร่วมมือจัดตั้งศูนย์รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน กทช. นี้ได้ทันภายในปีงบประมาณ 2553 แล้ว ค่าใช้จ่ายโครงการดังกล่าวก็สามารถใช้จ่ายจากงบประมาณปี 2553 รายการเงินงบกลางสำรองจ่ายที่ตั้งไว้แล้วเป็นเงิน 180 ล้านบาท ได้เท่าที่จำเป็น
 
ระเบียบวาระที่   4.15   :   ขอความอนุเคราะห์ภาษีเงินได้แก่ผู้ร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดปีงบประมาณ 2553 : สำนักงาน กทช.
 
มติที่ประชุม                 มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับเรื่องขอความอนุเคราะห์ภาษีเงินได้แก่  ผู้ร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดปีงบประมาณ 2553 ไปพิจารณาในรายละเอียด และตรวจสอบระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งภายใน 15 วัน 
 
ระเบียบวาระที่   4.17  :   การจัดจ้างที่ปรึกษาดำเนินการโครงการศึกษาเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีการจัดทำรายงานบัญชีแยกประเภทบริการ (Accounting Separation) ของผู้ประกอบการ : รทช.พิทยาพลฯ , ศฐ.
 
มติที่ประชุม                เนื่องจากโครงการศึกษาเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีการ จัดทำรายงานบัญชี แยกประเภทบริการ (Accounting Separation) ของผู้ประกอบการ เป็นโครงการซึ่งได้รับการจัดตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ 2552 และไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีดังกล่าว และในปีงบประมาณ 2553 ยังคงตั้งงบประมาณสำหรับโครงการนี้ต่อเนื่อง ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน กทช. กลับไปตรวจสอบความชัดเจนของโครงการทั้งหมด เช่น วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ วงเงินงบประมาณที่ได้การจัดสรรในแต่ละปีงบประมาณ ซึ่งหากจะเป็นการขอปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณรวมทั้งโครงการ ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าโครงการพิจารณาความเหมาะสมก่อน และให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุม กทช. ไปดำเนินการ และให้สำนักงาน กทช. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.18   :   การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบและแต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินงาน      โครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติฯ เพิ่มเติม : รทช.พิทยาพลฯ, ทถ.
 
มติที่ประชุม              
1. อนุมัติให้ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบคณะกรรมการดำเนินงานโครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติฯ รวม 3 ราย ตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เสนอ ดังนี้
1)  รศ.ดร.สมเจตน์ ภูศรี  อธิการบดี เป็น ประธานกรรมการร่วม
2)  นายสมาน ศรีสะอาด รองอธิการบดี เป็น กรรมการ
3)  ผศ.พิสุทธา อารีราษฎร์  ผู้อำนวยการโครงการศูนย์ทางไกล เป็น กรรมการและเลขานุการร่วม
4) ปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการจากเดิมที่ระบุชื่อ เปลี่ยนเป็นระบุตำแหน่ง
5) ให้แต่งตั้ง นายพีระเชฏฐ์ พงษ์ศิริ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เพิ่มเติม ในคณะกรรมการดังกล่าวข้างต้น
                                    ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. นำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน      โครงการศูนย์ทางไกลเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติฯ เสนอประธาน กทช. เพื่อลงนามโดยด่วนต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.19  :   การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบและเพิ่มเติมคณะกรรมการดำเนินงาน     โครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท  เฉลิมพระเกียรติฯ  : รทช.พิทยาพลฯ, คณะกรรมการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลฯ
 
มติที่ประชุม                อนุมัติให้ปรับเปลี่ยนองค์ประกอบและเพิ่มเติมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท เฉลิมพระเกียรติฯ ตามที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กทช. นำร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท เฉลิมพระเกียรติฯ เสนอประธาน กทช. เพื่อลงนามโดยด่วนต่อไป
 
ระเบียบวาระที่    4.20   :   บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขอรับจัดสรรเลขหมาย ปฐมภูมิเพิ่มเติม  : รทช.ประเสริฐฯ, กบ. 
 
มติที่ประชุม               ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า โดยที่ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้รับจัดสรรเลขหมายปฐมภูมิ หมายเลข 1750 ไว้แล้ว กอปรกับเลขหมาย โทรคมนาคมพิเศษมีจำนวนจำกัด ตามข้อ 7 ของประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ. 2551 จึงจำเป็นต้องสงวนเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษเพื่อให้เพียงพอ อีกทั้งกรณีการขอเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษเพิ่มเพื่อต้องการรองรับลูกค้าและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ นั้นเป็นกรณีการบริหารจัดการภายในธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งหาก Capacity ไม่เพียงพอ ก็สามารถร้องขอต่อผู้ให้บริการเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษได้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติไม่อนุมัติการจัดสรรเลขหมายปฐมภูมิเพิ่มเติมของ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดสรรเลขหมายโทรคมนาคม
 
ระเบียบวาระที่   4.21    :   การรับคืนเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษที่ บมจ. ทีโอที จัดสรรให้ส่วนงานราชการ  รัฐวิสาหกิจและเอกชน  : รทช.ประเสริฐฯ, กบ.
 
มติที่ประชุม            
1. อนุมัติการรับคืนเลขหมายโทรคมนาคมพิเศษที่ บมจ.ทีโอที จัดสรรให้ส่วนงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จำนวน 279 หมายเลข แยกเป็น ส่วนราชการ เนื่องจากมิได้ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ จำนวน 142 หมายเลข รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนใช้งาน จำนวน 137 หมายเลข ทั้งนี้  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2551 ตามที่ สำนักงาน กทช. เสนอ 
2. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการเร่งรัดติดตามกรณีของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ยังไม่ได้แจ้งยืนยันการใช้เลขหมายโทรคมนาคมพิเศษ โดยให้มีหนังสือ แจ้งคำสั่งทางปกครอง พร้อมแจ้งสิทธิ ให้หน่วยงานดังกล่าวทราบและแจ้งยืนยันให้สำนักงาน กทช. ทราบภายใน 15 วัน มิฉะนั้นจะสูญเสียสิทธิ
 
ระเบียบวาระที่   4.22    :  รายงานผลการศึกษากระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตจาก IPv4  เป็น IPv6  เพิ่มเติม  : รทช.ประเสริฐฯ, กบ.
 
มติที่ประชุม              
1.  รับทราบรายงานผลการศึกษาเรื่องการศึกษากระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตจาก IPv4 เป็น IPv6 ของที่ปรึกษาโครงการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ตามที่ สำนักงาน กทช.เสนอ
2.  มอบหมายให้ สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมในประเด็นต่างๆไปศึกษาข้อมูล และดำเนินการจัดทำรายละเอียดนำเสนอที่ประชุม กทช.  พิจารณาภายใน 2 เดือน ดังนี้
2.1  ตรวจสอบเรื่องการเข้าร่วมเป็น สมาชิก Asia Pacific Network Information Center (APNIC) จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนหรือไม่ และการสมัครสมาชิกทั้ง 7 ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียอย่างไร 
2.2  ให้ตรวจสอบประเด็นด้านกฎหมาย  เรื่องการจัดตั้ง National Internet Registry (NIR)  ว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมายใด และขอบเขตการดำเนินการเป็นอย่างไร โดยให้จัดทำรายละเอียดที่ชัดเจน
 
ระเบียบวาระที่   4.23   :   แต่งตั้งคณะกรรมการบริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ : รทช.ประเสริฐฯ, กบ.
 
มติที่ประชุม                อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการบริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยให้มีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ตามที่ สำนักงาน กทช. เสนอ  ทั้งนี้ ให้มีระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี และให้สำนักงาน กทช. นำร่างคำสั่งเสนอประธาน กทช. เพื่อลงนามโดยเร็วต่อไป
  
ระเบียบวาระที่   4.24    :   การนำส่งรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่  1900 MHz ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (วาระต่อเนื่อง) : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม               ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การนำส่งรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ให้กระทรวงการคลังเป็นไปด้วยความรอบคอบและถูกต้อง จึงมอบหมายให้ สำนักงาน กทช. ส่งเรื่องให้สำนักงานกองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมฯ พิจารณาเสนอความเห็น เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนฯ และสัดส่วนที่กองทุนพัฒนากิจการโทรคมนาคมฯ ควรจะได้รับ เมื่อมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่  1900 MHz ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการงาน ตามอำนาจหน้าที่ แล้วให้สำนักงาน กทช. ประมวลสรุปเสนอที่ประชุมพิจารณาต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.25   :   บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ขอคืนค่าธรรมเนียมรายปี ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สอง ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง ของบริษัท บีเอ็มซีแอล เน็ทเวิร์ค จำกัด : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม               ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติให้คืนเงินค่าธรรมเนียมรายปีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สอง ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง ของบริษัท บีเอ็มซีแอล เน็ทเวิร์ค จำกัด ที่เหลือภายหลังจากการยกเลิกใบอนุญาต (วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552) ตามที่บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ร้องขอ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า บริษัท บีเอ็มซีแอล เน็ทเวิร์ค จำกัด มิได้มีการมอบอำนาจให้ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ประกอบกับเงื่อนไขการอนุญาตฯ ได้กำหนดไว้ว่าบรรดาความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการสิ้นสุดการอนุญาตให้ตกเป็นพับแก่ผู้รับใบอนุญาต ดังนั้น บริษัท บีเอ็มซีแอล เน็ทเวิร์ค จำกัด จึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการสิ้นสุดการอนุญาต โดยรวมถึงการชำระค่าธรรมเนียมรายปี ที่ได้ชำระให้แก่สำนักงาน กทช. ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   4.26    :   การยื่นขอรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง บริการขายต่ออินเทอร์เน็ต ของ บริษัท ลีโอ เทคโนโลยี แอนด์ มาร์เกตติ้ง จำกัด : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.

 
มติที่ประชุม               อนุมัติให้บริษัท ลีโอ เทคโนโลยี แอนด์ มาร์เกตติ้ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่หนึ่ง บริการขายต่ออินเทอร์เน็ต ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ทั้งนี้ ให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าต้องไม่ใช่การให้บริการ Broadcasting ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับอื่นที่กทช. ไม่มีอำนาจโดยตรง
 
ระเบียบวาระที่   4.27    :   การขอขยายระยะเวลาการใช้ความถี่วิทยุย่าน 2.5 GHz ในโครงการนำร่องฯ ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม            
1. อนุญาตให้สำนักงาน กทช. โดยมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ขยายระยะเวลาการใช้ความถี่วิทยุย่าน 2.5 GHz (2500 – 2520 MHz) ในการดำเนินโครงการนำร่องการนำเทคโนโลยี WiMAX มาใช้เพื่อสร้างช่องทางสื่อสารแบบใหม่ระหว่างศูนย์กลางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกับสถานบริการรับ – ส่งปลายทาง ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 โดยกำหนดเงื่อนไข ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบให้สำนักงาน กทช. ประสานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันแก้ไขรายละเอียดในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการดำเนินการ “โครงการนำร่องการนำเทคโนโลยี WiMAX มาใช้เพื่อสร้างช่องทางสื่อสารแบบใหม่ระหว่างศูนย์กลางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกับสถานบริการรับ – ส่งปลายทาง” ในประเด็นต่างๆ อาทิ ระยะเวลาของโครงการ  และกิจกรรมการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้มีความสอดคล้องตามที่ได้รับอนุญาต
 
ระเบียบวาระที่   4.28    :   การขออนุญาตใช้ความถี่ย่าน 2.5 GHz ในโครงการพัฒนาระบบต้นแบบ และสร้างกำลังคนด้านเครือข่ายไร้สาย ของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม              
1. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับ สำนักงาน กทช. เพื่อร่วมใช้ความถี่วิทยุย่าน 2.5 GHz ในโครงการพัฒนาระบบต้นแบบและสร้างกำลังคนด้านเครือข่ายไร้สาย (Wireless Network Prototype and Man Power Development) ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ สำนักงาน กทช. ใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 2.5 GHz (2500 – 2520 MHz) ในโครงการพัฒนาระบบต้นแบบและสร้างกำลังคนด้านเครือข่ายไร้สาย โดยกำหนดเงื่อนไขตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ 
3. เห็นชอบให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมในหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาต การใช้ความถี่วิทยุกิจการ Broadband Wireless Access (BWA) โดยห้ามนำคลื่นความถี่ดังกล่าวไปให้บริการด้าน Broadcasting
 
ระเบียบวาระที่   4.30  :   (ร่าง) แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ : คณะกรรมการกำกับการจ้างที่ปรึกษา, วท.
 
มติที่ประชุม               เห็นชอบแผนการฝึกอบรม “(ร่าง) แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่” และค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ซึ่งภายใต้กรอบวงเงินตามสัญญาเดิม จำนวน 380,000 บาท ตามที่คณะกรรมการกำกับการจ้างที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ เสนอ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงสัญญาให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.33   :  การขอความเห็นชอบร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ ระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอทิสาลัลดีบี เทเลคอม ไพรเวท ลิมิเต็ด (Etisalat) ประเทศอินเดีย : รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม              
1. เนื่องจาก กทช.เป็นองค์กรในเชิงปกครอง ใช้อำนาจทางปกครองมิใช่อำนาจทางศาล ไม่อาจยกเว้นเขตอำนาจศาลได้ ดังนั้น จึงยืนยันมติที่ประชุม ครั้งที่ 35/2551 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 โดยให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไทยทุกรายที่ทำสัญญากับรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศหรือบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศใช้ศาลไทยและกฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับสัญญาตามที่ สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ ระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอทิสาลัลดีบี เทเลคอม ไพรเวท ลิมิเต็ด (Etisalat) ประเทศอินเดีย โดยให้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเจรจากับคู่สัญญาเกี่ยวกับเงื่อนไขข้อ 20 เพื่อให้ใช้กฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับกับสัญญา โดยใช้ข้อความว่า “การดำเนินการใดที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมของประเทศไทยบัญญัติในลักษณะบังคับให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมจะต้องปฏิบัติในการดำเนินการนั้น คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าวด้วย” ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
3. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้ง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อทราบมติที่ประชุมตามข้อ 2 และให้บริษัทจัดส่งสัญญาดังกล่าวให้สำนักงาน กทช. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 54 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ประกอบข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่อง การขอความเห็นชอบสัญญาอันเกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ทำกับรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศหรือบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ พ.ศ. 2549
 
ระเบียบวาระที่   4.34    :   การขอความเห็นชอบร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท คูเวต เทเลคอม ประเทศ คูเวต และบริษัท Nizhegorodskaya เซลลูล่า คอมมูนิเคชั่น ประเทศรัสเซีย ในประเด็นการยืนยันตีความร่างสัญญาให้ใช้กฎหมายไทย  หรือหลัก Conflict of law ตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะเรื่อง Locus regit actum : รทช.ฐากร, กม.
 
มติที่ประชุม                
1. เนื่องจาก กทช.เป็นองค์กรในเชิงปกครอง ใช้อำนาจทางปกครองมิใช่อำนาจทางศาล ไม่อาจยกเว้นเขตอำนาจศาลได้ ดังนั้น จึงยืนยันมติที่ประชุม ครั้งที่ 35/2551 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 โดยให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไทยทุกรายที่ทำสัญญากับรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศหรือบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศใช้ศาลไทยและกฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับสัญญาตามที่ สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบร่างสัญญาให้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ (International Roaming Agreement) ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท คูเวต เทเลคอม ประเทศ คูเวต และบริษัท Nizhegorodskaya เซลลูล่า คอมมูนิเคชั่น ประเทศรัสเซีย โดยให้บริษัทดำเนินการเจรจากับคู่สัญญาเกี่ยวกับเงื่อนไขข้อ 20 เพื่อให้ใช้กฎหมายไทยเป็นกฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับกับสัญญา โดยใช้ข้อความว่า “การดำเนินการใดที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมของประเทศไทยบัญญัติในลักษณะบังคับให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมจะต้องปฏิบัติในการดำเนินการนั้น คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าวด้วย” ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ 
3. มอบหมายให้สำนักงาน กทช. มีหนังสือแจ้ง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส   คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อทราบมติที่ประชุมตามข้อ 2 และให้บริษัทฯ จัดส่งสัญญาดังกล่าวให้สำนักงาน กทช. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 54 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ประกอบข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่อง การขอความเห็นชอบสัญญาอันเกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ทำกับรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศหรือบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ พ.ศ. 2549
 
ระเบียบวาระที่   4.37   :   การจ้างผู้เชี่ยวชาญประจำ กทช. (นายโอภาสฯ, นายวิบูลย์ฯ, นายสุวัฒน์ฯ, นายสามารถฯ) : รทช.ฐากรฯ, บค.
 

มติที่ประชุม              
1.  รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้เชี่ยวชาญประจำ กทช. จำ นวน 4 ราย ประกอบด้วย นายวิบูลย์ ศรีสุวรรณธัช , นายโอภาส เสวิกุล , นายสุวัฒน์ จิตรถเวช และ นายสามารถ รัตนประทีปพร ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
2. เห็นชอบให้สำนักงาน กทช.ดำเนินการต่อสัญญาจ้าง นายวิบูลย์  ศรีสุวรรณธัช และ นายโอภาส เสวิกุล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ประจำ กทช. ต่อไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่สัญญาจ้างเดิมสิ้นสุดลง (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2552) โดยให้ได้รับค่าตอบแทนอัตราเดือนละ 30,000 บาท ตามที่ กทช.สุชาติ เสนอ
3. เห็นชอบให้สำนักงาน กทช. ดำเนินการต่อสัญญาจ้าง นายสามารถ   รัตนประทีปพร และ นายสุวัฒน์ จิตรถเวช เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำ กทช. ต่อไป ต่อไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่สัญญาจ้างเดิมสิ้นสุดลง (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2552) โดยให้ได้รับค่าตอบแทนอัตราเดือนละ 50,000 บาท ตามที่ ประธาน กทช. และ กทช.สุชาติฯ เสนอ ตาม ลำดับ 
                                     ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยการจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญ การเฉพาะด้าน พ.ศ. 2548 โดยให้กำหนดเงื่อนไขในสัญญาจ้างเพิ่มเติม ด้วยว่าให้สัญญาการจ้างดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติผู้เสนอชื่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านประจำ กทช. ท่านนั้นๆ พ้นจากตำแหน่ง
 
ระเบียบวาระที่   4.38    :   การพิจารณาคำขอใช้สิทธิตามประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการใช้สิทธิในการปักหรือตั้งเสา หรือเดินสายวางท่อ หรือติดตั้งอุปกรณ์ประกอบใดในการให้บริการโทรคมนาคม (หรือหลักเกณฑ์สิทธิแห่งทาง) และมาตรา 39 วรรคแรก  ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 :   รทช.พิทยาพลฯ, พต.
 
มติที่ประชุม               เห็นชอบแผนผังการพาดสายสื่อสารโทรคมนาคม กับ เสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 6 ราย (บมจ.ทีโอที บจ.ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค บจ.ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจ้นซ์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส  บมจ.กสท โทรคมนาคม และ บมจ.  ทริปเปิลที บรอดแบนด์) จำนวน 78 คำขอ 477 เส้นทาง 9 ชุมสาย 71 ตู้ผ่าน ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาสิทธิแห่งทาง (กพส.) ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ ซึ่งเป็นการ ขอใช้สิทธิตามประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการใช้สิทธิในการปักหรือตั้งเสา หรือเดินสาย วางท่อ หรือติดตั้งอุปกรณ์ประกอบใดในการให้บริการโทรคมนาคม และมาตรา 39 วรรคแรกของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม  พ.ศ.2544 ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ภายใต้สัญญาร่วมการงานให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า สิทธิที่ได้รับตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ เป็นสิทธิเชิงทรัพย์สิน ซึ่งอาจจะอยู่ภายใต้สัญญาร่วมการงาน ดังนั้น จึงต้องแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตทราบก่อนดำเนินการ และการอนุมัติของ กทช. ไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะขัดหรือแย้งกับสิทธิการร่วมงานดังกล่าว ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบกิจการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กทช.กำหนด โดยเคร่งครัดต่อไป
 
ระเบียบวาระที่   4.39    :   รายงานอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2552 : รทช.พิทยาพลฯ, ศฐ.
 
มติที่ประชุม                 เห็นชอบรายงานอัตราค่าบริการโทรคมนาคมประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2552 เพื่อนำไปเผยแพร่สาธารณได้รับทราบต่อไป ตามที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
หมายเหตุ                    ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาที่เหลือ ได้แก่ วาระที่ 4.3 - 4.7 , 4.16 , 4.29 - 4.32 , 4.35 - 4.36 และ 4.40 - 4.56 จะได้นำเสนอในการประชุม กทช. ครั้งต่อไป
 
 ระเบียบวาระที่    5     :   เรื่องเพื่อทราบ
 
ระเบียบวาระที่    5.1   :   รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมสัมมนา International Regulators Forum และการสัมมนา The International Institute of Communications  40th Annual Conference (IIC) ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม 2552  ณ เมือง Montreal ประเทศแคนาดา : กทช.สุธรรมฯ
 
มติที่ประชุม               รับทราบ รายงานผลการเดินทางไปเป็นวิทยากรและเข้าร่วมสัมมนา International Regulators Forum และการสัมมนา The International Institute of Communications  40th Annual Conference (IIC) ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม 2552  ณ เมือง Montreal ประเทศแคนาดา ตามเอกสารที่ กทช.สุธรรมฯ เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.2   :   คำสั่งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเตรียมการเพื่อเสนอโครงการจัดตั้งสถาบัน Regional Anchor Institute ที่ประเทศไทย (เพิ่มเติม) : รทช.ฐากรฯ, ปต.
 
มติที่ประชุม                รับทราบ คำสั่งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเตรียมการเพื่อเสนอโครงการจัดตั้งสถาบัน Regional Anchor Institute ที่ประเทศไทย (เพิ่มเติม) ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.3   :   รายงานผลงานการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง (Universal Service Obligation : USO) สำหรับกลุ่มเป้าหมายมิติ  เชิงสังคม เสนอ กรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา : รทช.พิยาพลฯ, ทถ.
 
มติที่ประชุม                รับทราบ รายงานผลงานการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง (Universal Service Obligation : USO) สำหรับกลุ่มเป้าหมายมิติเชิงสังคม เสนอ กรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.4   :   การดำเนินการตามแผนการดำเนินงานเรื่องการกำกับดูแลอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2551-2552 ของสำนักงาน กทช. : รทช.พิทยาพลฯ, ศฐ.
 
มติที่ประชุม                
1. รับทราบ การดำเนินการตามแผนการดำเนินงาน ตามประกาศ กทช. เรื่องอัตราขั้นสูงของค่าบริการและการเรียกเก็บเงินค่าบริการล่วงหน้าในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ในส่วนการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าบริการ รวมทั้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการดำเนินงาน เรื่องการกำกับดูแลอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2551-2552 ของสำนักงาน กทช. 
2. รับทราบการตอบข้อคิดเห็นของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส , บจ.ทรู มูฟ และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เกี่ยวกับการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรคมนาคม ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.5   :   บริษัท ทีจีที (2551) จำกัด แจ้งเปลี่ยนชื่อบริษัท : รทช.ประเสริฐฯ, ปก.
 
มติที่ประชุม               รับทราบ การแจ้งเปลี่ยนชื่อของบริษัท ทีจีที (2551) จำกัด  เป็น บริษัท นาโนเนตไฟเบอร์ จำกัด ตามเอกสารที่สำนักงาน กทช. เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.6    :  ข้อเสนอการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) : สชท. 
 
มติที่ประชุม                 รับทราบ ข้อเสนอการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.7    :   สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไฟเบอร์นาโน จำกัด : สชท. 
 
มติที่ประชุม                 รับทราบ สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไฟเบอร์นาโน จำกัด ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
 
ระเบียบวาระที่    5.8   :   สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) : สชท.
 
มติที่ประชุม               รับทราบ สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม (ฉบับแก้ไขครั้งที่ 2) ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ทริปเปิลที  บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กทช.สุธรรมฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุม กทช. ครั้งที่ 41/2551 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 ตามเอกสารที่สถาบันการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม เสนอ
 
ระเบียบวาระที่   5.9   :   รายงานการปฏิบัติการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ : สพท.
 
มติที่ประชุม              รับทราบ รายงานผลการปฏิบัติการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ของผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2552 ซึ่งดำเนินการตามระเบียบ กทช. ว่าด้วยการมอบอำนาจของ ลทช. ให้ปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในสถาบันเฉพาะทาง พ.ศ. 2550 ตามเอกสารที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เสนอ 
 
 
ระเบียบวาระที่   6     :     เรื่องอื่นๆ 
ระเบียบวาระที่   6.1   :    หลักเกณฑ์และรายการค่าใช้จ่ายที่ควรใช้หักลดหย่อนก่อนคำนวณค่าธรรมเนียม USO : รทช.พิทยาพลฯ, ทถ.

 
มติที่ประชุม              
1. อนุมัติหลักเกณฑ์และรายการค่าใช้จ่ายที่ควรใช้หักลดหย่อนก่อนคำนวณค่าธรรมเนียม USO เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินการได้ต่อไป ตามข้อเสนอของสำนักงาน กทช.ในประเด็นดังต่อไปนี้
1.1 ประเด็นที่ 1 : รายการค่าใช้จ่ายบริการโทรคมนาคม ซึ่งผู้รับใบอนุญาตแบบที่สอง ที่มีโครงข่าย และแบบที่สาม สามารถนำมาหักลดจากฐานรายได้ประกอบกิจการก่อนคำนวณค่าธรรมเนียม USO เช่น ค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม ค่าเช่าวงจรสัญญาณสื่อสาร ค่าเช่าโครงข่ายโทรคมนาคม เป็นต้น สำหรับรายการที่ไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ เช่น ค่านายหน้า ค่าใช้จ่ายฝึกอบรม ค่าติดตั้ง/รื้อถอนบริการ เป็นต้น
                             ทั้งนี้ ยกเว้นรายการค่าใช้จ่ายที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งยังไม่มีข้อยุติชัดเจน ได้แก่ ค่าเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกกรณีค่าปักเสาพาดสาย
1.2 ประเด็นที่ 2 : ให้นำรายการค่าใช้จ่ายตามข้อ 10 (1) ของประกาศ USO ที่จ่ายให้ผู้รับใบอนุญาตแบบ 1 และแบบที่ 2 ที่ไม่มีโครงข่าย มาหักลดหย่อนก่อนคำนวณค่าธรรมเนียม USO
2. สำหรับข้อเสนอในประเด็นที่ 3 ได้แก่ กรณีการหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายที่ผู้รับใบอนุญาตแบบที่สองที่มีโครงข่าย และแบบที่สาม จ่ายให้แก่ผู้รับสัมปทาน และประเด็นที่ 4 ได้แก่ กรณีการนำรายได้จากการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคมมาเป็นฐานรายได้ในการคำนวณค่า USO นั้น   มอบหมายให้สำนักงาน กทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปศึกษาข้อมูล และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาทิ ในกรณีที่เป็น Essential Facility จะสมควรนำมาเป็นฐานรายได้ในการคำนวณค่า USO ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาในเรื่องนี้มีความเป็นระบบ (Systematic) มากยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง           
 
ระเบียบวาระที่   6.2    :   การเดินทางเข้าร่วมสัมมนา WINDS Applications 2010 และเจรจาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฮอกไกโด มหาวิทยาลัยวาเซดะ และสถานีโทรทัศน์ฮอกไกโด : รทช.ทศพรฯ, รศ.
 
มติที่ประชุม              
1. อนุมัติให้ ผศ.ดร.สุภาวดี อร่ามวิทย์ กรรมการการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีโทรคมนาคมด้านสาธารณสุขเคลื่อนที่ และกรรมการโครงการ WINDS Applications พนักงานของสำนักงาน กทช. และผู้ช่วยเลขานุการ กทช.ตามรายชื่อที่เสนอ เข้าร่วมในคณะของ กทช.ประสิทธิ์ฯ เพื่อเดินทางไปในการสัมมนา WINDS Applications 2010 และเจรจาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด มหาวิทยาลัยวาเซดะ และสถานีโทรทัศน์  ฮอกไกโด ระหว่างวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ประเทศญี่ปุ่น 
2. เห็นชอบเป็นหลักการให้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการเดินทางไปต่างประเทศ ให้ชัดเจนต่อไปด้วย ดังนี้
2.1   กรณี กทช. เดินทางไปราชการต่างประเทศ 
1)  ให้ กทช. นำเสนอประธาน กทช. ทราบ 
2.2 กรณี กทช. เดินทางไปราชการต่างประเทศ และสั่งพนักงานของสำนักงานฯ, เลขานุการ กทช., ผู้ช่วยเลขานุการ กทช. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงา นประจำ กทช. ร่วมเดินทางไปด้วย 
1)  กทช. รายงานให้ประธาน กทช. ทราบ 
2) พนักงานของสำนักงานฯ , เลขานุการ กทช., ผู้ช่วยเลขานุการ กทช. , เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำ กทช. ให้นำเสนอ ลทช. พิจารณาอนุมัติ
2.3 กรณีบุคคลภายนอกเดินทางไปราชการต่างประเทศ ให้เสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอนุมัติ
2.4 กรณีพนักงานของสำนักงานฯ , เลขานุการ กทช., ผู้ช่วยเลขานุการ กทช., เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำ กทช. เดินทางไปราชการต่างประเทศ และร่วมเดินทางหรือมิได้ร่วมเดินทางไปกับ กทช. ให้นำเสนอเลขาธิการ กทช. เพื่อพิจารณาอนุมัติ
2.5  กรณีนอกเหนือจาก 2.1-2.4 ให้นำเสนอที่ประชุม กทช. พิจารณาอนุมัติ 
 
หมายเหตุ                   กทช.สุธรรมฯ ขอสงวนสิทธิ งดออกเสียง เนื่องจากไม่ได้อยู่ในที่ประชุม

สร้างโดย  -   (17/3/2559 18:34:09)

Download

Page views: 103