เลขาธิการ กสทช. เผย บ.ไทยทีวี จำกัด สามารถขอยกเลิกใบอนุญาตและเลิกประกอบกิจการได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด กสท. ก่อน อย่างไรก็ตาม เงินค่าประมูลต้องชำระให้ครบตามจำนวนที่ประมูลได้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้มีหนังสือถึง กสทช. ขอยกเลิกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลและเลิกการประกอบกิจการตามใบอนุญาต ในช่องไทยทีวี หมวดหมู่ช่องข่าวสารสาระ และช่อง LOCA หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว วันนี้ (27 พ.ค. 2558) สำนักงาน กสทช.ได้มีการประชุมหารือถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งต้องมาดูตามประกาศหลักเกณฑ์ของ กสทช. ในการที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ การที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ขอยกเลิกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลและเลิกการประกอบกิจการตามใบอนุญาตทั้ง 2 ช่อง ไม่ได้เกี่ยวกับการชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอล แม้ว่าจะมีการอนุมัติให้ยกเลิกไม่ให้ประกอบกิจการแล้วก็ตาม เงินที่จะต้องชำระค่าประมูลใบอนุญาตดิจิตอลทีวีก็จะต้องชำระเงินค่าประมูลต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556 ข้อ 10 กำหนดไว้ว่า เมื่อการประมูลสิ้นสุดลง ให้ผู้ชนะการประมูลชำระค่าธรรมเนียมการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามราคาสุดท้ายที่ผู้ชนะการประมูลแต่ละรายเสนอ ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด นั่นคือ แม้ว่าบริษัท ไทยทีวี จำกัด จะทำหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการมา ก็ต้องชำระค่าประมูลที่ประมูลไว้กับ กสทช. ให้ครบตามจำนวนแต่ละงวดให้ครบตามที่ กสทช. ได้ประกาศกำหนดไว้
สำหรับเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอล ของช่องไทยทีวี ในหมวดข่าวสารสาระ วงเงินที่บริษัท ไทยทีวี จำกัดประมูลไปได้คือ 1,328 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในงวดที่ 1 ช่องไทยทีวีได้ชำระมาแล้ว 220.8 ล้านบาท ในงวดที่ 2 ที่จะต้องมีการชำระในครั้งนี้ 176.8 ล้านบาท งวดที่ 3 จำนวน 243.6 ล้านบาท งวดที่ 4 จำนวน 243.6 ล้านบาท งวดที่ 5 จำนวน 221.6 ล้านบาท และงวดที่ 6 จำนวน 221.6 ล้านบาท รวมเงินที่ยังค้างในงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 ค้างชำระอยู่1,107.2 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยในส่วนนี้ได้มีแบงค์การรันตีของแบงค์กรุงเทพวางไว้อยู่แล้ว ในส่วนของช่อง LOCA หมวดหมู่เด็ก เยาวชน และครอบครัว วงเงินที่ประมูลไปได้ทั้งหมด 648 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในงวดที่ 1 ช่อง LOCA ได้ชำระมาแล้ว 120.8 ล้านบาท ในงวดที่ 2 ที่จะต้องมีการชำระในครั้งนี้อีก 92.8 ล้านบาท งวดที่ 3 จำนวน 115.6 ล้านบาท งวดที่ 4 จำนวน 115.6 ล้านบาท งวดที่ 5 จำนวน 111.6 ล้านบาท และงวดที่ 6 จำนวน 111.6ล้านบาท ซึ่งรวมเงินที่ยังค้างในงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 ค้างชำระอยู่ 527.2 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทั้งนี้ รวมทั้งสองช่องแล้วคงค้างชำระอยู่ 1,634.4 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นายฐากร กล่าวว่า ในกรณีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ทำหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการทั้งสองช่องมา ตามประกาศหลักเกณฑ์ของ กสทช. กระบวนการยกเลิก จะทำให้สำเร็จ จะมีผลเมื่อไหร่ นั้นตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ข้อ 18 กำหนดไว้ว่า การสิ้นสุดการอนุญาต นอกจากครบกำหนดระยะเวลาตามใบอนุญาตแล้ว ใบอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์อาจสิ้นผล ในกรณี ดังต่อไปนี้ (1) ผู้รับใบอนุญาตแจ้งยกเลิกการประกอบกิจการตามที่ได้รับอนุญาต และได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดก่อนเลิกกิจการแล้ว นั่นก็คือ การขอยกเลิกการประกอบกิจการทั้งสองของบริษัท ไทยทีวี จำกัด จะส่งผลต่อเมื่อ กสท. ได้มีมติให้ความเห็นชอบแล้วว่าให้ยกเลิกการประกอบกิจการได้ ในเงื่อนไขที่ กสท. จะประกาศได้ว่าจะมีผลเมื่อไหร่นั้นเป็นบริษัท ไทยทีวี จำกัด ต้องดำเนินการตามประกาศหลักเกณฑ์ของ กสทช. กระบวนการยกเลิก จะทำให้สำเร็จ จะมีผลเมื่อไหร่ นั้นตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ข้อ 21 ที่กำหนดว่า ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ในการจัดให้มีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดต่อผู้ใช้บริการภายหลังการสิ้นสุดการอนุญาตให้ประกอบกิจการตามประกาศนี้ และให้รวมถึงกรณีที่มีการพักหรือหยุดการให้บริการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน นั่นคือ เมื่อบริษัท ไทยทีวี จำกัด ทำหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการเข้ามา สำนักงาน กสทช. จะต้องทำเรื่องนี้เสนอต่อ กสท. ก่อนว่าได้มีกระบวนการมาตรการเยียวยาครบถ้วนตามประกาศที่กำหนดไว้รึยัง เมื่อได้ดูว่าได้ดำเนินการตามประกาศ กสทช. ครบถ้วนแล้ว และ กสท. มีมติให้บริษัท ไทยทีวี จำกัด ยกเลิกการประกอบกิจการได้ ก็จะมีผลวันนั้นเป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่ทางบริษัท ไทยทีวี จำกัด จะเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ในวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะมีการอธิบายว่า กระบวนการยกเลิก จะทำให้สำเร็จ จะมีผลเมื่อไหร่ ต้องดำเนินการอย่างไร
การที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ขอยกเลิกการประกอบกิจการเมื่อ กสท. อนุมัตให้ยกเลิกได้แล้ว จะส่งผลให้บริษัทไม่ต้องค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่จะต้องชำระกับ กสทช. ร้อยละ 2 เท่านั้น แต่ในส่วนของเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลจะต้องมีการชำระต่อไปจนกว่าจะครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละงวด ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ ของ กสทช. ที่ได้มีการกำหนดไว้ชัดเจนในขั้นตอนของการประมูล
นายฐากร กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ผู้ให้บริการทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง ได้มีการพูดถึงการให้บริการโครงข่ายที่ไม่มีความพร้อม การแจกคูปอง มูลค่าของคูปอง ขอเรียนว่า ในส่วนของการให้บริการโครงข่าย ขณะนี้การให้บริการด้านโครงข่ายมีการติดตั้งเร็วกว่าแผน โดยโครงข่ายของ ไทยพีบีเอส และกองทัพบก ได้มีการติดตั้งสถานีฐานไปแล้วทั้งหมด 38 สถานีฐาน ส่วนโครงข่ายของ อสมท ได้มีการติดตั้งสถานีฐานไปแล้ว 35 สถานีฐาน ซึ่งทั้งหมดจะครบทั้งสิ้น 40 สถานีฐานภายในเดือน มิ.ย. 2558 อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนที่ กสทช. ได้กำหนดไว้ ส่วนเรื่องของการแจกคูปอง ขณะนี้ยอดของการแจกคูปองได้มีการแจกไปแล้วครบทั้ง 14.1 ล้านฉบับ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 ได้แจกไปอีก 5.4 ล้านใบ และพบว่าขณะนี้มียอดที่ประชาชนนำคูปองไปแลกกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์แล้ว 4.7 ล้านใบ ซึ่งคิดเป็น 55% จาก 8.7 ล้านฉบับ คูปองที่เพิ่งแจกออกไปยังถึงมือประชาชนไม่หมด ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ที่คาดการว่าทั้งหมดจะมีผู้นำคูปองไปแลกประมาณ 70% สำหรับคูปองลอตแรก ขณะนี้ท่านหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาสิ้นสุดการใช้คูปองออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. 2558 เป็นสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค. 2558 ในส่วนของเงื่อนไขของการใช้คูปองในขณะนี้ คูปองจะสามารถนำไปแลกได้ 3 อย่าง คือ 1.นำไปแลกกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์มูลค่า 690 บาท 2.นำไปใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อทีวีดิจิตอลที่มีภาครับในตัว และ 3.นำไปใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์แบบไฮบริดที่สามารถรับชมได้ทั้งระบบดาวเทียม และระบบภาคพื้นดินได้ในเครื่องเดียวกัน สำหรับกล่องไฮบริดจะเริ่มมีการวางจำหน่ายในวันที่ 1 มิ.ย. 2558 นี้ สำนักงาน กสทช. เร่งรัดดำเนินการประชาสัมพันธ์ รวมถึงเรื่องการจะร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคและกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบกในการที่จะช่วยติดเซ็ตท็อป บ็อกซ์ให้กับประชาชนก็กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
สำนักงาน กสทช. พร้อมที่จะช่วยดำเนินการและสนับสนุนช่องทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่องในการเปลี่ยนผ่านไปสูการรับชมโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลให้เป็นผลสำเร็จ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Download
Press-Release.doc
สร้างโดย - (9/3/2559 10:46:51)
Download
เอกสารแนบ
Page views: 686