แนวทางปฏิบัติในการเดินทางไปอบรม สัมมนา ดูงาน ประชุม หรือปฏิบัติงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้วยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 ว่า ขอให้ข้าราชการงดการเดินทางไปอบรมดูงานในต่างประเทศ ยกเว้นไปติดต่อราชการหรือไปประชุมจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2558 คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณภาครัฐในการเดินทางไปศึกษาดูงาน การจัดประชุม อบรม สัมมนาในต่างประเทศ และสามารถนำเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในแผนงาน โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงมีมติให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติ ดังนี้
1. ให้หัวหน้าส่วนราชการ (กระทรวง/กรม) หรือเทียบเท่า ผู้บริหารของส่วนราชการ
ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น กรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลที่รัฐถือหุ้น งดเว้น
การ เดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ยกเว้นกรณีเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนาตามพันธกรณี ข้อตกลงระหว่างประเทศหรือหลักสูตรการศึกษาที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยหาก
มีความจำเป็นให้ขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นรายกรณี และให้รวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ
เป็นรายเดือน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติปฏิบัติในแนวทางเดียวกันด้วย
2. หากหน่วยงานเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาดูงาน อบรม หรือสัมมนา
ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการศึกษาดูงานภายในประเทศแทน โดยเฉพาะการศึกษาดูงานที่ศูนย์ศึกษา
อัน เนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ หรือให้พิจารณาเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาบรรยาย ซึ่งจะได้ประโยชน์และเป็นการประหยัดงบประมาณยิ่งขึ้น
3. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกำหนด
ให้ข้าราชการเดินทางด้วยเครื่องบินในชั้นโดยสาร ดังนี้
3.1 ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (อธิบดีหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการ เอกอัครราชทูต รองปลัดกระทรวง) ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ
ให้เดินทางภายในประเทศในชั้นประหยัดและเดินทางต่างประเทศในชั้นธุรกิจ
3.2 ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ประเภทอำนวยการ ระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ให้เดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในชั้นประหยัด
ทั้งนี้ ในระหว่างที่กระทรวงการคลังดำเนินการปรับปรุงระเบียบฯ ให้ข้าราชการ
ถือ ปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติสำนักงาน กสทช. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น จึงขอความร่วมมือผู้บริหารตั้งแต่เลขาธิการ กสทช. รองเลขาธิการ กสทช. ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยสำนักงาน กสทช. ภาค ผู้จัดการสำนักงานกองทุนฯ ผู้อำนวยการส่วนงาน พนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานประจำ กสทช. ทุกท่านถือปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ให้งดการเดินทางไปอบรม สัมมนา ดูงาน ในต่างประเทศทุกกรณีในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 หรือจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะทำสัญญา หรือได้รับอนุมัติให้เดินทางแล้วหรือไม่ก็ตาม ยกเว้นการเดินทางไปประชุมหรือปฏิบัติงานที่มีความจำเป็นและไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้ ซึ่งหากไม่เดินทางเข้าร่วมประชุมหรือปฏิบัติงานอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ สำนักงาน กสทช. ในกรณีที่ได้ทำสัญญาผูกพันเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศไว้แล้ว ให้ทำหนังสือแจ้งคู่สัญญาซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อยกเลิกเฉพาะการเดินทางไป ต่างประเทศ และขอเงินในส่วนดังกล่าวคืนเพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป
2. ในกรณีที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประชุมหรือเดินทางไปปฏิบัติงานในต่าง ประเทศให้เลขานุการคณะเดินทางหรือหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการเดินทางจัดทำ ข้อมูลรายละเอียดตามแบบรายงานการเดินทางที่แนบเพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติ การเดินทาง
3. การเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินให้เดินทางในชั้นประหยัดทุกกรณี จึงแจ้งมาเพื่อถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไปด้วย