ผู้เข้าประชุม 
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
1.  พลอากาศเอก ธเรศ           ปุณศรี               ประธานกรรมการ
2.  พันเอก นที                      ศุกลรัตน์            รองประธานกรรมการ
3.  พันเอก เศรษฐพงค์            มะลิสุวรรณ        รองประธานกรรมการ
4.  พลโท ดร.พีระพงษ์            มานะกิจ            กรรมการ
5.  พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์        งามสง่า              กรรมการ
6.  นายประเสริฐ                    ศีลพิพัฒน์          กรรมการ
7.  นายธวัชชัย                      จิตรภาษ์นันท์      กรรมการ
8.  นางสาวสุภิญญา                กลางณรงค์        กรรมการ
9.  นายประวิทย์                     ลี่สถาพรวงศา     กรรมการ
10.  พลเอก สุกิจ                     ขมะสุนทร          กรรมการ
11.  นายฐากร                         ตัณฑสิทธิ์         ปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการ กสทช.
 
 ผู้ไม่เข้าประชุม
1.  นายสุทธิพล         ทวีชัยการ              ติดภารกิจ
 
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.
1.  พลอากาศเอก คณิต        สุวรรณเนตร        เลขานุการประธาน กสทช.
2.  นายเฉลิมชัย                 ก๊กเกียรติกุล         ปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารระดับต้น (บ๓) รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ                                                                       สำนัก ประธานกรรมการ
3.  นายอารักษ์                  โพธิทัต                ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักการประชุมและเลขานุการ
4.  นางณิชาภัทร                วรสิทธิ์                 ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการสำนักปฏิบัติการและ                                                                               ติดตามประเมินผล
5.  นางอรุณ                      วงศ์ศิวะวิลาส         ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนงานวาระการประชุม
6.  นางนภาพร                   เก่งสาร                 ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
7.  นางสาวสุภาวดี              สดศรี                   ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
8.  นางสาวจุฑาสินี             คำบำรุง                 ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง
9.  นางสาวอภิชญามล         วารุณประภา           ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง

ผู้ชี้แจง
1.  นายพิทยาพล             จันทนะสาโร          ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการ กสทช.
2.  นายไตรรัตน์              วิริยะศิริกุล            ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักกิจการกรรมการ
3.  นางอัจฉรา                ปัณยวณิช              ปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารระดับต้น (บ๓) รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก                                                                 ทรัพยากรบุคคล
4.  นายสุธีระ                  พึ่งธรรม                ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนงานระบบงานทรัพยากรบุคคล
5.  นายปรเมศวร์             กุมารบุญ               ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง   
                  
ระเบียบวาระที่  1  :  เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1.  เมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2554 สำนักงาน กสทช. กสทช.ได้ไปถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2554 และถวายจตุปัจจัยโดยเสด็จพระราชกุศลและบริจาคเงินร่วมทำบุญรวมจำนวน 2 ล้านบาทเศษ ณ วัดคูหาสวรรค์ จังหวัดพัทลุง ต้องขอขอบคุณพนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ไปอำนวยการ ทำให้การถวายผ้าพระกฐินครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในช่วงเช้าได้ไปตรวจเยี่ยมสำนักงาน กสทช. เขต 4 (สงขลา) ด้วย ซึ่งเรื่องนี้คงจะได้นำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับฟังมานั้นมาหารือกันในโอกาสต่อไป
2.  เรื่องการจัดทำโครงสร้างองค์กรใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของ กสทช.เศรษฐพงค์ฯ หากเป็นไปได้ขอให้เริ่มดำเนินการใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2554  ดังนั้น ในเบื้องต้นขอความกรุณาผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวเร่งประสานดำเนินการด้วย โดยจะพยายามให้ได้เป็นโครงสร้างที่มีความเหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมต่างๆ มากที่สุด อย่างไรก็ดี ตามที่ได้เคยเรียนไว้แล้วว่าจะเป็นโครงสร้างชั่วคราวเท่านั้น โดยอาจจะใช้ในช่วงเวลา 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง และยังสามารถปรับเปลี่ยนได้อีกในอนาคตตามที่หารือกันไว้
3.  เรื่องเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในปัจจุบัน จะเห็นว่าในขณะนี้มวลน้ำได้มาถึงบริเวณสำนักงานใหญ่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แถวคลองบางซื่อ ถนนวิภาวดีรังสิต และด้านถนนพหลโยธินด้วย ซึ่งใกล้จะมาถึงสี่แยกสะพานควาย  ดังนั้น ทางสำนักงาน กสทช. ควรมีการเตรียมมาตรการต่างๆ ไว้ โดยในเรื่องนี้จะมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงในวาระเรื่องเพื่อทราบให้ที่ประชุมทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง และจะขอหารือกรรมการด้วยว่ามาตรการหลังจากนี้ควรจะเตรียมการอย่างไรในเรื่องการทำงานของพนักงานต่างๆหากเกิดภาวะน้ำท่วมมาถึงสำนักงาน กสทช.และน้ำยังท่วมขังมากขึ้นเรื่อยๆ    
มติที่ประชุม  รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ระเบียบวาระที่  2  :  เรื่องรับรองรายงานการประชุมรับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 4/2554 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554     
1.  รับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 4/2554  วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554  ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ  โดยมีข้อแก้ไขมติที่ประชุมในหน้า 10 วาระที่ 3.8 ข้อ 2. บรรทัดที่ 3 โดยให้ตัดข้อความ “ทั้ง 5 ท่าน” ออก เป็น “...ปฏิบัติงานชั่วคราวของ กสทช. ทั้ง 5 ท่าน ให้เรียบร้อยและเหมาะสม”  
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการเผยแพร่รายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้วลงในเวปไซต์ของสำนักงาน กสทช.ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ด้วย
ระเบียบวาระที่  3  :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กสทช.รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กสทช. ครั้งที่ 4/2554 วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554
ระเบียบวาระที่  3  :  รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กสทช. ครั้งที่ 4/2554  วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554
มติที่ประชุม  รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติ กสทช. ครั้งที่ 4/2554  วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2554 ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ 
ระเบียบวาระที่  4  :  เรื่องเพื่อทราบ
4.1   แผนรับน้ำท่วม สำนักงาน กสทช. : เลขาธิการ กสทช.
4.2   การให้ความช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน กสทช. และผู้ปฏิบัติงานประจำ กสทช. ผู้ประสบอุทกภัย : บค.
ระเบียบวาระที่  4  :  เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่  4.1  :  แผนรับน้ำท่วมสำนักงาน กสทช. : เลขาธิการ กสทช.
มติที่ประชุม             
1.  รับทราบแผนการเตรียมการ และการดำเนินงานเพื่อรับน้ำท่วมสำนักงาน กสทช. ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ทั้งนี้ โดยมีสำนักบริหารทั่วไป (บป.) เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบดำเนินการ
2.  มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับพนักงานและทรัพย์สินของสำนักงานฯ ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องระบบไฟฟ้า และหม้อแปลงไฟฟ้าของสำนักงานฯ ซึ่งควรประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวงเพื่อพิจารณาปรับย้ายให้ไปอยู่ในที่ที่สูงพ้นจากระดับน้ำท่วมถึง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตราย และให้สามารถมีไฟฟ้าใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการฉาบอิฐบล็อกอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันน้ำซึมผ่านให้ได้ผลยิ่งขึ้น                        
ระเบียบวาระที่  4.2  :  การให้ความช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน กสทช. และ ผู้ปฏิบัติงานประจำกสทช. ผู้ประสบอุทกภัย : บค.
มติที่ประชุม  อนุมัติในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน กสทช. และผู้ปฏิบัติงานประจำ กสทช. ผู้ประสบอุทกภัย ตามรายละเอียดของหลักเกณฑ์และแนวทางการช่วยเหลือ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการโครงการฯ อย่างไรก็ดีเพื่อให้เกิดความรอบคอบมากยิ่งขึ้น ให้สำนักงานฯ ไปตรวจสอบระเบียบและวิธีการที่เกี่ยวข้องในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจในการอนุมัติกรณีการให้เงินช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ โดยให้มีหนังสือหารือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในกรณีดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้อง รวมถึงให้สำนักงานฯ ไปพิจารณากำหนดนิยามการให้เงินช่วยเหลือให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะกรณีการช่วยเหลือพนักงานผู้ประสบอุทกภัยที่เป็นผู้พักอาศัยในที่พักของบุคคลอื่นนั้น นิยามของคำว่า “บุคคลอื่น” มีความหมายครอบคลุมบุคคลใดบ้าง ก่อนสำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตามโครงการดังกล่าวต่อไป
ระเบียบวาระที่  5  :  เรื่องเพื่อพิจารณา
5.1    แนวทางการเตรียมการกรณีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสำนักงาน กสทช. และพื้นที่โดยรอบ : เลขาธิการ กสทช.
5.2   การมอบอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ กสทช. ให้ กทค. พิจารณา : กสทช. ประวิทย์ฯ
5.3   แนวทางการบริหารจัดการสถานีวิทยุ 1 ปณ. ให้สอดคล้องกับบทบาทของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการฯ  : กสทช.สุภิญญาฯ
5.4    การติดตามความคืบหน้าข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะของผู้บริโภคจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ : กสทช.สุภิญญาฯ
ระเบียบวาระที่  5  :  เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่  5.1  :  แนวทางการเตรียมการกรณีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสำนักงานกสทช. และพื้นที่โดยรอบ : เลขาธิการ กสทช.
มติที่ประชุม               
1.  เพื่อให้การเตรียมการและการดำเนินการกรณีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสำนักงาน กสทช. และพื้นที่โดยรอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงานฯ ไปพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติการกรณีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสำนักงาน กสทช. และพื้นที่โดยรอบ โดยให้รับประเด็นข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมเพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียด ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญ ได้แก่  การพิจารณากำหนดมาตรการที่สามารถป้องกัน หรือบริหารจัดการโดยให้ความสำคัญกับการรักษาพื้นที่ของสำนักงาน กสทช. ไว้ให้สามารถปฏิบัติงานได้มากที่สุด โดยจัดแบ่งมาตรการตามระดับความรุนแรงของปัญหา อาทิ การพิจารณาในกรณี worst case ว่าระดับน้ำสูงมากเพียงใดจึงไม่สามารถปฏิบัติงานได้ และหากจำเป็นต้องหยุดการปฏิบัติงานที่สำนักงาน กสทช. จะกำหนดแผนปฏิบัติการในกรณีนี้อย่างไร โดยเฉพาะการพิจารณาโยกย้ายหน่วยงาน (Front office) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการให้บริการประชาชนไปยังสถานที่อื่นเพื่อสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ รวมถึงหากเกิดกรณีฉุกเฉินและจำเป็นจะต้องมีการประชุม กสทช. จะดำเนินการอย่างไร ที่ใด หรือหากสถานการณ์ไม่รุนแรงมาก จะกำหนดมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือพนักงานให้มาปฏิบัติงานที่สำนักงานฯ ได้มากน้อยเพียงใด อาทิ การจัดรถขนาดใหญ่เพื่อวิ่งรับ-ส่งพนักงานระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับสำนักงานฯ หรือในกรณีฉุกเฉินหากไม่มีกระแสไฟฟ้า จะสามารถปฏิบัติงานอยู่ได้นานเพียงใด เป็นต้น
2.  เพื่อให้การจัดทำและการพิจารณาอนุมัติแผนตามข้อ 1 สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ที่ประชุมจึงมีมติให้สำนักงาน กสทช. นำเสนอแผนปฏิบัติการกรณีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมสำนักงาน กสทช. และพื้นที่โดยรอบ ต่อประธาน กสทช. และรองประธาน กสทช. อีก ๒ ท่าน เป็นผู้พิจารณาอนุมัติแผนดังกล่าวเพื่อให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งหากเกิดสถานการณ์ในขั้นรุนแรงและจำเป็นต้องหยุดปฏิบัติงาน ให้สำนักงานฯ เสนอประธาน กสทช. พิจารณาสั่งการ
ระเบียบวาระที่  5.2  :  การมอบอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ กสทช. ให้ กทค. พิจารณา : กสทช.ประวิทย์ฯ
มติที่ประชุม             
1.  ที่ประชุมได้พิจารณาในเรื่องการมอบอำนาจพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ กสทช. ให้ กทค. พิจารณาแล้ว เห็นว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติการใดๆ ของ กสท. และ กทค. แทน กสทช. ที่จำเป็นต้องมีความชัดเจนก่อน  อย่างไรก็ดี เพื่อให้ประเด็นข้อร้องเรียนที่ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. ได้เคยมีการพิจารณาและยังไม่แล้วเสร็จต่อเนื่องมานั้น สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้ กทค. รับไปดำเนินการเฉพาะในเรื่องร้องเรียนที่ยังค้างอยู่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จต่อไปก่อน  สำหรับข้อร้องเรียนที่เข้ามาใหม่ภายหลังจาก กสทช. เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ให้รอความชัดเจนในประเด็นอำนาจหน้าที่ของ กทค. ที่จะดำเนินการแทน กสทช. ตามมาตรา 27 (13) แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553  ก่อน
2.  เนื่องจากในการปฏิบัติภารกิจหน้าที่ของ กสทช. ในปัจจุบันตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ยังมีประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติการใดๆ ของ กสท. ตามมาตรา 37 และ กทค. ตามมาตรา 40 แทน กสทช. ที่จำเป็นต้องมีความชัดเจนเพื่อให้การทำหน้าที่ของ กสท. และ กทค. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้มีการจัดสัมมนาของ กสทช. เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กสท. และ กทค. ในการปฏิบัติการใดๆ แทน กสทช. โดยเชิญ   นักกฎหมายผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งนักวิชาการ อาทิ  ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์  และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นต้น  มาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวกับ กสทช. ในวันพฤหัสบดีที่ 17 และวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2554 ทั้งนี้   โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (สำนักกฎหมาย และสำนักประชาสัมพันธ์) ไปประสานงานในรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการจัดสัมมนาดังกล่าวให้เป็นที่เรียบร้อย โดยหารือร่วมกับ กสทช.สุภิญญาฯ ทั้งในเรื่องเอกสารข้อมูลประกอบการสัมมนา สถานที่จัดสัมมนา และรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่จะเชิญมาด้วย  
ระเบียบวาระที่  6  :  เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
ระเบียบวาระที่  6.1  :  แนวทางการบริหารจัดการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ให้สอดคล้องกับบทบาทของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการฯ : กสทช.สุภิญญาฯ
มติที่ประชุม             
1.  โดยที่ขณะนี้ กสทช. ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่แล้ว และเพื่อมิให้การบริหารจัดการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการนับจากนี้ไปถูกต้องและสอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย ที่ประชุมจึงมีมติให้ระงับการดำเนินการใดๆ ในการจัดทำสัญญาหรือขยายสัญญาให้แก่เอกชนเพื่อประกอบกิจการและดำเนินงานสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. จนกว่าจะมีการดำเนินการตามข้อ 2 ทั้งนี้ เนื่องจากจะมีผลผูกพันต่อการพิจารณาปรับปรุงแนวทางการอนุญาตให้หน่วยงานประกอบกิจการตามเงื่อนไขและเจตนารมณ์กฎหมาย ตามที่ กสทช.สุภิญญาฯ เสนอ
2.  ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.ได้รายงานว่าสัญญาการร่วมผลิตรายการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. สามารถให้สิ้นสุดลงได้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2554  โดยสำนักงาน กสทช. ต้องแจ้งคู่สัญญาทราบล่วงหน้าก่อน  30 วัน และเพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นเป็นไปด้วยความรอบคอบ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เป็นผู้พิจารณาเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ให้สอดคล้องกับบทบาทของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการฯ  ต่อไป
หมายเหตุ  ในการประชุม กสทช. ครั้งที่ 6/2554  เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 ในระหว่างการรับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 5/2554 วาระที่ 6.1 กสทช.สุทธิพลฯ ได้เรียนให้ที่ประชุมทราบข้อสังเกต กรณี กสทช. มีมติเรื่องแนวทางการบริหารจัดการสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. ให้สอดคล้องกับบทบาทของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการ โดยเห็นว่ามติดังกล่าวน่าจะคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ทั้งนี้ โดยขอให้สำนักงานฯ บันทึกไว้เป็นข้อสังเกต ดังปรากฏรายละเอียดตามบันทึกที่ ทช 1003.5/024 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554  ที่แนบไว้กับรายงานการประชุมฉบับนี้
ระเบียบวาระที่  6.2  :  การติดตามความคืบหน้าข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะของผู้บริโภคจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ : กสทช.สุภิญญาฯ
มติที่ประชุม  รับทราบความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินการตามข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะของผู้บริโภคจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ ตามที่ กสทช.สุภิญญาฯ เสนอ  ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปติดตามตรวจสอบและรายงานผลการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติที่ประชุม กสทช. แล้วรายงานให้ที่ประชุม กสทช. ทราบต่อไป
ระเบียบวาระที่  6.3  :  การประกาศใช้โครงสร้างชั่วคราวของสำนักงาน กสทช. :  คณะกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กสท.)
มติที่ประชุม                
1.  โดยที่การดำเนินการพิจารณากำหนดโครงสร้างชั่วคราวของสำนักงาน กสทช. ในภาพรวมยังไม่แล้วเสร็จ กอปรกับในคราวประชุม กสทช. ครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2554 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติหลักการการกำหนดโครงสร้างชั่วคราวด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อเริ่มต้นการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบโครงสร้างดังกล่าว และการแบ่งส่วนงานตามที่ กสท. เสนอ  ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สามารถดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ได้ตามที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา 58 วรรคสอง กำหนด  ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้นำโครงสร้างชั่วคราวด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พร้อมการแบ่งส่วนงานภายในและขอบเขตอำนาจหน้าที่ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ โดยให้ปรับปรุงแก้ไขตามความเห็นของที่ประชุมก่อนดำเนินการต่อไป ได้แก่
1.1  ให้ปรับชื่อตำแหน่ง รองเลขาธิการ กสท. ให้ถูกต้องและชัดเจนเป็น “รองเลขาธิการ กสทช. (ด้าน กสท.)”
1.2  ให้ปรับปรุงเอกสารในส่วนของการแบ่งส่วนงานภายในและอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามที่เสนอมาให้เป็นรูปแบบของระเบียบหรือคำสั่ง หรือประกาศให้ถูกต้องตามกฎหมาย อาทิ  การเขียนข้อความอารัมภบทว่าการออกระเบียบหรือคำสั่ง หรือประกาศฉบับนี้เป็นไปตามมาตรา 27 และมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 เป็นต้น
2.  มอบหมายให้รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) ไปพิจารณาจัดทำโครงสร้างชั่วคราวของสำนักงาน กสทช. ในภาพรวมให้แล้วเสร็จ และนำเสนอที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็วตามมติ กสทช.ที่ได้มอบหมายไว้ ก่อนนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ต่อไปด้วยเช่นกัน  ทั้งนี้ โดยให้รับข้อคิดเห็นของ   ที่ประชุมเกี่ยวกับ
กรณีโครงสร้างภายในบางส่วน เช่น กรณีของสถาบันเฉพาะทางต่างๆ ซึ่งจัดตั้งโดยระเบียบ กทช. แต่ต่อมามีมติ กทช. ให้ปรับเป็นกลุ่มภารกิจ ไปพิจารณากำหนดระดับให้ถูกต้องและเหมาะสมกับภารกิจที่รับผิดชอบไปในคราวเดียวกันด้วย 
หมายเหตุ  ในการประชุม กสทช. ครั้งที่ 6/2554  เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน2554 ในระหว่างการรับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 5/2554 วาระที่ 6.3  กสทช.สุทธิพลฯ ได้เรียนให้ที่ประชุมทราบข้อสังเกต กรณี กสทช. มีมติเห็นชอบให้นำโครงสร้างชั่วคราวของสำนักงาน กสท. ไปประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา โดยมีความเห็นไม่สอดคล้องในประเด็นการส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเห็นว่าน่าจะไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย  ทั้งนี้ โดยขอให้สำนักงานฯ บันทึกไว้เป็นข้อสังเกต ดังปรากฏรายละเอียดตามบันทึกที่ ทช 1003.5/025  ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554  ที่แนบไว้กับรายงานการประชุมฉบับนี้
ระเบียบวาระที่  6.4  :  ร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ( พ.ศ. ....) : รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ)
มติที่ประชุม  โดยที่รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) ได้รับมอบหมายตามมติที่ประชุม ได้ทำการรวบรวมความเห็นของ กสทช. ต่อร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. ....) และปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. ....) ตามข้อคิดเห็นดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีรายละเอียดมาก  ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปด้วยความรอบคอบ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้นำเรื่องดังกล่าวจัดเป็นวาระการประชุม กสทช. ในครั้งต่อไป ในวันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2554 สำหรับแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และแผนแม่บทด้านกิจการกระจายเสียง นั้น  คณะกรรมการ กสท. และ กทค. แต่ละคณะจะได้นำไปจัดทำ workshop ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพิจารณา และนำผลที่ได้เสนอที่ประชุม กสทช. อีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่  6.5  :  โครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ)
มติที่ประชุม  อนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามที่รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) ดังนี้
1.  จัดหาถุงยังชีพที่บรรจุสิ่งของที่เน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในเรื่องของอุปกรณ์ด้านการสื่อสาร เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. เป็นสำคัญ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ 3 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ของสำนักงาน กสทช. หมวดเงินงบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็น และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ อุปกรณ์สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารที่จะบรรจุภายในถุงยังชีพดังกล่าวเป็นไปตามรายการลำดับที่ 7 ถึงลำดับที่ 10 ตามที่เสนอ อาทิ เครื่องรับวิทยุ AM/FM เครื่องชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ และถ่านไฟฉายเป็นต้น และมอบหมายให้ กสทช.สุภิญญาฯ รับไปประสานงานรายละเอียดพื้นที่/จุดการรับบริจาคกับศูนย์วิทยุสื่อสารสายลม และให้สำนักงาน กสทช. เร่งดำเนินการจัดหาโดยเร็วที่สุด
2.  สำหรับกรณีการช่วยเหลือโดยการสนับสนุนวิทยุสื่อสารให้แก่หน่วยงานต่างๆ นั้น ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จัดหาวิทยุสื่อสารมือถือ ย่านความถี่ VHF 136-174 MHz  จำนวน 300 เครื่อง  และวิทยุสื่อสารมือถือ ย่านความถี่ 245 MHz จำนวน 100 เครื่อง ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจัดซื้อจัดหาไว้ที่สำนักงาน กสทช. เพื่อเป็นศูนย์กลาง และให้หน่วยงานรวมถึงอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีความจำเป็นสามารถมาติดต่อเพื่อขอยืมเครื่องดังกล่าวไปใช้งานในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ และนำส่งคืนเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด  ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.  รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากที่ประชุมไปดำเนินการให้เหมาะสมยิ่งขึ้นด้วย อาทิ  การติดสติกเกอร์ Call Center ๑๒๐๐ ที่ถุงยังชีพ และการขอความร่วมมือให้ศูนย์วิทยุสื่อสารสายลมช่วยประชาสัมพันธ์การดำเนินงานตามโครงการนี้ด้วย
หมายเหตุ  อนึ่ง ในระหว่างการประชุมได้มีกรรมการบางท่านได้หยิบยกประเด็นขึ้นหารือ และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับไปดำเนินการ รวม 5 เรื่อง ดังนี้
1.  เรื่องบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ขายหุ้นให้บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ ลิมิเต็ด จำกัด โดยขอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) รับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาต่อไป ตามที่รองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ) เสนอ ทั้งนี้ โดยให้สำนักงาน กสทช. ไปติดตามและตรวจสอบรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว รวมทั้งพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายด้วยว่า กรณีของการขายหุ้นที่เกิดขึ้นนั้น บริษัทฯ จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ ประกาศ และ/หรือระเบียบใดที่เกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ อย่างไร แล้วประมวลเสนอ กทค. เพื่อประกอบการพิจารณา
2.  การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในตามมาตรา 68 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 สมควรต้องพิจารณาในรายละเอียดในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบภายใน โดยออกเป็นระเบียบให้ชัดเจนและเรียบร้อยตามมาตรา ๖๘ 
วรรคท้ายก่อน ตามที่ กสทช.ประเสริฐฯ เสนอ และขอให้ กสทช.ประเสริฐฯ ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่สำนักงาน กสทช. เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย แล้วนำเสนอที่ประชุมพิจารณาโดยเร็วต่อไป
3.  การแต่งตั้ง กสทช.สุภิญญาฯ เป็นโฆษก กสทช. เพิ่มอีก 1 คน เพื่อสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน  ของ กสทช. ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตามความเห็นรองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ) 
4.  เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือพนักงาน ลูกจ้างสำนักงาน กสทช. รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานประจำ กสทช. ผู้ประสบอุทกภัย ขอให้สำนักงาน กสทช. ไปพิจารณาเสนอแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษประจำปี 2554  ตามที่ระเบียบกำหนด ให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาโดยเร็วต่อไป ตามดำริของประธาน กสทช. 
5.  เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา กสทช. มักได้รับเอกสารระเบียบวาระการประชุม กสทช. ก่อนวันประชุมเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่มีเวลาศึกษารายละเอียดของเรื่องต่างๆ เท่าที่ควร  ดังนั้น จึงมอบหมายให้สำนัก  การประชุมและเลขานุการ จัดทำเอกสารระเบียบวาระ และจัดส่งให้กรรมการทุกท่านได้มีเวลาศึกษาในรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ได้ล่วงหน้าในวันศุกร์ก่อนถึงวัน
ประชุมในวันพุธของสัปดาห์ที่จะถึง และขอให้ กสท. และ กทค. ได้พิจารณาปรับระยะเวลาในการประชุมพิจารณาเรื่อง และนำเสนอเรื่องต่อที่ประชุม กสทช. ให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าวด้วย สำหรับกรณีเรื่องที่เสนอไม่ทันตามกรอบระยะเวลาข้างต้น ประธาน กสทช. จะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการบรรจุเรื่องนั้นๆ ตามความเหมาะสมและจำเป็น

สร้างโดย  -   (19/2/2559 17:54:20)