กสทช.สุทธิพล ร่วมอภิปราย“กฎหมายในยุคหลอมรวม”เวที ITU World 2013

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. ด้านกฎหมาย ได้รับเกียรติให้เป็นผู้ร่วมอภิปราย ในงานประชุม ITU World 2013 ภายใต้หัวข้อ “กฎหมายในยุคหลอมรวม” ซึ่งได้เสนอความเห็นว่าเมื่อกิจการโทรคมนาคม กิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมต่างๆที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ภายใต้แพล็ตฟอร์มเดียวกัน ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนจากการกำกับดูแลแบบดั้งเดิมไปสู่การกำกับดูแลในยุคหลอมรวม อันประกอบไปด้วย 1. “เนื้อหาการกำกับดูแล” ที่ต้องหลอมรวมมากยิ่งขึ้น ต้องเข้าใจพลวัตของเทคโนโลยีที่ไม่หยุดอยู่นิ่งและพัฒนาไปได้เร็วกว่ากฎหมายเสมอ ไม่สร้างความลักลั่นและความไม่แน่นอนในการบังคับใช้กฎหมาย อันจะนำไปสู่อุปสรรคต่อการสร้างสรรค์พัฒนาเทคโนโลยี อาทิ การปรับปรุงระบบออกใบอนุญาตให้สอดคล้องต่อการให้บริการที่หลากหลาย เป็นต้น
และ 2. การออกแบบ “รูปแบบโครงสร้างองค์กรกำกับดูแล” (institutional convergence) ว่าควรจะมีโครงสร้างแบบใด อย่างไรก็ตาม การก้าวเข้าสู่ยุคหลอมรวมขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละประเทศประกอบ จึงไม่มีคำตอบตายตัวว่าลักษณะโครงสร้างแบบใดที่เหมาะสมต่อการกำกับดูแลมากที่สุด โดยในบริบทของประเทศไทยนั้น รัฐธรรมนูญได้จัดตั้ง กสทช. ขึ้นเป็นองค์กรกำกับดูแลในรูปแบบองค์กรหลอมรวม (single converged regulator) ตามมาตรา 47 แต่ในด้านการทำงานตามอำนาจหน้าที่ ได้ถูกแยกเป็นคณะกรรมการย่อยสองชุดตามมาตรา 305 ของรัฐธรรมนูญคือ กสท. ดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กทค. ดูแลกิจการโทรคมนาคม ทำหน้าที่แยกจากกันตามอำนาจหน้าที่ โดยมีกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติคือ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 เชื่อมให้มีลักษณะเป็นองค์กรเดี่ยว (single converged regulator)
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเนื้อหาการกำกับดูแลของประเทศไทยยังมิได้ถูกนำมารวมไว้ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน แต่แยกกำกับดูแลในกิจการแต่ละด้านคนละฉบับคือ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และพ.ร.บ. กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งนับว่าเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ยังต้องการปรับปรุงพัฒนาให้เหมาะสมขึ้น โดยควรมีการหลอมรวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกิจการที่กำกับดูแลเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ภาครัฐและสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป