กสทช.ระดมแผนเด็ดปี 58 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยงบฯ ใหม่ปรับตามแนว สตง. ชูรัฐสภาตรวจสอบ

กสทช.ระดมแผนเด็ดปี 58 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยงบฯ ใหม่ปรับตามแนว สตง. ชูรัฐสภาตรวจสอบ

    กสทช. เตรียมพร้อมเดินหน้าโครงการปี 2558 จัดประมูลคลื่นความถี่เพื่อนำเทคโนโลยี 4G มาใช้ในประเทศไทย  การประมูลเลขสวย  เปิดช่องทีวีสาธารณะ  คาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจนำรายได้เข้ารัฐหลายหมื่นล้านบาท  ยืนยันการปรับกระบวนการจัดสรรงบประมาณประจำปี 57 และ 58 ตามคำแนะนำของสตง.  ส่วนงบฯ ปี 56 ผ่านการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐแล้ว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยภายหลังการหารือเบื้องต้นร่วมกับผู้บริหารสำนักงาน กสทช. ว่าขณะนี้สำนักงาน กสทช.ได้เตรียมภารกิจปี 2558 เพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐ โดยมีโครงการหลักที่จะดำเนินการได้แก่ การจัดสรรคลื่นความถี่โทรคมนาคมด้วยวิธีการจัดประมูลคลื่น 4 G  โครงการประมูลเลขสวย นอกจากนี้ยังเปิดช่องทีวีสาธารณะเพื่อเผยแพร่สาระและความรู้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
    นายฐากรกล่าวว่า ในโครงการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz ที่จะมีขึ้นในปี 2558 เป็นการจัดสรรคลื่นความถี่และรองรับการใช้งานเลขหมาย การใช้ข้อมูลหรือดาต้าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)  การจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 MHz ที่ได้นำมาใช้ให้บริการ 3 G เมื่อปี 2555 นั้น  กสทช.ช่วยกระตุ้นให้ระบบเศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างมากมีเม็ดเงินหมุนเวียนนับแสนล้านในระบบเศรษฐกิจ
นายฐากรกล่าวว่า กสทช.ยื่นงบฯรายจ่ายเมี่อปี2556ให้สตง.ตรวจสอบและผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้สตง. มีข้อแนะนำให้ปรับปรุงการจัดทำงบฯ  ทางกสทช. ปฎิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวโดยในงบฯด้านการดูงานต่างประเทศ ในปี 2557 และปี 2558 กสทช.ลดทั้งจำนวนโครงการและงบฯลงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การจัดทำงบฯของกสทช.ทุกปี จะต้องผ่านการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณ ในงบฯปี2558 จะมีตัวแทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 4 คนเข้าร่วมตรวจสอบด้วย
    นายฐากร กล่าวว่า กสทช.ได้ยื่นงบฯรายจ่ายเมี่อปี 2556ให้ สตง.ตรวจสอบและผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ทั้งนี้ สตง.มีข้อแนะนำให้ปรับปรุงการจัดทำงบฯ ซึ่ง กสทช.ได้นำคำแนะนำดังกล่าวมาปรับใช้  โดยในงบฯด้านการดูงานต่างประเทศปี 2557และปี 2558 ได้ลดทั้งจำนวนโครงการและงบฯลงเป็นจำนวนมาก
    นายฐากรกล่าวว่า สาเหตุที่ในปี 2556ต้องใช้จ่ายงบประมาณด้านการดูงานต่างประเทศและประชาสัมพันธ์สูง  เนื่องจาก กสทช. มีแผนจะจัดประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz เพื่อพัฒนาสู่ระบบ 4 G และทีวีดิจิตอล จึงจำเป็นต้องเสาะแสวงหาความรู้และประสบการณ์รวมถึงกรณีตัวอย่างการจัดประมูลในต่างประเทศเนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านโทรคมนาคมและกระจายเสียงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวและแนวคิดเพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
นายฐากร  กล่าวว่า สำหรับการจัดทำงบประมาณประจำปี 2557 และ 2558 ของสำนักงาน กสทช. นั้น เป็นไปตามข้อเสนอแนะจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  รวมถึงได้มีการนำส่งรายได้แผ่นดินให้กระทรวงการคลังประจำปี 2556 เป็นเงินทั้งสิ้น  654.5 ล้านบาท  โดยงบฯ ประมาณดังกล่าวได้ผ่านการรับรองรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)แล้ว   โดยเป็นการดำเนินการตามมาตรา 65 (1) (2) ของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553  
    นายฐากร กล่าวว่า พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 27 ได้ให้อำนาจ กสทช. จัดทำและอนุมัติงบประมาณของตนเอง  ซึ่งงบประมาณรายได้ของสำนักงาน กสทช. มีที่มาจาก  1. มาจากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ   2. ค่าเลขหมายโทรศัพท์หรือบริการอื่นๆ  3. รายได้จากการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยวิธีการจัดประมูล  โดยรายได้เมื่อเข้ามาที่สำนักงาน กสทช.จะต้องจัดสรรไปเป็นรายจ่าย 1.เข้ากองทุน 2. นำรายได้มาเป็นรายจ่ายตั้งงบประมาณเองใน กสทช.  
     ทั้งนี้รายได้จากการจัดสรรคลื่นความถี่ฯ หรือการจัดประมูล 3 G จำนวนกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท สำนักงาน กสทช.จะนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด ส่วนคลื่นความถี่สำหรับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ จะถูกนำส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ  ตาม พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553    อย่างไรก็ตามจากประกาศ คสช.ฉบับที่ 80 /2557  เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับฯ ได้ให้สำนักงาน กสทช. นำเงินรายได้จากการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิตอลทีวีที่ยังไม่นำเข้ากองทุนนำส่งเข้ารัฐทั้งหมด  ซึ่งในภายหลังทางผู้ชนะการประมูลช่องทีวีดิจิตอลได้ยื่นเรื่องขอยืดระยะเวลาการนำส่งเงินจากการชนะการประมูลให้กับ กสทช. ในปีที่ 2 ไปอีก 1 ปี

สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีของ กสทช. สามารถแบ่งได้เป็น 3  ประเภทดังนี้

     1. งบด้านบุคลากร ซึ่ง กสทช.มีอยู่ 1,300 คน ต่อปี มีรายจ่ายประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยประมาณ รวมค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส
     2. งบลงทุน  แบ่งเป็นค่าอบรม สัมมนา  ซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ระหว่าง 3,000-4,000 ล้านบาท
     3. งบบริหารจัดการองค์กร ประกอบด้วย ค่าน้ำ ค่าไฟ งบศึกษาดูงานต่างประเทศ  โดยงบประมาณของสำนักงาน กสทช. จะต้องผ่านการพิจารณาของอนุงบประมาณ สำนักงาน กสทช. ก่อนผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553   โดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภาเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขรายการงบประมาณประจำปีของรัฐ   ทั้งนี้ มาตรา 65 และ 66  แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553   กำหนดให้รัฐสภาสามารถพิจารณางบประมาณสำนักงาน กสทช. กรณีรายได้ของสำนักงาน กสทช.ไม่เพียงพอกับการใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน โดย รัฐจะต้องเข้ามาจัดสรรงบประมาณให้
    นายฐากร กล่าวในตอนท้ายว่า ทางสำนักงาน กสทช. พยายามผลักดันให้การพิจารณาและตรวจสอบงบประมาณของสำนักงาน กสทช. ผ่านกระบวนการทางรัฐสภา  ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Download

สร้างโดย  -   (8/3/2560 15:49:54)

Download

Page views: 4