สรุปมติที่ประชุม กสทช. 2/2554 (กสทช.)
รายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ครั้งที่ 2/2554
วันพุธที่ 12 ตุลาคม 2554 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุม ชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ผู้เข้าประชุม
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
1. พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการ
2. พันเอก นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการ
3. พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ
4. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ
5. นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ
6. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ
7. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ
8. นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ
9. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ
10.นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ
11.พลเอกสุกิจ ขมะสุนทร กรรมการ
12.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการ กสทช.
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.
1. นายอารักษ์ โพธิทัต ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักการประชุม และเลขานุการ
2. นางดวงเดือน เสวตสมบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและติดตามประเมินผล
3. นายบุญยิ่ง โหมดเทศน์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนมติและรายงานการประชุม
4. นางอรุณ วงศ์ศิวะวิลาส ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนงานวาระการประชุม
5. นางนภาพร เก่งสาร ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
6. นางสาวสุภาวดี สดศรี ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
7. นางสาวจุฑาสินี คำบำรุง ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง
8. นางสาวอภิชญามล วารุณประภา ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง
ผู้ชี้แจง
1. นายวรพงศ์ นิภากรพันธ์ ผู้อำนวยการ กลุ่มภารกิจด้านการ งบประมาณ
2. นางยุพา จันทร์กระจ่าง กลุ่มภารกิจด้านการงบประมาณ
3. นางลักษมี นุตตะโร กลุ่มภารกิจด้านการงบประมาณ
4. นางเรวดี ทับกิลา กลุ่มภารกิจด้านการงบประมาณ
5. นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการ กลุ่มงานสำนักเลขานุการ คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุ โทรทัศน์
6. นายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการส่วน สำนักทรัพยากรบุคคล
7. นางสาวลลิดา อันยะวรรธนะ สำนักทรัพยากรบุคคล
8. นายโภไคย ศรีรัตโนภาส สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ในราชการ (สปร.)
9. นายนิรุต อาภรณ์ สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ในราชการ (สปร.)
ระเบียบวาระที่ 1 : เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
1. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 กสทช.ได้มีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องในกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และด้านโทรคมนาคมเพื่อร่วมกันแก้วิกฤติของน้ำท่วมในปัจจุบัน ซึ่งผ่านไปด้วยความเรียบร้อยและ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการ สำหรับวันนี้เรื่องที่จะประชุมเป็นเรื่องที่สืบเนื่องจากการประชุมครั้งแรก ซึ่งยังมีอีกหลายวาระโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอนุกรรมการต่างๆ เพื่อขอแนวทางหรือหลักการในการดำเนินการเพื่อจะได้เริ่มปฏิบัติงานได้
2. สำหรับการประชุมในระยะต่อๆ ไป จะมีวาระการประชุม กสทช.หลายเรื่อง จึงมอบหมายให้เลขานุการประธาน กสทช.และ ผู้อำนวยการสำนักประธานกรรมการ เข้าร่วมการประชุมด้วยเพื่อจดบันทึกสรุปสาระสำคัญของการประชุมให้แก่ประธาน กสทช.เพื่อเตือนความจำและติดตามงาน
3. ประธาน กสทช.ได้หารือที่ประชุมเรื่องความเหมาะสมในการพบปะสนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่วงเช้า พร้อมรับประทานอาหารเช้าร่วมกันของ กสทช.ทุกท่าน สัปดาห์ละ 1-2 วัน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าในชั้นต้นควรกำหนดเป็นสัปดาห์ละ 1 วัน และเพื่อความสะดวก ควรกำหนดเป็นวันเดียวกับวันที่มีการประชุมบอร์ดคือทุกวันพุธ เวลา 08.30 น.
4. มอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. รวบรวมรายละเอียดหลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูง และแจ้งให้ กสทช.ทราบเพื่อจะได้พิจารณาการเข้าอบรมตามความเหมาะสมต่อไป
มติที่ประชุม
1. รับทราบเรื่องตามที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
2. เห็นชอบกำหนดการพบปะสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของกสทช. ทุกวันพุธ ช่วงเวลา 08.30 น. ก่อนการประชุม กสทช.
3. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.รับข้อคิดเห็นที่ประชุมไปดำเนินการต่อไป ดังนี้
3.1 รวบรวมรายชื่อหลักสูตรการอบรมสำหรับผู้บริหารระดับสูงให้ กสทช.เพื่อทราบ
3.2 ให้สำนักงาน กสทช.จัดเตรียมห้องประชุมพร้อมอาหารเช้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการพบปะสนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของ กสทช.ทุกวันพุธ เวลา 08.30 น. ช่วงเช้าก่อนการประชุม กสทช. เวลา 09.30 น.
ระเบียบวาระที่ 2 : เรื่องรับรองรายงานการประชุมรับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 1/2554 วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2554
มติที่ประชุม รับรองรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 1/2554 วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2554 ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ โดยมีข้อแก้ไขดังนี้
1. ให้แก้ไขข้อความมติที่ประชุมวาระที่ 3.8.3 หน้า 10 บรรทัดที่ 2 ให้ถูกต้อง จากเดิม “ เป็นผู้ประสานการดำเนินการในการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุน..” เป็น “เป็นผู้ประสานงานดำเนินการเพื่อแจ้งเชิญประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุน..”
2. ให้เพิ่มเติมคำว่า “ต่างท้องที่” ต่อท้ายข้อความ “ การเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ” ในมติวาระที่ 4.1 หน้า 11 ข้อ 1 บรรทัดที่ 4
3. ให้แก้ไขตัวสะกดคำว่า “พระบาม” ให้ถูกต้องเป็น “พระบาท” ในมติที่ประชุมวาระที่ 4.2 หน้า 11 บรรทัดที่ 2
4. รับทราบเรื่อง สำนักงาน กสทช.ได้ประสานงานกับผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงาน ป.ป.ช.พร้อมเจ้าหน้าที่ จะมาชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประธาน กสทช. รองประธาน กสทช.และ กรรมการ ทุกท่าน ในการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 2 ตึกอำนวยการ ตามที่ ปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการ กสทช. รายงานให้ที่ประชุมทราบ
ระเบียบวาระที่ 3 : เรื่องเพื่อพิจารณา
3.1 การกำหนดแนวทางการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่นๆ (ตาม พ.ร.บ.ฯ)
3.1.1 คณะกรรมการตรวจสอบภายใน (มาตรา 65)
3.1.2 คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบการเก็บรักษา การใช้จ่าย การจัดทำบัญชีและระบบบัญชี การบริหารกองทุน (มาตรา 55)
3.1.3 คณะอนุกรรมการการตรวจสอบและออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ชั่วคราวในการกิจการโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มาตรา 82-84)
3.1.4 คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการสรรหา และปฏิบัติงานของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล (มาตรา 71)
3.2 การกำหนดแนวทางการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่น ๆ (บริหารจัดการกสทช. และเฉพาะกิจ)
3.2.1 คณะอนุกรรมการจัดทำงบประมาณประจำปี
3.2.2 คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
3.2.3 คณะอนุกรรมการประเมินผลและจัดทำรายงานประจำปี
3.2.4 คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพัสดุ สำนักงาน กสทช.
3.2.5 คณะอนุกรรมการสวัสดิการและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน กสทช.
3.2.6 คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร
3.3 การปรับปรุงโครงสร้างสำนักงาน กสทช.
ระเบียบวาระที่ 3 : เรื่องเพื่อพิจารณา
ระเบียบวาระที่ 3.1 : การกำหนดแนวทางการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่นๆ (ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553)
3.1.1 คณะกรรมการตรวจสอบภายใน (มาตรา 68)
3.1.2 คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบการเก็บรักษา การใช้จ่ายการจัดทำบัญชีและระบบบัญชี การบริหารกองทุน (มาตรา 55)
3.1.3 คณะอนุกรรมการการตรวจสอบและออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ชั่วคราวในกิจการโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มาตรา 82-84)
3.1.4 คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการสรรหา และปฏิบัติงานของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล (มาตรา 71)
ระเบียบวาระที่ 3.1.1 : คณะกรรมการตรวจสอบภายใน (มาตรา 68)
มติที่ประชุม มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.รับข้อคิดเห็นของที่ประชุมไปศึกษารายละเอียดรูปแบบ และแนวทางการดำเนินการในเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในขององค์กรอิสระอื่นๆ โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติของกรรมการ การกำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ รวมทั้งรูปแบบและวิธีการดำเนินงาน อาทิ การจ้าง Outsource มาดำเนินการ แล้วประมวลสรุปนำเสนอที่ประชุม กสทช.เพื่อพิจารณาแนวทางเลือกที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่ 3.1.2 : คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบการเก็บรักษา การใช้จ่าย การจัดทำ บัญชีและระบบบัญชี การบริหารกองทุน (มาตรา 55)
มติที่ประชุม เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 กำหนดให้การเก็บรักษา การใช้จ่าย การจัดทำบัญชีและระบบบัญชี การบริหารกองทุน อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ต่อไป แล้วรายงาน กสทช. ทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.1.3 : คณะอนุกรรมการการตรวจสอบและออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ชั่วคราวในกิจการโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มาตรา 82-84)
มติที่ประชุม โดยที่การดำเนินการในเรื่องการตรวจสอบ และออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ชั่วคราวในกิจการโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบกับผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายทั้งในด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคม กสทช.จำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) รับเรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการตรวจสอบและออกใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ชั่วคราวในกิจการโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ไปพิจารณาศึกษารายละเอียดถึงความเหมาะสมในส่วนที่เกี่ยวข้องแต่ละด้านให้ชัดเจนก่อน โดยเฉพาะการวิเคราะห์เนื้องาน และการจัดลำดับความสำคัญของงาน ให้สอดคล้องกับภารกิจและอำนาจหน้าที่ ตามมาตรา 82 มาตรา 83 มาตรา 84 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 แล้วนำเสนอ กสทช. พิจารณาการแต่งตั้งพร้อมรายชื่อและประวัติต่อไป ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปรวบรวมรายละเอียดข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ สัญญาสัมปทานระหว่างหน่วยงานรัฐ/ รัฐวิสาหกิจ ที่มีอยู่กับผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เป็นต้น เพื่อจัดส่งให้ กสท. และ กทค. ใช้ประกอบการพิจารณาความเหมาะสมในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ
ระเบียบวาระที่ 3.1.4 : คณะอนุกรรมการจัดทำระเบียบค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการสรรหา และปฏิบัติงานของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล (มาตรา 71)
มติที่ประชุม โดยที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 มาตรา 72 ได้กำหนดภารกิจของคณะกรรมการติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานในการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการ และการบริหารงานของ กสทช. กสท. กทค. สำนักงาน กสทช.และเลขาธิการ กสทช. ไว้ ซึ่งมีภารกิจความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นกว่าคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2543 จึงสมควรต้องพิจารณากำหนดค่าตอบแทนการฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ ให้เหมาะสมในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากฐานการคิดค่าตอบแทนเดิมของคณะกรรมการติดตามฯ ของสำนักงาน กสทช. ตามปริมาณงานและความรับผิดชอบที่เพิ่มสูงขึ้นตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ มอบหมายให้ สำนักงาน กทช.รับหลักการของที่ประชุมข้างต้นไปดำเนินการจัดทำระเบียบค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการสรรหา และปฏิบัติงานของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล และนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณาต่อไป
ระเบียบวาระที่ 3.2 : การกำหนดแนวทางการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่น ๆ (บริหารจัดการกสทช. และเฉพาะกิจ)
3.2.1 คณะอนุกรรมการจัดทำงบประมาณประจำปี
3.2.2 คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
3.2.3 คณะอนุกรรมการประเมินผลและจัดทำรายงานประจำปี
3.2.4 คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพัสดุ สำนักงาน กสทช.
3.2.5 คณะอนุกรรมการสวัสดิการและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน กสทช.
3.2.6 คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร
ระเบียบวาระที่ 3.2.1 : คณะอนุกรรมการจัดทำงบประมาณประจำปี
มติที่ประชุม ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน กสทช. จำเป็นต้องมีการพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์ และทิศทางการดำเนินงานของ กสทช.เพื่อเป็นกรอบในการจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน กสทช. ให้เหมาะสมและสอดคล้อง กอปรกับคณะอนุกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นควรต้องทำหน้าที่ช่วยพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมในรายละเอียดของคำขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในแผนงานโครงการต่างๆ ทั้งในเรื่องความเหมาะสมของจำนวนเงินงบประมาณที่เสนอขอ และผลที่จะได้รับ (Outcome) ตลอดจนการติดตามการดำเนินงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณ (Performance Audit) รวมถึงคณะอนุกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นควรมีองค์ประกอบทั้งจากบุคคลภายนอกและภายในองค์กรในสัดส่วนที่เหมาะสม และสมควรปรับเปลี่ยนชื่อคณะอนุกรรมการตามที่เสนอมาให้เหมาะสมยิ่งขึ้นเนื่องจากคณะอนุกรรมการฯมิได้มีหน้าที่จัดทำงบประมาณ การจัดทำรายละเอียดแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ รับผิดชอบด้านงบประมาณนี้ ของ กสทช. เป็นไปอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้ กสทช.ประเสริฐฯ และ กสทช. พลโท ดร.พีระพงษ์ฯ หารือร่วมกันในการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ รับผิดชอบด้านงบประมาณ โดยนำข้อคิดเห็นของที่ประชุมข้างต้นเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณา พร้อมรายละเอียดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการดังกล่าวต่อไป
ระเบียบวาระที่ 3.2.2 : คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย โดยให้ ประธาน กสทช. ร่วมกับ กทค. และ กสท. รวมทั้งรับไปพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในเรื่องกฎหมาย แล้วนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณา
2. สำหรับการกำหนดค่าตอบแทนของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (นางดวงเดือน เสวตสมบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและติดตามประเมินผล) ไปหารือ กสทช. สุทธิพลฯ เพื่อพิจารณาจัดทำร่างระเบียบ กสทช. ว่าด้วยวิธีการประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และค่าตอบแทน ให้เหมาะสม แล้วนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณา
ระเบียบวาระที่ 3.2.3 : คณะอนุกรรมการประเมินผลและจัดทำรายงานประจำปี
มติที่ประชุม
1. เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนจะสิ้นปี 2554 แล้ว โดย กสทช. จะต้องจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และรัฐสภาภายใน 120 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 กอปรกับปัจจุบัน สำนักงาน กสทช. ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฯ ที่มีนายดิเรก เจริญผล เป็นประธานอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น สำหรับการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2554 ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้สำนักงาน กสทช.โดยคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฯ ที่จัดตั้งไว้แล้วรับไปดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป อย่างไรก็ดี เนื่องจากช่วงต้นเดือนตุลาคม 2554 เป็นช่วงระยะเปลี่ยนผ่านจาก กทช.ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. มาเป็น กสทช. ดังนั้น เพื่อความถูกต้อง และเหมาะสมของการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2554 จึงให้แบ่งการจัดทำรายงานผลฯ ออกเป็น 2 ช่วงได้แก่ ช่วงแรกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 – วันที่ 7 ตุลาคม 2554 เป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานฯ ของ กทช.ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. และในช่วงต่อมาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 เป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานฯ ของ กสทช. อยู่ในเอกสารรายงานฉบับเดียวกัน
2. สำหรับการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 กสทช.จะได้พิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสม รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีตามที่เสนอมา (ตัดคำว่า “ประเมินผล” ออก) ขึ้นมารับผิดชอบต่อไป
ระเบียบวาระที่ 3.2.4 : คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพัสดุสำนักงาน กสทช.
มติที่ประชุม โดยที่สำนักงาน กสทช.ได้มีการดำเนินการในเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินโดยสำนักงานฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบอยู่เดิมแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการในเรื่องดังกล่าวและรายงานให้ กสทช.ทราบดังนี้
1. จัดทำรายละเอียดบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ของสำนักงาน กสทช. ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2554
2. จัดทำรายละเอียดสถานีวิทยุที่อยู่ภายใต้สำนักงาน กสทช. และสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยให้รายงานสถานภาพในปัจจุบัน
ระเบียบวาระที่ 3.2.5 : คณะอนุกรรมการสวัสดิการและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน กสทช.
มติที่ประชุม โดยที่สำนักงาน กสทช.ได้มีการดำเนินการในเรื่องสวัสดิการของสำนักงาน กสทช. โดยสำนักงานฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบอยู่เดิมแล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ไปดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป แล้วรายงานให้ กสทช.ทราบ
ระเบียบวาระที่ 3.2.6 : คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร
มติที่ประชุม การประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญที่สมควรต้องดำเนินการในแนวทางที่เหมาะสม โดยเฉพาะการรณรงค์ให้ผู้บริโภคได้ตระหนักในเรื่องสำคัญต่างๆ มิใช่เป็นการประสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรเพียงอย่างเดียว รวมทั้งต้องเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะได้ทราบถึงภารกิจ และบทบาทหน้าที่ของ กสทช.ว่าเราทำอะไร และมีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีแนวทางที่เหมาะสม ชัดเจน และมีกลไกขับเคลื่อนและกำกับดูแลให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างที่ประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร โดยมีประธาน กสทช. เป็นประธานกรรมการ และมี กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค 2 ท่าน ( กสทช.ประวิทย์ฯ และ กสทช.สุภิญญาฯ) ร่วมเป็นกรรมการ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้ กสทช.สุภิญญาฯ รับไปพิจารณาในรายละเอียดของการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร แล้วนำเสนอ กสทช. พิจารณาต่อไป
ระเบียบวาระที่ 3.3 : การปรับปรุงโครงสร้างสำนักงาน กสทช.
มติที่ประชุม รับทราบรายงานผลการศึกษา และข้อเสนอแนะแนวทางการจัดโครงสร้างสำนักงาน กสทช.ของสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ (สปร.) ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับข้อเสนอแนะของ สปร. พร้อมประเด็นข้อคิดเห็นของที่ประชุม อาทิ การวิเคราะห์รายละเอียดของเนื้องานและการระบุอำนาจหน้าที่ของแต่ละสำนักให้ชัดเจน ความซ้ำซ้อนกรณีคณะที่ปรึกษาตามโครงสร้างที่เสนอกับที่ปรึกษาของ กสทช. เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาดำเนินการปรับโครงสร้างสำนักงาน กสทช. ให้เหมาะสม และเป็นไปตามนโยบายของ กสทช. ให้เกิดการบูรณาการในภาพรวมทั้งด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์และด้านโทรคมนาคม สามารถตอบสนองภารกิจตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ระเบียบวาระที่ 4 : เรื่องเพื่อทราบ
ระเบียบวาระที่ 4.1 : รายงานสถานะการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปี 2554 : ปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการ กสทช.(นายฐากรฯ) , กลุ่มภารกิจด้านการงบประมาณ
มติที่ประชุม
1. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานและสถานะการใช้จ่ายเงินงบประมาณของสำนักงาน กสทช.ประจำปี 2554 ภายในกรอบแผนงบประมาณวงเงิน 3,641.65 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 3 (วันที่ 30 กันยายน 2554) มีการเบิกจ่ายและผูกพันสัญญา จำนวน 1,681.176 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.17 ของแผนงบประมาณ ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ ดังนี้
1.1 ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงานของ กสทช.และสำนักงาน กสทช. (ค่าใช้จ่ายประจำ)จำนวน 1,068,583 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.52 ของแผนงบประมาณที่ตั้งไว้จำนวน 1,857.789 ล้านบาท
1.2 ค่าใช้จ่ายลงทุน (โครงการ จำนวน 36 โครงการ) จำนวน 595.655 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.69 ของแผนงบประมาณที่ตั้งไว้จำนวน 1,069.528 ล้านบาท แยกเป็น
1.2.1 โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 โครงการ จำนวนเงินงบประมาณ 93.853 ล้านบาท
1.2.2 โครงการที่ผูกพันสัญญาแล้ว 23 โครงการ จำนวนเงินงบประมาณ 501.801 ล้านบาท
1.2.3 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และยังไม่ได้ผูกพันสัญญา 9 โครงการ จำนวนเงินงบประมาณ 400.329 ล้านบาท
1.3 เงินจัดสรรเข้ากองทุน จำนวน 150.00 ล้านบาท
1.4 เงินงบกลางกรณีฉุกเฉินและจำเป็น จำนวน 16.937 ล้านบาท
2. สำหรับค่าใช้จ่ายลงทุนตาม 1.2.3 ซึ่งยังไม่ได้ผูกพันสัญญา 9 โครงการ จำนวน 400.329 ล้านบาท นั้น ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.นำเสนอรายละเอียดโครงการ และความคืบหน้าการดำเนินงานพร้อมผู้รับผิดชอบต่อที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของโครงการในการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานตามภารกิจหน้าที่ของ กสทช. ต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5 : เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
ระเบียบวาระที่ 5.1 : รายงานผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและ วิทยุโทรทัศน์ : กส.
มติที่ประชุม
1. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจาย เสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในห้วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 9 กันยายน 2551 ถึง วันที่ 7 ตุลาคม 2554 ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ
2. จากการรายงานผลการดำเนินงานตามข้อ 1 ปรากฎข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าตอบแทนในการทำงานของคณะทำงานเฉพาะด้าน เพื่อรองรับภารกิจตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 จำนวน 4 ชุด ได้แก่
1) คณะทำงานด้านผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ดำเนินการอยู่ก่อนที่พระราช บัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้
2) คณะทำงานด้านกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่
3) คณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน และ
4) คณะทำงานเฝ้าระวังและติดตามปัญหาวิทยุกระจายเสียงชุมชน ซึ่งได้ปฏิบัติงานในห้วงระยะเวลาก่อนที่ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 จะมีผลบังคับใช้ และต่อเนื่องมาจนถึงเดือนตุลาคม 2554 (10 เดือน) ว่า ยังมิได้รับค่าตอบแทนในการทำงานภายหลังจาก พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 บังคับใช้อันเนื่องมาจากการพิจารณาตีความข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ยังไม่อาจมีข้อยุติโดยชัดเจนได้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องในเรื่องนี้กับผู้ที่ได้ปฏิบัติงานให้กับ กสทช. โดยไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกฎหมาย ที่ประชุม กสทช.จึงมีมติมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (สำนักกฎหมาย และสำนักการคลัง) ตรวจสอบและพิจารณาในประเด็นทางกฎหมาย และระเบียบการเบิกจ่ายค่าตอบแทนที่เกี่ยวข้องว่าหากจะมีการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุม ให้แก่คณะทำงานดังกล่าวจะขัดกับระเบียบและข้อกฎหมายใดหรือไม่ และหากจะดำเนินการเบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทนพิเศษจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ตลอดจนมีระเบียบหรือข้อกฎหมายใดรองรับ แล้วนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณา
หมายเหตุ กสทช.สุภิญญาฯ ได้แสดงตนขอออกจากที่ประชุม กสทช. ตามมาตรา 23 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นกรรมการผู้มีส่วนได้เสียกับการพิจารณาในเรื่องนี้
ระเบียบวาระที่ 5.2 : การขอรับการสนับสนุนจัดนิทรรศการในงาน ITU TELCOM WORLD 2011 ณ นครเจนีวา สมาพันธ์รัฐสวิส : ปฏิบัติหน้าที่ รองเลขาธิการ (ทศพรฯ) , บป.
มติที่ประชุม
1. มอบอำนาจให้ประธานกสทช. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณจัดนิทรรศการในงาน ITU TELCOM WORLD 2011 ณ นครเจนีวา สมาพันธ์รัฐสวิส ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอขอรับการสนับสนุน ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา 23 วรรคสาม แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553
2. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.ประสานงานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อขอให้จัดส่งรายละเอียดการขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดนิทรรศการในงาน ITU TELCOM WORLD 2011 ณ นครเจนีวา สมาพันธ์รัฐสวิส เพื่อประกอบการพิจารณาของ ประธาน กสทช.ในการพิจารณาอนุมัติให้การสนับสนุน ตามข้อ 1 ต่อไป
หมายเหตุ รองประธาน กสทช.พันเอก นทีฯ สงวนสิทธิไม่พิจารณาในวาระนี้
ระเบียบวาระที่ 5.3 : การพิจารณากำหนดโครงสร้างและการแบ่งส่วนงานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ : รองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ) ,กส.
มติที่ประชุม โดยที่การพิจารณาโครงสร้างสำนักงาน กสทช. นั้น ควรพิจารณาในภาพรวมจึงจะทำให้การบริหารงานขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบ รวมทั้งเกิดเอกภาพ และบูรณาการในการประสานการดำเนินงาน แต่โดยที่การดำเนินงานด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ มีภารกิจที่สำคัญหลายประการต้องเร่งดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ กอปรกับปัจจุบันกลไกที่มีอยู่ยังไม่สามารถรองรับภารกิจดังกล่าวได้ทั้งในด้านโครงสร้างและอัตรากำลัง ด้านบุคลากรในสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งด้านอาคารสถานที่ปฏิบัติงาน และด้านงบประมาณที่เหมาะสมเพียงพอ ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการการกำหนดโครงสร้างชั่วคราวด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อเริ่มต้นการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบโครงสร้างดังกล่าว และการแบ่งส่วนงานตามที่เสนอ ทั้งนี้ โดยในส่วนรายละเอียดของการดำเนินการด้านบุคลากร โดยมอบหมายให้ กสท.จัดทำแนวทางการคัดเลือกบุคลากรภายในสำนักงาน กสทช.เพื่อย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในโครงสร้างชั่วคราวด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ทั้งนี้ โดยให้เลขาธิการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบบริหารงานบุคคล ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ส่วนกรณีการคัดเลือกบุคคลภายนอกให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการตามระเบียบบริหารงานบุคคลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนด้านงบประมาณให้ดำเนินการตามระเบียบงบประมาณที่กำหนดไว้ สำหรับการดำเนินการด้านอาคารสถานที่ปฏิบัติงาน ให้พิจารณาด้วยความรอบคอบโดยต้องไม่เป็นอาคารสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการทั้งในด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคม
2. เพื่อให้การดำเนินการตามข้อ 1 เกิดความเหมาะสมภายใต้หลักความคุ้มค่า และหลักธรรมภิบาลมากยิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. (หน่วยงาน/กลุ่มภารกิจด้านกิจการกระจายเสียง) ไปจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งในด้านบุคลากร และด้านงบประมาณ อาทิ การกำหนดตำแหน่ง การคัดเลือกและการเข้าสู่ตำแหน่ง การกำหนดอัตราค่าตอบแทน ตลอดจนรายละเอียดของกิจกรรมในแต่ละรายการในการใช้จ่ายงบประมาณทั้งในส่วนของงบดำเนินงาน งบลงทุน และงบบริหารจัดการองค์กรภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 250 ล้านบาทที่เสนอ แล้วนำเสนอ กสทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ระเบียบวาระที่ 5.4 : แนวทางหรือมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย : ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ กสทช. (นายฐากรฯ),ปฏิบัติหน้าที่ รสทช. (นายประเสริฐฯ),กท.,ปก.,ฉก.,กส.,สท.
มติที่ประชุม
1. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุม กสทช.ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2554 ของสำนักงาน กสทช. และรายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของผู้ประกอบกิจการด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์และผู้ประกอบกิจการด้านโทรคมนาคม ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ
2. ที่ประชุมมีมติกำหนดแนวทางและมาตรการและวิธีการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดังนี้
2.1 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ความร่วมมือในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอุทกภัย โดยให้อิงเนื้อหา ข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ซึ่งเป็นข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดยกำหนดให้เผยแพร่ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ เวลา 10.00 น. 16.00 น. และ 22.00 น. โดยจะดำเนินการเป็นระยะเวลา 1 เดือน
2.2 ให้เลขาธิการ กสทช.ทำหนังสือถึงผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 ราย ให้ยืดวันหมดอายุสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน และยกเว้นค่าบริการตามความเหมาะสม
2.3 ให้เลขาธิการ กสทช. สั่งการสำนักที่เกี่ยวข้อง ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตั้งศูนย์ประสานงานของ กสทช.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ดอนเมือง) เพื่อรับทราบข้อมูลพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ระบบโทรคมนาคมมีความเสียหายไม่สามารถให้บริการได้ และทำการแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทำการแก้ไขให้สามารถบริการได้
2.4 ให้เลขาธิการ กสทช. สั่งการให้สำนักที่เกี่ยวข้องประสานงานกับวิทยุสมัครเล่นที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม แจ้งสถานภาพการทำงานของระบบวิทยุ และให้แจ้งความประสงค์เพื่อขอรับการสนับสนุนจาก กสทช. และให้แจ้งบอร์ด กสทช.และสำนักงาน กสทช. เพื่อพิจารณาช่วยเหลือสนับสนุนต่อไป
2.5 ในระยะยาวให้บรรจุหัวข้อการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมเพื่อกิจการบรรเทาสาธารณภัยในแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม
ระเบียบวาระที่ 5.5 : รถยนต์ประจำตำแหน่งของ กสทช. : กสทช.(พลโท ดร.พีระพงษ์ฯ)
มติที่ประชุม โดยที่ประธาน กสทช.เป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ดังนั้น ในการจัดหารถยนต์ประจำตำแหน่ง จึงควรกำหนดสิทธิเทียบเท่ากับผู้บริหารสูงสุดขององค์กรอิสระอื่นๆ อาทิ ประธานศาลฎีกา ประธาน ปปช. ประธาน กกต. เป็นต้น ซึ่งไม่จำกัดขนาด ซีซี ของเครื่องยนต์ ดังนั้น เพื่อให้การจัดหารถยนต์ประจำตำแหน่งของประธาน กสทช. และ กสทช.เป็นไปอย่างเหมาะสม และถูกต้อง จึงมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.ไปตรวจสอบรายละเอียดหลักเกณฑ์การพิจารณาจัดหารถประจำตำแหน่ง โดยนำตัวอย่างกรณีของคณะรัฐมนตรีมาเทียบเคียง ซึ่งที่ผ่านมาตาม พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นของประธานกรรมการและกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้กำหนดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของประธาน กทช.เทียบเท่านายกรัฐมนตรีและตำแหน่งกรรมการ กทช. เทียบเท่า รองนายกรัฐมนตรี แล้วนำเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณาต่อไป
ระเบียบวาระที่ 5.6 : เรื่องเร่งด่วนในด้านกิจการโทรคมนาคมที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะต้องเร่งดำเนินการ : รองประธานกรรมการ ( พันเอกนทีฯ)
มติที่ประชุม
1. รับทราบเรื่องเร่งด่วนในด้านกิจการโทรคมนาคมที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมจะต้องเร่งดำเนินการ ตามที่ รองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ) แจ้งต่อที่ประชุม ที่สำคัญ อาทิ
1.1 การเร่งรัดออกใบอนุญาต 3G
1.2 การตีความมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น ความถี่ฯ พ.ศ.2553 โดยเฉพาะขอบเขตของการประกอบกิจการรายย่อย โดยคำนึงถึงการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม
1.3 ตรวจสอบกรณีการทำสัญญาของ บมจ.กสท โทรคมนาคม กับกลุ่มบริษัท True
1.4 เร่งสร้างความชัดเจนกรณีการเปลี่ยนผ่านสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ
1.5 การพิจารณา กรณีของประกาศ กสทช.ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว
2. มอบหมายให้ กทค.เร่งดำเนินการตามข้อ 1 โดยด่วน เนื่องจากเป็นนโยบายที่สำคัญ
ระเบียบวาระที่ 5.7 : การจัดประชุม Workshop : รองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ)
มติที่ประชุม เห็นชอบการจัดประชุม Workshop ของ กสทช. เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ตามที่รองประธานกรรมการ (พันเอก นทีฯ) เสนอ โดยในชั้นต้น เห็นสมควรจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 21 ตุลาคม 2554 ที่พัทยา จ.ชลบุรี ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ และอำนวยความสะดวกให้แก่ กสทช. รวมทั้ง มอบหมายให้ กสทช. สุภิญญาฯ เป็นผู้พิจารณาและประสานงานในการจัดหาวิทยากร หรือ Facilitator สำหรับดำเนินการประชุมหารือในครั้งนี้อย่างเหมาะสมด้วย
ระเบียบวาระที่ 5.8 : การประสานงานศูนย์รักษาความปลอดภัย : รองประธานกรรมการ (กสทช. พันเอก เศรษฐพงค์ฯ)
มติที่ประชุม รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุม กสทช.ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2554 เรื่องการประสานงานศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ในการตรวจสอบการลักลอบการติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังในห้องทำงานของ กสทช. และห้องประชุม ตามที่ รองประธานกรรมการ (พันเอก เศรษฐพงค์ฯ) เสนอ ทั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ที่มาดำเนินการ ให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
สร้างโดย - (23/2/2559 11:45:57)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 173