กสทช. ชี้แจงการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ระบบ FM และเงื่อนไขและวิธีการประมูลสำหรับวิทยุกระจายเสียงประเภทธุรกิจระดับท้องถิ่น
พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการยื่
นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่
นความถี่ระบบ FM สำหรับการให้บริการกระจายเสี
ยงประเภทธุรกิจ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งได้กำหนดคลื่นความถี่จำนวน 2,507 คลื่นความถี่ที่สามารถใช้งานได้ในระดับท้
องถิ่น โดยเป็นการชี้แจงกระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการยื่นคำขอรับใบอนุ
ญาตรวมทั้งเงื่อนไขและวิธี
การประมูล เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งรายเดิ
มที่มีอยู่ปัจจุบันจำนวนประมาณ 2 พันกว่าสถานี และผู้ประกอบการรายใหม่ ได้เข้าใจและตอบข้อซักถาม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 500 คน
สำหรับการอนุญาตกิจการกระจายเสี
ยงประเภทธุรกิจตามประกาศเชิ
ญชวนนี้ แม้ว่าตามกฎหมายกำหนดให้ต้องใช้
วิธีการประมูล อย่างไรก็ตามได้กำหนดคุณสมบัติ
ของผู้ยื่นคำขอและเงื่
อนไขการประมูล เพื่อมุ่งส่งเสริมให้เกิดผู้
ประกอบการที่อยู่ในท้องถิ่นนั้
นจริงและป้องกันมิให้เกิดนายทุ
นเข้ามาผูกขาด โดยมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ เช่น
- คุณสมบัติและลักษณะต้องห้
ามของผู้ขอรับใบอนุญาต ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีบุคคลผู้
มีสัญชาติไทยซึ่งมีผู้ถือหุ้
นหรือผู้เป็นหุ้นมีภูมิ
ลำเนาภายในจังหวัดนั้นไม่น้
อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถื
อหุ้น โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
ในจังหวัดนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนวันยื่นคำขอ เป็นต้น
- ผู้ขอรับใบอนุญาตที่มีสิทธิเข้
าร่วมประมูล ต้องไม่เป็น “ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน” ทั้งในเชิงบริหารและในเชิงทุน ตามที่ประกาศฯ กำหนด เป็นต้น
- จำนวนใบอนุญาต ระดับท้องถิ่น นั้น กำหนดให้ 1 นิติบุคคล สามารถยื่นคำขอได้สูงสุดไม่เกิน 2 คลื่นความถี่ภายในจังหวัดเดี
ยวกัน และเมื่อสิ้นสุดการประมู
ลสามารถเลือกเป็นผู้ชนะได้เพี
ยงแค่ 1 คลื่นความถี่ เท่านั้น
โดยจะต้องเตรียมเอกสารที่ใช้
ในการยื่นคำขอให้ครบถ้วน และต้องยื่นผ่านระบบ e-BCS ในระหว่างวันที่
28 พ.ย. - 27 ธ.ค. 67 รวมทั้งชำระค่าธรรมเนี
ยมคำขอในอัตรา 5,350 บาท (รวม VAT) ต่อคลื่นความถี่ รวมทั้งหลักประกันการประมูล 10% (2,500 บาท) ของราคาขั้นต่ำของคลื่นความถี่ ที่กำหนดราคาที่ 25,000 บาท ซึ่งหากผู้ประกอบการรายเดิมที่
ได้รับอนุญาตให้
ทดลองออกอากาศไม่มายื่
นภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องสิ้
นสุดการทดลองออกอากาศภายในวันที่
31 ธันวาคม 2567 นี้ทันที แต่หากมายื่นจะได้รับสิทธิ
การทดลองออกอากาศต่
อตามบทเฉพาะจนกว่า กสทช. จะสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือสั่
งเป็นอย่างอื่น เช่นเดียวกับประเภทชุ
มชนและสาธารณะ
สำหรับการประมูลจะดำเนินการผ่
านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โดย กสทช. จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้
ยื่นคำขอให้แล้วเสร็จ และจะให้ผู้ยื่นคำขอที่ผ่
านและมีสิทธิเข้าร่วมประมู
ลทำการทดลองทดสอบ (Mockup) ก่อนการประมูลจริง โดยคาดว่าจะจัดการประมูลได้
ประมาณกลางปีหน้า ซึ่งจะประกาศให้ทราบต่อไป
สำหรับเงื่อนไขและวิธีการประมูล ผู้เข้าร่วมการประมู
ลสามารถเสนอราคาเพิ่มกี่ครั้งก็
ได้ โดยต้องเสนอราคาครั้งแรกสูงกว่
าราคาเริ่มต้น และหากต้องการเป็นผู้ชนะต้
องเสนอราคาที่สูงกว่าราคาสูงสุด ณ ขณะนั้น สำหรับการเสนอราคาเพิ่มในแต่
ละครั้งจะต้องเสนอเป็นจำนวนเต็
มเท่าของขั้นราคา 1,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาในการประมูล 60 นาที ต่อ คลื่นความถี่ กรณีสิ้นสุดระยะเวลาการประมู
ลแล้ว ยังคงมีการเสนอราคาเท่ากัน จะขยายระยะเวลาครั้งละไม่เกิน 5 นาที จนกว่าจะได้ผู้ชนะการประมูล
“การยื่นขอรับใบอนุ
ญาตตามประกาศเชิญชวนสำหรับวิทยุ
กระจายเสียงระดับท้องถิ่
นประเภทธุรกิจในครั้งนี้ ต้องใช้วิธีการประมูลตามที่
กฎหมายกำหนด แม้ว่าในตอนแรกจะได้รับการคัดค้
านจากผู้ประกอบการรายเดิม ที่มีความห่วงใยว่าจะไม่ได้รั
บความเป็นธรรมและไม่ต้องการที่
จะปรับตัวเพื่อเข้าสู่ระบบใบอนุ
ญาต เนื่องจากคุ้นเคยกับการเป็นผู้ทดลองมานานเกือบ 30 ปี อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอขอบคุณที่ปัจจุบันทั้
งผู้ประกอบการรายเก่าและผู้ที่
สนใจรายใหม่ มีความเข้าใจต่อความมุ่งมั่
นของผมและได้เข้าร่วมประชุมรั
บฟังความคิดเห็นกันมาโดยตลอด โดยที่การทำหน้าที่ของผมในฐานะ กสทช. ที่ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ใดๆ ให้ “Free & Fair“ หรือ “เสรีและเป็นธรรม” แก่ประชาชนผู้ประกอบการทุกฝ่
ายให้ได้นั้น สิ่งสำคัญ คือ กสทช. ในฐานะผู้ออกหลักเกณฑ์รวมทั้งผู้
มีส่วนได้ส่วนเสีย จะต้อง “Clean & Clear“ หรือ “สะอาดและโปร่งใส” จึงจะทำหน้าที่ร่วมกันได้เป็
นอย่างดี และหากสังคมใดมีหลักเกณฑ์ที่ “Free & Fair“ แล้วจะทำให้สังคมนั้น “Care & Share“ หรือ “ดูแลและแบ่งปัน” กันและกัน ซึ่งหลักการนี้เป็นสิ่งที่ผมถู
กปลูกฝังมาตั้งแต่ศึกษาอยู่ที่
ประเทศเยอรมนี และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่
าจะทำให้กิจการกระจายเสียง ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสั
งคมและประเทศชาติได้อย่างยั่งยื
นยิ่งขึ้นต่อไป” พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ฯ กล่าวปิดท้าย
สร้างโดย - (20/11/2567 15:39:47)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 54