สรุปมติที่ประชุม กสท. 27/2555
รายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
ครั้งที่ 27/2555
วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2555 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุม ชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ผู้เข้าร่วมประชุม
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
1. พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการ
2. พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ
3. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ
4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ
5. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ
6. นายประเสริฐ อภิปุญญา เลขานุการรองเลขาธิการ กสทช.
7. นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขานุการ
8. นางสาวกอกนก กิจบาลจ่าย ผู้ช่วยเลขานุการรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวย การภารกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
9. นางสาวนนทรี เหมทานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารระดับต้น
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.
1. พ.อ. ดร. อนุรัตน์ อินกัน คณะอนุกรรมการฯจัดทำมาตรฐานด้านเทคนิคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
2. นายไพโรจน์ ปิ่นแก้ว คณะทำงานจัดทำร่างแผนความถี่วิทยุและมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับกิจการโทรทัศน์
3. นางรัตนากร ทองสำราญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์
4. นายสมศักดิ์ สิริพัฒนากุล รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานขับเคลื่อนกิจการโทรทัศน์ และวิทยุในระบบ ดิจิตอล
5. นางชุติมา ไตรโกมุท รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคฯ
6. นายพสุ ศรีหิรัญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานวิชาการและจัดการทรัพยากรกระจายเสียง และโทรทัศน์
7. นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์
8. นางปริตา วงศ์ชุตินาท รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรฐานและเทคโนโลยีกระจายเสียงและ โทรทัศน์
9. นายทนงศักดิ์ สุขนินทร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานขับเคลื่อนกิจการโทรทัศน์เคลื่อนที่และ โทรทัศน์ในระบบไอพี
10.นางรมิดา จรินทพย์พิทักษ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง
11.นายกีรติ อาภาพันธุ์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการ
12.นางกนกวรรณ ศรีชัยชนะ ผู้บริหารระดับต้น
13.นางจิตติมา ศุภเกษม พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
14.นางสาวสมพร อมรชัยนพคุณ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
15.นายสุภัทรสิทธิ์ สวนสุข พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง
16.นางสาวนารีรัตน์ เมธีกุล พนักงานตามสัญญาจ้าง
17.นางนันท์นภัส ปัญญา พนักงานตามสัญญาจ้าง
18.นางสาววันทนีย์ วริยานันทกุล พนักงานตามสัญญาจ้าง
เริ่มประชุม 09.30 น.
ระเบียบวาระที่ 1 : เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1. ประธาน กสท. (พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์) กล่าวเปิดประชุม และแจ้งที่ประชุมทราบเกี่ยวกับกรณีการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2555 ศาลแพ่งพิจารณาไม่รับคุ้มครองชั่วคราวและมีคำวินิจฉัยที่ชัดเจนในสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ดังนั้น หากจะต้องพิจารณาหรือวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องที่มีผลกระทบต่อหลายภาคส่วน คณะกรรมการ กสท. จะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ภายใต้อำนาจหน้าที่และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2. กสท. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ แจ้งที่ประชุม กสท. ดังนี้
2.1 เมื่อวันที่ 26 - 28 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ได้รับหมายจากศาลแพ่งและไปเบิกความเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญให้กับศาล ซึ่งจากการสืบพยานที่ได้ไปรับฟังในครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์มากในฐานะ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค และคิดว่ากระบวนการพิจารณาคดีและพิพากษาของศาลมีความสำคัญต่อการกำหนดกติกาที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นควรศึกษาและจัดทำแนวทาง มาตรการการคุ้มครองผู้บริโภคจากกระบวนการดังกล่าว ทั้งนี้ ได้จัดทำเอกสารระเบียบวาระเพื่อเสนอ กสท. พิจารณาในครั้งนี้แล้ว
2.2 เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2555 กสท. สุภิญญา กลางณรงค์ และ กสท. ผศ. ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ได้เข้าพบนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลยูโร 2012 เพื่อหารือในหลักนโยบายการแก้ปัญหาจอดำในอนาคต และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลวิทยุ โทรทัศน์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะการโฆษณาเกินจริงที่ขัดกฎหมาย สคบ. และ อย. โดยจะจัดทำระเบียบวาระเพื่อนำเสนอที่ประชุม กสท. ต่อไป
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ 2 : เรื่องรับรองรายงานการประชุม
รายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ครั้งที่ 26/2555 เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2555
มติที่ประชุม รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 26/2555 เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2555 โดยไม่มีข้อแก้ไข
ระเบียบวาระที่ 3 : เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.1 : รายงานผลการดำเนินงานตามมติ กสท. ครั้งที่ 26/2555 (ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.))
ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รายงานผลการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช.ตามมติ กสท.ครั้งที่26/2555 เรียบร้อยแล้ว
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.2 : เรื่องคำสั่งศาลปกครองในคดีหมายเลขดำที่ 961/2555 (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์)
1. ตามที่ศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 961/2555 ระหว่างนายใจแก้ว แก้วปาน ผู้ฟ้องคดี และ กสทช. ผู้ถูกฟ้องคดี มีคำสั่งลงวันที่ 18 มิถุนายน 2555 เรียกให้ กสทช. ไปให้ถ้อยคำในการไต่สวนฉุกเฉิน ในกรณีมีผู้ยื่นฟ้อง กสทช. ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่พิจารณาและมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องยุติการปิดกั้นสัญญาณถ่ายทอดและแพร่ภาพรายการสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 (UEFA European football Championship) เพื่อให้ผู้ใช้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกของบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) สามารถรับชมการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลยูโร 2012 ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5 และ 9 ผ่านระบบโทรทัศน์บอกรับสมาชิกของบริษัท ทรู วิชั่นส์ฯ ได้ตามปกติ โดยผู้ฟ้องคดีอ้างว่า การที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคปกติซึ่งมีการใช้งานคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติในการประกอบกิจการโทรทัศน์ ยกข้อตกลงเรื่องลิขสิทธิ์เพื่อดำเนินการปิดกั้นสัญญาณการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร เป็นการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย ซึ่งการที่ กสทช.เลือกวิธีการออกคำสั่งทางปกครองและปรับทางปกครองในอัตราวันละ 20,000 บาท นั้นไม่ใช่แนวทางที่เยียวยาอีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
2. เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ผู้แทน กสทช. ได้แก่ รสทช.ประเสริฐฯ นายสมบัติฯ และนางสาวมณีรัตน์ฯ ได้ไปให้ถ้อยคำต่อศาล โดยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ กสทช.ได้มีการสอบถามเพิ่มเติมจากผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคปกติ และบริษัท ทรู วิชั่นส์ และการดำเนินการภายใต้อำนาจตามกฎหมายของ กสทช. ประกอบกับ กสทช. ไม่มีอำนาจสั่งการเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร 2012 เนื่องจากเป็นคำสั่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ กสทช. จะดำเนินการได้ตามกฎหมาย
3. ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า กสทช. ได้มีคำสั่งทางปกครองเพื่อบังคับให้บริษัท ทรูฯ จะต้องดำเนินการเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถรับชมรายการฟุตบอลยูโร 2012 อีกทั้งยังได้ใช้มาตรการบังคับทางปกครองเพื่อให้มีการปฏิบัติการตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว รวมถึงได้มีการดำเนินการเพื่อพิจารณาว่าการกระทำของผู้ประกอบกิจการฯ เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ. 2553 แล้ว ดังนั้น ศาลปกครองจึงมีคำสั่งลงวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ยกคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา
มติที่ประชุม ทราบ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ รสทช.ประเสริฐฯ นายสมบัติฯ และนางสาวมณีรัตน์ฯ ที่ดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ระเบียบวาระที่ 3.3 : การทำคำชี้แจงของ ลสทช. ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์) สำนักงาน กสทช. (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์) ได้รายงานผลการทำคำชี้แจง ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือ ลับ ด่วนที่สุด ที่ ผผ 12/254 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2555 ซึ่งขอให้ ลสทช. ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมแนบพยานเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อกรณีที่สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (ผู้ร้อง) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีที่ กสทช. โดย กสท. ยกเว้นนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ไม่ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อกรณีที่ผู้บริโภคไม่สามารถรับชมรายการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2012 (ยูโร 2012) ผ่านสถานีโทรทัศน์ภาคปกติได้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สทช 4012/10888 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2555 นำส่งคำชี้แจงข้อเท็จจริงของ ลสทช. ในการดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.4 : ขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการอบรมหลักสูตรการกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยมหาวิทยาลัย California, Berkeley สหรัฐอเมริกา
มติที่ประชุม ทราบ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ จึงขอให้สำนักงาน กสทช. รวบรวมข้อมูลนำเสนอที่ประชุม กสท. พิจารณาอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4 : เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่ 4.1 : การพิจารณาอนุญาตเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องรับ หรือเครื่องมือ เพื่อใช้ในการรับหรือแปลงสัญญาณรายการในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (กลุ่มงานอนุญาตประกอบกิจการ 2 (ปส.2)/กลุ่มงานขับเคลื่อนกิจการโทรทัศน์เคลื่อนที่และโทรทัศน์ในระบบไอพี (พส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. เร่งจัดทำ (ร่าง) ประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ผลิต นำเข้า จำหน่าย หรือมีไว้จำหน่ายหรือรับติดตั้งเครื่องรับ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับใช้ในการรับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการของกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก พร้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับรองรับการปฏิบัติงานของสำนักงาน กสทช. เพื่อให้มีมาตรฐานรองรับกระบวนการพิจารณาได้อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ ภายหลังจากมีแนวทางปฏิบัติตามร่างประกาศฯ ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เห็นควรมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยึดถือปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าว พร้อมทั้งให้รวบรวมผลการดำเนินงานเสนอ กสท. เพื่อทราบต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.2 : ขอเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ส่วนงาน กสทช. พ.ต.อ. ทวีศักดิ์ฯ)
มติที่ประชุม เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบรายชื่อคณะอนุกรรมการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ จาก “นายสถิต สิริสวัสดิ์” เป็น “ดร.ฉัตรตระกูล สมบัติธีระ” โดย กสท. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ฯ รับรองและยืนยันว่าการให้นายสถิต สิริสวัสดิ์ พ้นจากการเป็นอนุกรรมการดังกล่าว ไม่ส่งผลให้เกิดประเด็นปัญหาในอนาคต พร้อมทั้งให้รวบรวมองค์ประกอบ/รายชื่ออนุกรรมการรายละเอียดข้อมูลประวัติ และคุณสมบัติของอนุกรรมการดังกล่าว เสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาอนุมัติและมอบหมายให้ กสท.เป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้งต่อไป โดยอ้างมติของ กสทช.ครั้งที่อนุมัติ และในการลงนามนั้น ให้ผู้ลงนามระบุด้วยว่าปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กสทช.
ระเบียบวาระที่ 4.3 : การเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับการแข่งขันในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กลุ่มงานส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง (สส.))
มติที่ประชุม : เห็นชอบการแต่งตั้ง รศ.อรพรรณ พนัสพัฒนา เป็นอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับการแข่งขันในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นการแต่งตั้งเพิ่มเติมเพื่อให้ครบองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการ ทั้งนี้ ให้มีวาระในการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของคณะอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับการแข่งขันในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พร้อมทั้งให้รวบรวมองค์ประกอบ/รายชื่ออนุกรรมการรายละเอียดข้อมูลประวัติ และคุณสมบัติของอนุกรรมการดังกล่าว เสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาอนุมัติและมอบหมายให้ กสท. เป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้งต่อไป โดยอ้างมติของ กสทช. ครั้งที่อนุมัติ และในการลงนามนั้น ให้ผู้ลงนามระบุด้วยว่าปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กสทช.
ระเบียบวาระที่ 4.4 : การดำเนินการตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการดำเนินการตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 หารือต่อคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ของสำนักงาน กสทช. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและให้ความเห็น ดังนี้
1. กสท. สามารถกำหนดมาตรการเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้หรือไม่ อย่างไร
2. กสท.สามารถวินิจฉัยลักษณะหรือพฤติกรรมของผู้ประกอบกิจการว่าเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้ใช้บริการ โดยที่ยังไม่ได้มีการออกประกาศกำหนดได้หรือไม่ อย่างไร
อนึ่ง กสทช.สุภิญญา กลางณรงค์ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดที่ที่ประชุม กสท. จะต้องมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการดำเนินการตามมาตรา 31 ดังกล่าวไปหารือต่อคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ของสำนักงาน กสทช. ทั้งนี้ เนื่องจากคณะอนุกรรมการติดตามคดีปกครองและบังคับใช้กฎหมายด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้มีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า กสทช. สามารถวินิจฉัยตามมาตรา 31 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ได้โดยไม่ต้องมีการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อประกอบการพิจารณาว่าการกระทำของผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่
ระเบียบวาระที่ 4.5 : นโยบายด้านการวางแผนความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน (คณะอนุกรรมการจัดทำมาตรฐานด้านเทคนิคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์/ คณะทำงานจัดทำร่างแผนความถี่วิทยุและมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับกิจการโทรทัศน์/ กลุ่มงานมาตรฐานและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ทส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบร่างนโยบายด้านการวางแผนความถี่สำหรับกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลภาคพื้นดิน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำแผนความถี่วิทยุและหลักเกณฑ์การใช้งานคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรทัศน์ โดยมีหลักการดังนี้
1. กำหนดให้ใช้ย่านความถี่สูง (UHF) สำหรับการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล โดยต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ
2. การวางแผนความถี่วิทยุจะพิจารณาทั้งการวางแผนแบบโครงข่ายความถี่เดียว (Single Frequency Network: SFN) และแบบโครงข่ายหลายความถี่ (Multi Frequency Network: MFN) โดยให้คำนึงถึงการป้องกันการรบกวนซึ่งกันและกันและประสิทธิภาพการใช้งานคลื่นความถี่เป็นสำคัญ
3. ให้คำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่แต่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกัน
4. ให้คำนึงถึงการใช้งานคลื่นความถี่และข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้าน
5. สามารถให้บริการทั้งระดับชาติ ระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น โดยอิงเขตพื้นที่เชิงเทคนิค รวมทั้งต้องมีจำนวนความถี่เพียงพอสำหรับช่วงเวลาการส่งสัญญาณระบบดิจิตอลและระบบแอนะล็อกคู่ขนานกัน (Simulcast Period)
ระเบียบวาระที่ 4.6 : การกำหนดอัตราค่าพิจารณาคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (คณะอนุกรรมการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์/ กลุ่มงานค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (นส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบผลการวิเคราะห์ของคณะอนุกรรมการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในเรื่องการกำหนดอัตราค่าพิจารณาคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ เพื่อนำไปใช้ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.7 : ข้อหารือกรมประชาสัมพันธ์ (คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์/ กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 3 (ปส.3) / กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบหลักการในการตอบข้อหารือของกรมประชาสัมพันธ์ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เสนอ พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เชิญกรมประชาสัมพันธ์เข้ามารับทราบหลักการและแนวทางดังกล่าวต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.8 : การพิจารณายกเลิกการแจ้งความประสงค์ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (คณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียงบริการชุมชน/ กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 1 (ปส.1))
มติที่ประชุม เห็นชอบการยกเลิกการทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียง) ของสถานีวิทยุกระจายเสียงจำนวน 26 สถานี โดยให้มีผลยุติสถานะการเป็นผู้ทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราวและประกาศการพิจารณาบน Website สำนักงาน กสทช. เพื่อให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบและสามารถทักท้วงผลการพิจารณาได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบผลการพิจารณา และภายหลังจากระยะเวลาดังกล่าวสิ้นสุดลง หากไม่มีผู้ใดทักท้วงให้ดำเนินการแจ้งผลการยกเลิกดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ระเบียบวาระที่ 4.9 : สรุปเวทีสาธารณะ NBTC Public Forum ครั้งที่ 5/2555 การสื่อสารในภาวะภัยพิบัติกับบทบาท กสทช. (ส่วนงาน กสทช. สุภิญญาฯ)
มติที่ประชุม
1. รับทราบข้อเสนอจากเวทีสาธารณะ NBTC Public Forum ครั้งที่ 5/2555 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2555 ในหัวข้อ “การสื่อสารในภาวะภัยพิบัติกับบทบาท กสทช.” สำหรับประเด็นการจัดอบรมวิทยุสื่อสาร ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รวบรวมข้อมูลนำเสนอต่อ กทค. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. อนุมัติให้จัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติงานของผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งจัดอบรมผู้ประกอบกิจการ ตลอดจนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียภายหลังจากที่ร่างประกาศฯ ดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว ตามข้อเสนอจากเวทีสาธารณะ NBTC Public Forum ทั้งนี้ มอบหมายให้ กสทช. สุภิญญาฯ กำกับดูแลและรับผิดชอบการดำเนินการดังกล่าวต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.10 : ผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์/กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่ง กสทช.ที่ 31/2554 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ซึ่งกำหนดให้รายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทราบ ทุก 6 เดือน และเพื่อให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ดังกล่าว จึงได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ โดยจำแนกผลการดำเนินการตามตัวชี้วัดของแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2555 – 2559) นำเสนอต่อ กสท. ก่อนเสนอต่อ กสทช. ต่อไป
มติที่ประชุม ทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.)) นำเสนอ กสทช. เพื่อทราบต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.11 : การดำเนินการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามที่ กสท. มอบหมาย เกี่ยวกับกรณีถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์/กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พิจารณาและจัดทำกระบวนการไกล่เกลี่ยให้มีระยะเวลาตามกระบวนการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เพื่อให้มีแนวทางเยียวยาต่อผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเหมาะสม ก่อนนำเสนอ กสท. เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง อนึ่ง กสทช.สุภิญญา กลางณรงค์ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยเห็นว่าผลกระทบจากกรณีที่ผู้บริโภคไม่สามารถรับชมการแพร่ภาพการแข่งขันรายการฟุตบอลยูโร 2012 ได้นั้น เป็นประเด็นระดับนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณะในวงกว้าง อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาตามกฎหมายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภค ดังนั้น จึงถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ กสท. ที่ต้องใช้ดุลพินิจและให้แนวทางที่ชัดเจน รวมทั้งมอบหมายทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน กสทช. เพื่อแสวงหาแนวทางดำเนินการให้ทันท่วงที
ระเบียบวาระที่ 4.12 : การศึกษาและจัดทำแนวทาง มาตรการ การคุ้มครองผู้บริโภค สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้บริโภคยื่นฟ้องร้องผู้ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่เป็นต้นเหตุให้ประชาชนและผู้บริโภคไม่สามารถรับชมรายการทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีในบางช่วงเวลาได้ (ส่วนงาน กสทช.สุภิญญาฯ)
มติที่ประชุม เห็นชอบและมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.ศึกษาและรวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับส่งสัญญาณเพื่อกระจายเสียงแพร่ภาพ รวมทั้งการใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี สภาพการรับชมรายการสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีของประชาชนและผู้บริโภค และข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อจัดทำแนวทางและมาตรการในการออกประกาศหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงเงื่อนไขในการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป อนึ่ง กสทช.สุภิญญา กลางณรงค์ จะจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อประกอบการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยจะนำส่งเป็นเอกสารแนบต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.13 : เรื่องร้องเรียนที่องค์ประกอบการกระทำและองค์ประกอบผู้ร้องเรียนไม่ครบถ้วนและข้อมูลไม่เพียงพอสำหรับการพิจารณา จำนวน 16 เรื่อง (คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ/ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ยุติเรื่องร้องเรียน จำนวน 16 เรื่อง เนื่องจากองค์ประกอบการกระทำและองค์ประกอบผู้ร้องเรียนไม่ครบถ้วน และให้ดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติงาน (ชั่วคราว) ของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาการพิจารณาคำขอหรือคำร้องเรียนด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ประชาชนยื่นตามกฎหมาย โดยเคร่งครัดต่อไป
2. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. สรุปประเด็นข้อร้องเรียน จำนวน 16 เรื่องดังกล่าว ให้กับคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เพื่อประกอบการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลด้านเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
3. ให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการเผยแพร่ผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจำนวน 16 เรื่องดังกล่าว ต่อสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4.14 เรื่องร้องเรียนของผู้ไม่ประสงค์ออกนาม กรณีเสนอความคิดเห็นการนำเสนอข่าวของสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชนทั่วประเทศ (คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ/ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (บส.) รวบรวมองค์ประกอบการกระทำและองค์ประกอบผู้ร้องเรียนให้ครบถ้วน โดยยึดตามแนวทางการปฏิบัติงาน (ชั่วคราว) ของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาการพิจารณาคำขอหรือคำร้องเรียนด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ประชาชนยื่นตามกฎหมาย โดยเคร่งครัด ก่อนนำเสนอ กสท. พิจารณา
ระเบียบวาระที่ 4.15 : เรื่องร้องเรียนของ นางสุภิญญา ประทักษ์ปรีชา กรณีเสนอความคิดเห็นติชมรายการของสถานีวิทยุกระจายเสียง (คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ/ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (บส.) ดำเนินการ ดังนี้
1. จัดทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียง Cool FM คลื่นความถี่ FM 93.00 MHz และสถานีวิทยุกระจายเสียง Green Wave คลื่นความถี่ 106.50 MHz ให้ระมัดระวังและพิจารณากลั่นกรองโฆษณา
2. จัดส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
3. ให้ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจพิจารณาโฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ
ระเบียบวาระที่ 4.16 : เรื่องร้องเรียนของ นางนิรมล สุขใจ กรณีขอให้ตรวจสอบรายการของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดลำพูน คลื่นความถี่ FM 95.00 MHz จัดรายการไม่เหมาะสม (คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ/ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม กสทช. ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ขอถอนระเบียบวาระนี้ออกจากการพิจารณาของที่ประชุม กสท. ก่อน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ หากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเป็นไปด้วยความครบถ้วน แล้ว จะนำเสนอ กสท. เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่ 4.17 : เรื่องร้องเรียนของ นางรัชนี พลซื่อ กรณีขอให้ระงับการกระจายเสียงออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนซึ่งกระทำการกระจายเสียงผิดเงื่อนไขการทดลองออกอากาศ (คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ/ กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม รับทราบ และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (บส.) รวบรวมรายละเอียดและข้อมูลของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ถูกร้องเรียน ซึ่งมิใช่ผู้ทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราวตามบทเฉพาะกาลข้อ 18 ของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียง) นำส่งให้กลุ่มงานกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ดส.) เพื่อประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5 : เรื่องอื่นๆ
ระเบียบวาระที่ 5.1 : แนวทางการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกและส่งเสริมการแข่งขัน (Must Carry Rule) (กลุ่มงานวิชาการและจัดการทรัพยากรกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (วส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบหลักการเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกและส่งเสริมการแข่งขัน (Must Carry Rule) และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (โดย วส. เป็นเจ้าภาพ) ดำเนินการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกและส่งเสริมการแข่งขัน (Must Carry Rule) ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งให้นำเสนอเข้าที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5.2 : (ร่าง) ประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ผลิต นำเข้า จำหน่าย หรือมีไว้จำหน่ายหรือรับติดตั้งเครื่องรับ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับใช้ในการรับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการของกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก (คณะอนุกรรมการกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ / กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. จัดทำแนวทางปฏิบัติการอนุญาตเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องรับ หรือเครื่องมือ เพื่อใช้ในการรับหรือแปลงสัญญาณรายการในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก โดยให้เป็นไปตามแนวทางของ (ร่าง) ประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ผลิต นำเข้า จำหน่าย หรือมีไว้จำหน่ายหรือรับติดตั้งเครื่องรับ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับใช้ในการรับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการของกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิกและนำเสนอ กสท. พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5.3 : การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการถ่ายทอดสดสัญญาณโทรทัศน์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำร่างหนังสือชี้แจงการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการถ่ายทอดสดสัญญาณโทรทัศน์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ต่อกรรมการ กสท. ทุกท่านเพื่อพิจารณาให้ความเห็น ก่อนแจ้งต่อคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา ต่อไป
เลิกประชุมเวลา 13.00 น.
สร้างโดย - (8/4/2559 16:23:25)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 128