สรุปมติที่ประชุม กสท. 15/2556
รายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
ครั้งที่ 15/2556
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2556 เวลา 09.30 น.
ณ ห้องประชุม ชั้น 12 อาคารอำนวยการ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ผู้เข้าร่วมประชุม
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
1. พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการ
2. พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ
3. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ
4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ
5. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ
6. พันตรี โกเมธ ประทีปทอง ผู้ช่วยเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มงาน กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เลขานุการ กสท.
7. นางสาวกอกนก กิจบาลจ่าย ผู้ช่วยเลขานุการรักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวย การภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์
8. นายสมบัติ ลีลาพตะ ผู้ช่วยเลขานุการรักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมาย กระจายเสียงและโทรทัศน์
9. นางสาวนนทรี เหมทานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารระดับต้น กลุ่มงานกรรมการ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
ผู้ไม่เข้าร่วมประชุม
1. นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ติดภารกิจรักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานการอนุญาต ประกอบกิจการ 1 – 3
เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.
1. นางสาวนงลักษณ์ วัชระเกียรติพงษ์ เลขานุการประธาน กสท.
2. นายกีรติ อาภาพันธุ์ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
3. นางรัตนากร ทองสำราญ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
4. นายอาคม สุวรรณรักษา พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
5. นายตรี บุญเจือ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
6. นางกนกวรรณ ศรีชัยชนะ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
7. นางสิริรัตน์ นิ่มเงิน พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
8. นางสาวกนกวรรณ อุ่นจิตต์ พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
9. นางเพ็ญพร ทองนาค พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
10. นายเมธา จันทร์หล้าฟ้า พนักงานปฏิบัติการระดับสูง
11. นายสุภัทรสิทธิ์ สวนสุข พนักงานปฏิบัติการระดับกลาง
12. นางสาวจงสุภา ปิ่นตาดวง พนักงานปฏิบัติการระดับต้น
13. นางสาวธนพร ลี้ตระกูลศิลป์ พนักงานตามสัญญาจ้าง
14. นางสาวอัจฉรีย์ เจตินัย พนักงานตามสัญญาจ้าง
15. นางสาววรลักษณ์ ตันติมังกร พนักงานตามสัญญาจ้าง
16. นางสาววันทนีย์ วริยานันทกุล พนักงานตามสัญญาจ้าง
17. นางนันท์นภัส ปัญญา พนักงานตามสัญญาจ้าง
18. นายผลเศรษฐ กริชติทายาวุธ พนักงานตามสัญญาจ้าง
19. นางสาวมณีนุช อ่อนกัน พนักงานตามสัญญาจ้าง
เริ่มประชุม 09.30 น.
ระเบียบวาระที่ 1 : เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ประธาน กสท. (พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์) กล่าวเปิดประชุม และแจ้งให้ทราบว่าช่วงปีงบประมาณ 2556 ขอให้กรรมการ กสท. ทุกท่าน รวมถึงสำนักงาน กสทช. ระมัดระวังวินัยในการใช้จ่ายงบประมาณ โดยให้ยึดถือตามระเบียบ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่างๆ โดยเคร่งครัด
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ 2 : เรื่องรับรองรายงานการประชุม
รายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 14/2556 เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2556 (ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กส.))
มติที่ประชุม รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 14/2556 เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2556 โดยมีข้อแก้ไข
ระเบียบวาระที่ 3 : เรื่องเพื่อทราบ
วาระที่ 3.1 : รายงานการดำเนินงานตามมติ กสท. ครั้งที่ 14/2556 เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2556 (ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.))
มติที่ประชุม ทราบ
วาระที่ 3.2 : รายงานผลการจัดประชุมเสวนาและรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม เรื่อง ศักยภาพและความพร้อมของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ไทย เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 (กลุ่มงานส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง (สส.))
มติที่ประชุม ทราบและมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.โดยกลุ่มงานส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลตนเอง (สส.) นำเสนอต่อที่ประชุม กสทช. ทราบ รวมทั้งแจ้งให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องทราบด้วย
วาระที่ 3.3 : การแจ้งคำสั่งศาลในคดีปกครองหมายเลขดำที่ 265/2555 (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ 4 : เรื่องเพื่อพิจารณา
วาระที่ 4.1 : การพิจารณาคำขอทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2556 ถึงวันที่ 18 เมษายน 2556 (กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 1 (ปส.1))
มติที่ประชุม เห็นชอบตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ จำนวนทั้งสิ้น 74 ราย ดังปรากฏรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย เอกสาร 1
วาระที่ 4.2 : ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (กิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่) (กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 2 (ปส.2))
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบผลการวิเคราะห์ความเหมาะสม และอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อให้บริการกิจการโทรทัศน์ (กิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่) จำนวน 67 ช่องรายการ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ดังปรากฏรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย เอกสาร 2
2. ให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบข้อมูลของผู้รับใบอนุญาต หากพบว่ามีการกระทำความผิดหรือเคยกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับ อย. ให้สำนักงาน กสทช. ถือปฏิบัติตามแนวทางที่ที่ประชุม กสท.
เคยมีมติไว้แล้ว
3. กรณีพบว่ามีเนื้อหารายการที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ให้สำนักงาน กสทช. ถือปฏิบัติตามแนวทางที่ที่ประชุม กสท. เคยมีมติไว้แล้ว กล่าวคือ ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาให้ความเห็นต่อไป
4. ให้สำนักงาน กสทช. เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของแบบคำขอเอกสารหลักฐานประกอบคำขอ และพิจารณากลั่นกรองพร้อมวิเคราะห์ความเหมาะสมของการให้บริการกิจการโทรทัศน์ (กิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่)ของคำขอที่ได้ยื่นไว้แล้ว ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2556
วาระที่ 4.3 : ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ จำนวน 9 ราย (9 ใบอนุญาต) (กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 2 (ปส.2))
มติที่ประชุม เห็นชอบผลการวิเคราะห์ความเหมาะสม และอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (กิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่) จำนวน 6 ราย (6 ใบอนุญาต) ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ดังปรากฏรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย เอกสาร 3
วาระที่ 4.4 : เรื่อง ไทยพีบีเอส (ส.ส.ท.) ขออนุญาตยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯ (คณะอนุกรรมการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ / กลุ่มงานค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (นส.))
มติที่ประชุม ส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พิจารณาเสนอความเห็น และนำเสนอต่อที่ประชุม กสท. อีกครั้งหนึ่ง
วาระที่ 4.5 : ข้อพิจารณาตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม ส่งให้คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. พิจารณาเสนอความเห็น และนำเสนอต่อที่ประชุม กสท. อีกครั้งหนึ่ง
วาระที่ 4.6 : สถานีวิทยุไทยทีวีสีช่อง 3 ยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์ เรื่อง "เหนือเมฆ 2 ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ (กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม
1. เห็นควรกำหนดหลักการพิจารณาเนื้อหารายการตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ดังนี้
1.1 ให้สถานีโทรทัศน์ผู้รับใบอนุญาต หรือผู้รับอนุญาตประกอบกิจการมีหน้าที่แต่งตั้งผู้อำนวยการสถานีประจำแต่ละสถานีเพื่อควบคุมดูแลให้มีการออกอากาศให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต และดูแลการจัดรายการ การดำเนินรายการ และการออกอากาศให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายและประกาศที่คณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตต้องรับผิดในการกระทำของผู้อำนวยการสถานีเสมือนเป็นการกระทำของตนเองเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการกระทำดังกล่าว ตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วยและได้ใช้ความระมัดระวังในการป้องกันตามสมควรแล้ว ตามมาตรา 29 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
1.2 กรณีที่เนื้อหาสาระรายการใดเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ออกอากาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ตามที่กำหนดในมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับอนุญาตมีหน้าที่ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการดังกล่าว
2. เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ ต่อกรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์ เรื่อง "เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์" เนื่องจากการพิจารณาตัดสินระงับการออกอากาศของผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นไป ตามหลักการข้อ 1.1 และ 1.2 แต่อย่างไรก็ดี การดำเนินการใดๆ ของสถานีจะต้องดำเนินการโดยให้คำนึงถึง สิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วย ดังนั้น การสั่งระงับหรือยุติการแพร่ภาพของรายการหรือเนื้อหาสาระดังกล่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สมควรชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุแห่งการดำเนินการดังกล่าวต่อสังคมอย่างสมเหตุสมผล โดยต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานของความโปร่งใส ธรรมาภิบาล และสิทธิ เสรีภาพในการเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็นภายใต้ข้อบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
3. มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. แจ้งผลการพิจารณาให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อทราบผลการพิจารณาและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามข้อ 2 พร้อมรายงานให้คณะกรรมการทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันได้รับแจ้งผลการพิจารณา
4. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและการกำกับดูแลเนื้อหารายการสำหรับการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ จึงเห็นควรมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับหลักการในกรณีดังกล่าว ไปประกอบการจัดทำร่างหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลเนื้อหารายการตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ต่อไป
5. มอบหมายให้กลุ่มงานส่งเสริมสิทธิและกิจการเพื่อสาธารณะ (สภ.) เพื่อเผยแพร่ผลการพิจารณาต่อสาธารณะผ่านทางเว็ปไซต์ของสำนักงาน กสทช.
วาระที่ 4.7 : รายชื่อหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานจัดอบรมหลักสูตรบัตรผู้ประกาศตามประกาศ กสทช. เรื่อง การอบรมและทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 (กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบรายชื่อหน่วยงานที่สามารถจัดอบรมหลักสูตรผู้ประกาศตามประกาศ กสทช. เรื่อง การอบรมและทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2556 ตามที่สำนักงาน กสทช.เสนอ ดังปรากฏรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย เอกสาร 4 และให้สำนักงาน กสทช. นำข้อเสนอแนะของกรรมการ กสท. ไปพิจารณาดำเนินการ
วาระที่ 4.8 : เรื่องร้องเรียนด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ (กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บส.))
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ยุติเรื่องร้องเรียนทั้ง 3 กรณี
2. ให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้แจ้งผู้ดำเนินรายการให้ใช้ความระมัดระวังการใช้ถ้อยคำขณะออกอากาศ
3. กรณีเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบจริยธรรมผู้ผลิตและเผยแพร่ละครเรื่อง “แรงเงา” ให้สำนักงาน กสทช. โดยกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ผู้ประกอบอาชีพ/วิชาชีพด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์มีความรับผิดชอบในการยกระดับฐานะหรือคุณค่าของสังคม เมื่อหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการฯ ประกาศใช้บังคับ และส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลตนเองนำไปใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. ให้ส่งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนทั้ง 3 กรณี ให้กลุ่มงานส่งเสริมสิทธิและกิจการเพื่อสาธารณะ (สภ.) เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านทางเว็ปไซต์ของสำนักงาน กสทช.ต่อไป
วาระที่ 4.9 : แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะทำงานพิเศษระหว่าง กสทช. และคณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) (กลุ่มงานมาตรฐานและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ทส.))
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบในหลักการต่อการศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานความถี่ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย บนย่านความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ สำหรับกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (Digital Terrestrial Television Broadcasting) และระบบบอร์ดแบนด์เคลื่อนที่ (Mobile Broadband) โดยมอบหมายให้กลุ่มงานมาตรฐานและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ ร่วมเป็นผู้แทนสำนักงาน กสทช. ในการศึกษาดังกล่าว
2. เห็นชอบให้การศึกษาตามข้อ 1 อาศัยกลไกปัจจุบันของการประสานและจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุตามบริเวณชายแดนไทย – มาเลเซีย ซึ่งประกอบด้วยคณะทำงานพิเศษ (Special Task Force, STF) และคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee, JTC)
หมายเหตุ รับรองมติที่ประชุมของระเบียบวาระที่ 4.9 เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป
วาระที่ 4.10 : เรื่องร้องเรียนกรณีไม่สามารถรับชมช่องรายการ Golf channel Thailand เนื่องจากบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ย้ายช่องรายการดังกล่าวไปไว้ในแพ็คเกจที่สูงขึ้น (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เสนอ ดังนี้
1. ยุติเรื่องร้องเรียนของนางสาวณพีสี นันทวัน ณ อยุธยา
2. มอบหมายสำนักงาน กสทช.เร่งดำเนินการจัดทำมาตรฐานสัญญาให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
3. ให้สำนักงาน กสทช.พิจารณาจัดเวทีแลกเปลี่ยน (Focus Group) เรื่อง การบริการของกิจการแบบบอกรับสมาชิก เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำข้อเสนอ ต่อ กสท. ต่อไป
วาระที่ 4.11 : เรื่องร้องเรียนกรณีไม่ได้รับเงินค่ามัดจำอุปกรณ์เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท คืนจากการยกเลิกการใช้บริการจานรับสัญญาณดาวเทียมของบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เสนอ ดังนี้
1. ยุติเรื่องร้องเรียนของนายไพรัตน์ จำปาศรี
2. ส่งเรื่องให้กลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ 2 บันทึกการกระทำดังกล่าว (เป็นการกระทำที่เอาเปรียบผู้บริโภค) ไว้เพื่อประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาตต่อไป
วาระที่ 4.12 : เรื่องร้องเรียนกรณีไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จากบริษัท เอ็ม. เอส.เอส. เคเบิลทีวี จำกัด (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ เสนอ ดังนี้
1. ยุติเรื่องร้องเรียนของนายไพเราะ อินสูงเนิน
2. มอบหมาย สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการระมัดระวังการโฆษณาเกี่ยวกับการออกอากาศรายการที่มีความเกี่ยวพันธ์กับลิขสิทธิ์ของรายการ โดยให้แน่ใจว่าจะสามารถนำมาออกอากาศได้จริง เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ
วาระที่ 4.13 : เรื่องร้องเรียนกรณีบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ปรับลดราคา True Knowledge ให้กับสมาชิกใหม่ในราคา 299 บาท โดยสมาชิกเก่ายังคงจ่ายในราคา 495 บาท (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบให้ยุติเรื่องร้องเรียนของนายอดุลย์ ตันธุวนิตย์
วาระที่ 4.14 : เรื่องร้องเรียน บริษัท สตาร์ เคเบิล ทีวี จำกัด แพร่ภาพออกอากาศภาพยนตร์เรื่องเดิมบ่อยครั้ง (คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (รส.))
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบให้ยุติเรื่องร้องเรียน
2. เห็นควรให้สำนักงาน กสทช. โดยกลุ่มงาน กำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(ดส) ตรวจสอบหากพบว่า สตาร์เคเบิล ทีวี นนทบุรี ประกอบกิจการโดยมิได้รับใบอนุญาต ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
3. ให้สำนักงาน กสทช. โดยกลุ่มงานการอนุญาตประกอบกิจการ (ปส.) มีหนังสือแจ้ง “การเคหะแห่งชาติ” ว่าได้ใช้บริการผู้ประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต และให้จัดทำแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าผู้ประกอบกิจการรายใดได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและให้กำกับไว้ในมาตรฐานการให้บริการหรือมาตรฐานสัญญาที่ผู้ให้บริการจะต้องแจ้งให้ผู้บริโภคทราบว่า ตนได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการตามกฎหมาย
วาระที่ 4.15 : ขอเปลี่ยนแปลงฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
วาระที่ 4.16 : การอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลบริการสาธารณะ (กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส.))
มติที่ประชุม
1. ที่ประชุมเสียงข้างมาก (ประธาน กสท. (พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์) กสทช. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า และ กสทช. พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ) เห็นชอบข้อพิจารณาของสำนักงาน กสทช. ต่อกรณีการแสดงความคิดเห็นของสภาวิชาชีพข่าวและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และข้อเสนอจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็น “การปฏิรูปสื่อในทีวีดิจิตอลสาธารณะ : รูปแบบที่ควรจะเป็น” ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
สำหรับที่ประชุมเสียงข้างน้อย (กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์ และ กสทช. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์) ไม่เห็นชอบต่อข้อพิจารณาของสำนักงาน กสทช. ดังกล่าว โดยมีความเห็นตามบันทึกความเห็นส่วนตนที่แนบ เอกสาร 5 และเอกสาร 7 ตามลำดับ
2. ให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งสภาวิชาชีพข่าวและโทรทัศน์ไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตามแนวทางที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
วาระที่ 4.17 : การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ประจำปี 2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 (กลุ่มงานอำนวยการภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์ (อส.))
มติที่ประชุม
1. การใช้จ่ายเงินงบประมาณเห็นควรให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบวงเงินงบประมาณ และวัตถุประสงค์ที่ได้รับการจัดสรรโดยเคร่งครัด เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง
2. กรณีการใช้จ่ายเงินงบประมาณโครงการ เห็นควรให้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง และเป็นไปตามกรอบวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุมัติจาก กสท. และ กสทช. โดยเคร่งครัด หากมีความจำเป็นต้องขยายกรอบการดำเนินงานของงานโครงการ แม้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุมัติจาก กสทช. แล้ว ก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสท. ก่อนดำเนินการ
3. กรณีการใช้จ่ายงบประจำ ด้วยในปีงบประมาณ 2556 ภารกิจกระจายเสียงฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้อย่างจำกัด ภายใต้วัตถุประสงค์ของการตั้งคำของบประจำ ดังนั้น หากมีความจำเป็นเพิ่มเติม ในการใช้จ่าย เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดประชุม สัมมนา หรืออื่นๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกเห็นควรมอบหมายสำนักงาน กสทช. โดยกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ การดำเนินการใดๆ ของกลุ่มงานในภารกิจกระจายเสียงฯ ที่เกี่ยวข้องหรือส่งผลต่อการใช้จ่ายงบประมาณ ให้ผ่านเรื่องให้ อส. ตรวจสอบงบประมาณว่ามีอยู่ตามเจตนาของการทำคำขอ หรือได้รับการจัดสรรไว้หรือไม่ เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณในภาพรวมเป็นไป ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
ระเบียบวาระที่ 5 : เรื่องอื่นๆ
ไม่มี
เลิกประชุมเวลา 13.15 น.
สร้างโดย - (7/4/2559 12:49:43)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 159