ตามที่พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2543 บัญญัติให้อำนาจการอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมเป็นอำนาจของ กทช. มีผลทำให้การขอใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งแต่เดิมอยู่ในอำนาจการพิจารณาของกรมไปรษณีย์โทรเลขต้องยกเลิก และผู้ที่ต้องการจะขอใช้คลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม ต้องได้รับในอนุญาตจาก กทช. แทน
         นายเหรียญชัย เรียววิไลสุข กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ชี้แจงว่า ตามที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ บัญญัติให้อำนาจการอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมเป็นอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีผลทำให้การขอใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งแต่เดิมอยู่ในอำนาจการพิจารณาของกรมไปรษณีย์โทรเลขต้องยกเลิก และผู้ที่ต้องการจะขอใช้คลื่นความถี่ในกิจการ โทรคมนาคม ต้องได้รับในอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติแทน

         แต่เนื่องจาก ขณะนี้การจัดทำแผนความถี่วิทยุยังไม่เสร็จเรียบร้อย จึงจะยังไม่มีการพิจารณาจัดสรรหรืออนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคมเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ทางด้านการแพทย์ การคมนาคม และการประมง ซึ่งได้ขออนุญาตไว้ต่อกรมไปรษณีย์โทรเลขแต่ยังไม่ได้รับการอนุญาต คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่าคลื่นความถี่ที่ขอใช้นี้เป็นการใช้เพื่อการปฏิบัติงานขององค์กรที่เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของรัฐ เพื่อประชาชนโดยส่วนรวม เป็นบริการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมิใช่การค้า และเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าว สามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้ จึงมีมติอนุมัติการใช้คลื่นความถี่วิทยุในกิจการดังกล่าวตามความเหมาะสม

         ส่วนกรณีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานขอความร่วมมือในการให้บริษัทผู้ให้บริการ โทรศัพท์แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้โทรศัพท์ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางคดีอาญาทั่วไป คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้ความร่วมมือ แต่ต้องกำหนดมาตรการรักษาข้อมูลที่ได้รับเป็นความลับ และมิให้นำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น นอกเหนือจากประโยชน์ทางคดีเท่านั้น พร้อมกันนี้ได้มีการกำหนดกรอบในการหารือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อประสานงานความรับผิดชอบด้านการสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยเฉพาะเรื่องวงโคจรดาวเทียมไทยคม ทั้งนี้ ในอดีต กรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่อมีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการแทน จึงต้องมีการหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ

         อนึ่ง เพื่อให้การออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นไปอย่างโปร่งใส เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จึงได้มีมติให้จ้างที่ปรึกษาที่มีความ เชี่ยวชาญในการกิจการโทรคมนาคม ในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ เพื่อนำมาประกอบในการออก ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และเมื่อมีการศึกษาวิเคราะห์เสร็จแล้ว จะมีการทำประชาพิจารณ์จากนั้นจึงจะมีการพิจารณาออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการต่อไป

 

สร้างโดย  -   (30/3/2559 16:22:37)