ก.แรงงาน เข้ม ! ตรวจคุ้มครองแรงงาน ย้ำ‘ไทยมีมาตรการดูแลสิทธิแรงงาน’

กระทรวงแรงงาน ประสานความร่วมมือ ศปมผ. และ ILO ดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) บูรณาการตรวจเข้มป้องค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เร่งขับเคลื่อนมาตรการตอบสนองนโยบายชาติ ย้ำ‘ไทยมีมาตรการดูแลสิทธิแรงงาน’ พบฝ่าฝืนกฎหมายเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด
    กระทรวงแรงงาน โดยนายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เปิดเผย
ผลการดำเนินงานหลังจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) ในการร่วม
แถลงข่าวผลงานของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้ขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในด้านการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) ดังนี้ มาตรการด้านการคุ้มครอง แก้ไขปัญหา และช่วยเหลือ ได้ดำเนินการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล ปีละ 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558  ซึ่งขณะนี้ได้เปิดจดทะเบียนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 - วันที่ 30 มกราคม 2559  โดยแรงงานต่างด้าวจะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร และไม่มีการจับกุมและส่งกลับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.58) มีแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนทั้งสิ้น 6,397 คน (เมียนมา 3,725 คน ลาว 109 คน กัมพูชา 2,563 คน) เจ้าของเรือ/นายจ้าง จำนวนทั้งสิ้น 2,062 ราย
    ด้านการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล และกรุงเทพมหานคร (4 จุด ครอบคลุม 4 มุมเมือง)  ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 – 22 กุมภาพันธ์ 2559 โดยผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่ประสงค์
จะทำงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำรวมถึงผู้ติดตาม ซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุ ไม่เกิน 15 ปี อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและอนุญาตให้ทำงานเป็นเวลา 1 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.58) มีผลการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว รวมทั้งสิ้น 1,524 คน (เมียนมา 1,093 คน ลาว 41 คน กัมพูชา 390 คน) นายจ้าง 207 ราย
ทั้งนี้ ได้อนุญาตแรงงานในเรือประมง และอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำสามารถเปลี่ยนนายจ้างภายในกลุ่มกิจการเดียวกันได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งและจังหวัด และกำลังพิจารณาให้แรงงานภาคประมงที่ถูกจับกุมได้รับการยกเว้นเมื่อถูกจับกุม โดยให้นายจ้างหรือเจ้าของเรือสามารถประกันตัวแรงงานให้กลับไปทำงานต่อได้
    สำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงแรงงานมีการดำเนินการอย่างก้าวหน้า
ในเรื่องการจัดทำคำนิยาม “แรงงานบังคับ” และ “แรงงานขัดหนี้” และพร้อมจัดทำคู่มือเพื่อให้พนักงานและเจ้าหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายแรงงานและกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้         ได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโดยกำหนดอัตราค่าปรับผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
ในอัตราค่าปรับสูงสุด เช่น กรณีความผิดฐานจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี การจ้างลูกจ้างที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในเรือประมงทะเล และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่ที่ห้ามมิให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ และสถานที่แปรรูปสัตว์ และกำลังปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551          โดยให้เปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานมีการประสานงานและบูรณาการทำงานร่วมกับ ศปมผ. และ ILO เพื่อเร่งรัดการฝึกอบรมหลักสูตรป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์การใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับในทะเล ให้แก่เจ้าพนักงาน     เพื่อตรวจสอบปัญหาการค้ามนุษย์ และแรงงานบังคับในเรือประมง  
นอกจากนี้ได้ร่วมกับชุดตรวจปฏิบัติการในงานประมงทะเลในพื้นที่ 22 จังหวัด
ติดชายฝั่งทะเล ตรวจสถานประกอบกิจการประมงทะเล 1,500 แห่ง มีเรือประมง 1,793 ลำ แรงงานประมง 21,506 คน พบการกระทำความผิด การใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จำนวน  11 คดี ในจำนวนนี้ได้ดำเนินคดีนายจ้าง ฐานจ้างแรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง จำนวน 3 คดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานการค้ามนุษย์ โดยการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 1 คดี และบก.ปคม. จำนวน 2 คดี

สร้างโดย  -   (31/1/2559 17:43:55)

Download

Page views: 22