บอร์ดกระจายเสียง / กสท. แถลงผลการประชุม ประจำวันที่ 8 ส.ค. 2559
วันนี้ (8 ส.ค. 2559) ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 26/2559 มีมติเสียงข้างมากเห็นว่า การออกอากาศรายการเผชิญหน้า Face Time ของช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องสปริงนิวส์ เมื่อวันพุธที่ 20 ก.ค. 2559 มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2557 เรื่อง การให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ประกอบกับประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 เป็นการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ตามข้อ 1 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 41/2559 ลงวันที่ 13 ก.ค.2559 เรื่อง การกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ จึงมีคำสั่งให้ปรับทางปกครองในอัตรา 50,000 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสท. มีคำสั่งเตือนทางปกครอง บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กรณีการออกอากาศรายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2559 มีลักษณะเป็นการต้องห้ามมิให้ออกอากาศ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค. 2557 เรื่อง การให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ประกอบกับประกาศ คสช.ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่
21 ก.ค. 2557 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 อีกทั้งเป็นการขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 4 มิ.ย.2558 ระหว่างสำนักงาน กสทช. กับบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ช่องรายการ VOICE TV โดยเห็นสมควรมีคำสั่งเตือนไปยังบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ให้ระงับการออกอากาศที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศ หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะใช้มาตรการบังคับทางปกครองต่อไป
ด้านความคืบหน้ากรณี บริษัท ซีทีเอช เคเบิ้ล ทีวี จำกัด ยุติการออกอากาศ ที่ประชุม กสท. มีมติ มอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. มีหนังสือถึง บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ในการจัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ (ลูกค้า) ภายหลังจากการยุติการให้บริการโครงข่ายกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูล ได้แก่ จำนวนลูกค้าที่รับบริการในทุกประเภทการให้บริการและจำนวนช่องรายการที่ออกอากาศบนโครงข่ายของบริษัทฯ นำเสนอต่อ กสท. เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนมาตรการเยียวยา ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฎิยัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัท ซีทีเอช เคเบิ้ล ทีวี จำกัด ยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีกจะใช้มาตราการทางปกครองที่สูงขึ้น ต่อไป และให้ บริษัทฯ ชี้แจงการดำเนินการ หรือแผนการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ช่องรายการ) กรณีที่มีการยุติการให้บริการโครงข่ายของบริษัทฯ และให้ บริษัทฯ แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายที่ใช้ในการออกอากาศ กรณีที่บริษัทฯ ประสงค์จะประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ช่องรายการ) ต่อไป ให้ กสท. ทราบก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
ต่อมา ที่ประชุม กสท. ได้มีคำสั่งทางปกครอง กรณี บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ยุติการให้บริการผ่านช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม ระบบ Ku-Band ในวันที่ 1 ส.ค. 2559 ก่อนที่จะได้รับอนุญาต จาก กสท. โดย ให้ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด จัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ เสนอให้ กสท.เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนเยียวยา ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว จะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วบริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน และหากยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีก จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
ที่ประชุม กสท.มติที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.มีคำสั่งทางปกครองให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด จัดทำแผนมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเพิ่มเติมให้เป็นธรรมและครอบคลุมการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ เสนอให้ กสท.เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบแผนเยียวยา ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว จะใช้มาตรการทางปกครองกำหนดโทษปรับวันละ 20,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน และหากยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอยู่อีก จะใช้มาตรการทางปกครองสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
สร้างโดย - มหิตถีห์ จักราบาตร (9/8/2559 12:54:56)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 104