นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า ไอโฟน 5 ระเบิดหลังจากที่เจ้าของเครื่องกำลังโทรออกไม่ถึง 30 วินาที นั้น สำนักงาน กสทช. ขอเรียนให้เจ้าของเครื่อง หรือผู้ที่มีเครื่องดังกล่าวอยู่ในครอบครอง นำเครื่องดังกล่าว พร้อมแบตเตอรี่ และอุปกรณ์ต่างๆ ส่งมาให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบถึงสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้

               นายฐากร กล่าวว่า การตรวจสอบดังกล่าว จะทำให้ทราบถึงสาเหตุของการระเบิดว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ในส่วนของการรับรองมาตรฐานเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จากสำนักงาน กสทช. สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ Apple Iphone 5 บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ยื่นขอตรวจสอบและรับรองเครื่องมาโดยส่งเอกสารหลักฐาน สำเนารายงานผลการทดสอบ (Test Report) จากหน่วยงานทดสอบในประเทศสหรัฐอเมริกา สำเนาใบรับรองระบบงานของห้องปฏิบัติการ (Accreditation Certificate) และรูปถ่ายของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ ประกอบการตรวจสอบฯ และได้ผ่านการรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ของสำนักงานฯ ตามประกาศ กทช. ว่าด้วยมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ เรื่อง เครื่องวิทยุคมนาคมลูกข่ายในกิจการเคลื่อนที่ทางบก ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรังผึ้ง (Cellular) ซึ่งใช้เทคโนโลยี IMT-2000 CDMA Direct Spread (WCDMA) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 ใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมฯ เลขที่ B38381-12 

               เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ในการตรวจสอบนอกจากจะตรวจสอบโทรศัพท์เครื่องที่ระเบิด พร้อมแบตเตอรี่ และอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ยังต้องตรวจสอบว่าบริษัทฯ นำเข้าเครื่องมาจำหน่ายทั้งหมด หรือมีการนำเข้าแบบแยกส่วนเครื่อง แล้วนำมาประกอบกับแบตเตอรี่ภายหลัง ทั้งนี้หากสำนักงาน กสทช. ตรวจสอบแล้วพบว่าสาเหตุของการระเบิดเกิดจากตัวเครื่อง จะทำการเรียกตรวจสอบว่าเครื่องที่บริษัทฯ นำเข้ามาจำหน่ายมีมาตรฐานเดียวกันกับมาตรฐานในเอกสารที่ผ่านการรับรองของหน่วยงานทดสอบในประเทศสหรัฐอเมริกาที่นำมายื่นขอตรวจสอบและรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จากสำนักงาน กสทช. หรือไม่ หากสาเหตุของการระเบิดเกิดจากแบตเตอรี่และการนำเข้าเป็นการนำเข้าแบบแยกชิ้นส่วน จะต้องมีการตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ที่นำมาประกอบได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) หรือไม่ 

               นายฐากร กล่าวต่อว่า เรื่องนี้สำหรับสำนักงาน กสทช. ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อดังกล่าวเป็นที่นิยมใช้ของประชาชน และปัญหานี้ถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เป็นอันตรายที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้เมื่อได้เครื่องดังกล่าวมา สำนักงาน กสทช. จะเร่งทำการตรวจสอบโดยเร็วภายใน 3-4 วัน น่าจะทราบผล สำนักงานฯ ขอเรียนว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีกขอให้เจ้าของเครื่องแจ้งปัญหามาที่ Call Center 1200 ของสำนักงาน กสทช. พร้อมทั้งส่งเครื่องพร้อมอุปกรณ์มาให้ตรวจสอบ หรือหากเจ้าของเครื่องได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเครื่องมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อตรวจสอบ และสำนักงาน กสทช. จะได้ดำเนินการกับปัญหาดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ให้อำนาจสำนักงาน กสทช. ดำเนินการ

• 
• 
• 
• 
• 

• 
• 
• 
• 
• 

สร้างโดย  -   (30/3/2559 11:54:35)