ด้วยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 49 วรรคสอง กำหนดให้ในส่วน ของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ต้องจัดให้มีการใช้คลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือสำหรับ ภาคประชาชนรวมกันในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของความสามารถในการส่งสัญญาณที่จะอนุญาตในแต่ละครั้ง โดยที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 20/2567 เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน 2567 ได้พิจารณาเห็นชอบหลักการจัดสรรคลื่นความถี่และการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง สำหรับกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งไม่เกิน 1 กิโลวัตต์ ตามประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม ภาคผนวก ข จำนวน 3,346 คลื่นความถี่ โดยเป็นการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับให้บริการกระจายเสียงประเภทกิจการบริการสาธารณะ ประเภทกิจการบริการชุมชน และประเภทกิจการทางธุรกิจ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนคลื่นความถี่ ที่จะจัดสรรตามแต่ละประเภทกิจการหรือเหตุจำเป็นอื่น ให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการปรับปรุงจำนวนคลื่นความถี่ ที่จะจัดสรรตามแต่ละประเภทกิจการตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว โดยให้สอดคล้องกับแนวทางการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และสัดส่วนการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงตามที่ กสทช. มีมติเห็นชอบ
     การจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับประเภทกิจการบริการสาธารณะและประเภทกิจการบริการชุมชน ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนคลื่นความถี่ที่สามารถจัดสรรได้ในภาพรวมของทั้งประเทศ ส่งผลให้มี คลื่นความถี่ที่สามารถจัดสรรในครั้งนี้สำหรับบริการสาธารณะและบริการชุมชนได้ 839 คลื่นความถี่และคลื่นความถี่ที่เหลือให้จัดสรรเป็นประเภทกิจการทางธุรกิจ โดยมีรายละเอียดตามตารางแสดงคลื่นความถี่ที่จะเชิญชวนให้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งไม่เกิน 1 กิโลวัตต์ (ตามประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม ภาคผนวก ข) ที่แนบมาท้ายนี้
     ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียง แต่ละประเภทอีกครั้งหนึ่ง โดยสามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ ของสำนักงาน กสทช.
 
 

สร้างโดย  - มหิตถีห์  จักราบาตร (8/10/2567 9:32:22)