มอบหนังสือรับรองและแจ้งยอดชำระค่าประมูลคลื่น IMT 2.1 GHz ให้แก่ผู้ประมูลทั้งสามราย

              วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555 พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. มอบหนังสือแจ้งผลการประมูลให้แก่ผู้ประมูลทั้งสามราย อันประกอบไปด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท เรียล  ฟิวเจอร์ จำกัด และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด พร้อมนายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (บอร์ด กทค.) ครั้งที่ 38/2555 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2555 มีมติเห็นชอบผลการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications – IMT) ย่าน 2.1 GHz ตามผลดังนี้ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 14,625 ล้านบาท ได้เลือกย่านความถี่ชุดที่ 7-9 (1950 MHz -1965 MHz และ 2140 MHz – 2155 MHz) บริษัท เรียล  ฟิวเจอร์ จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 13,500 ล้านบาท เลือกย่านความถี่ชุดที่ 4-6 (1935 MHz – 1950 MHz และ 2125 MHz – 2140 MHz) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 13,500 ล้านบาท เลือกย่านความถี่ชุดที่ 1-3 (1920 MHz – 1935 MHz และ 2110 MHz – 2125 MHz) และให้สำนักงานดำเนินการตามที่กำหนดในประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications – IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 นั้นได้

             ผู้ประมูลทั้งสามรายเมื่อรับหนังสือดังกล่าวแล้วบริษัทจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปโดยการนำเงินจำนวนร้อยละห้าสิบของการประมูลรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 22,269.375 ล้านบาทชำระให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการต่อไปภายใน 90 วัน เมื่อได้รับเงินแล้วสำนักงาน กสทช. จะนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดินทันที  ส่วนบริษัทใดจะชำระเมื่อใดเป็นเรื่องความพร้อมของแต่ละรายซึ่งเมื่อสำนักงาน กสทช. ได้รับเงินดังกล่าวแล้ว ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดต่อไป

             นายฐากร กล่าวต่อว่า การที่มีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชนว่า การประมูลดังกล่าวมีราคาต่ำกว่าความจริง ไม่ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการเสนอราคาทางอีเล็คทรอนิคส์ (E-Auction) ของรัฐ อาจมีการฮั้วการประมูล นั้น  ขอเรียนว่า

              กสทช. เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550  โดยความในมาตรา 47 ซึ่งบัญญัติให้ คลื่นความถี่ที่ใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระองค์กรหนึ่งทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ตามวรรคหนึ่ง และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ  และดำเนินการดังกล่าวต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของรัฐ ประโยชน์สาธารณะอื่น และการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และพระราบบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา ได้บัญญัติให้ ผู้ใดประสงค์จะใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมต้องได้รับใบอนุญาต ซึ่งต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลาและเงื่อนไขที่ กสทช. ประกาศกำหนด และเงินที่ได้จากการประมูลเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วให้ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน   กสทช. จึงเป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับของรัฐ และต้องดำเนินการการจัดสรรคลื่นความถี่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้โดยเฉพาะเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของรัฐ ประโยชน์สาธารณะอื่น และการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ดังนั้น การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลคลื่นความถี่ กสทช.จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และพระราชบัญญัติองค์จัดสรรคลื่นความถี่ ฯ มาตรา 45 ดังกล่าว ซึ่งมิได้มีวัตถุประสงค์จะหารายได้เข้ารัฐเพียงประการเดียว แต่ได้กำหนดหลักเกณฑ์โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับจากการใช้คลื่นความถี่เป็นหลักควบคู่กับประโยชน์ที่รัฐจะได้รับในจุดที่มีความสมดุล สำหรับวิธีการประมูลจึงได้กำหนดขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการเป็นพิเศษโดยเฉพาะไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่แตกต่างกัน โดยการดำเนินการนี้สอดคล้องกับระบบสากลที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

                เมื่อการประมูลนี้ได้ดำเนินการไปถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย และหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดแล้ว จึงเป็นข้อยุติ และจะต้องดำเนินการต่อไป  วันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้คุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแล้ว โดยได้วงเงินจากการประมูลครั้งนี้จำนวน  41,625 ล้านบาท  และในขั้นต่อไปจะเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน โดยสำนักงาน กสทช. ได้ปรึกษา ประธาน กทค. และ กทค. แล้ว  ว่าจะดำเนินการลดอัตราค่าบริการค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงและข้อมูลลงตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ศึกษาข้อมูลและแนวทางดำเนินการไว้แล้ว ซึ่งจะได้นำเสนอ กทค. เพื่อประกาศกำหนดโดยเร็วต่อไป

สร้างโดย  -   (30/3/2560 10:23:41)

Download

Page views: 53